Home > Celebrity > Exclusive Interviews > CEO Next GEN Big Shot – ‘ออม-ปภาพินท์ วีระภุชงค์’ ทายาทรุ่นที่ 3 ของอาณาจักรไทยนครพัฒนา กับการปั้นแบรนด์ ‘พรีมโนบุ’ ให้เติบโตไม่แพ้แบรนด์หลัก

ในปี 2022 นี้ HELLO! ขอแนะนำ 7 เซเลบริตี้ที่ประสบความสำเร็จสูงในธุรกิจที่แต่ละคนเริ่มต้นขึ้นใหม่ และก้าวผ่านอุปสรรคต่างๆ มาได้จนมายืนอยู่ในระดับแถวหน้าอย่างน่าชื่นชม ภายในเวลาไม่นาน ซึ่งผู้บริหารรุ่นใหม่เหล่านี้ต่างมาสะท้อนความคิดเห็นที่น่าสนใจในฐานะของผู้นำในโลกยุคใหม่ ที่มีทั้งความกล้าและไม่กลัวที่จะแสวงหาโอกาสใหม่ๆ และแม้อาณาจักร ‘ไทยนครพัฒนา’ หรือ TNP Healthcare ที่มีแบรนด์ใหญ่ของยาที่คนไทยรู้จักชื่อทั่วทั้งประเทศอย่าง ซาร่า ทิฟฟี่ แอนตาซิล และนีโอติก้าบาล์ม เป็นหัวใจในการขับเคลื่อนธุรกิจให้สยายปีกเป็นยักษ์ใหญ่ในแวดวงอุตสาหกรรมยาและสกินแคร์มากว่า 40 ปี

ทว่าแบรนด์เล็กอย่าง ‘พรีมโนบุ’ กลับเป็นความท้าทายของทายาทรุ่นที่สาม ‘คุณออม-ปภาพินท์ วีระภุชงค์’ ที่อยากปั้นแบรนด์ให้โตไกลตามรอยแบรนด์รุ่นพี่ ซึ่งแม้หนทางจะขรุขระมากกว่า แต่นักธุรกิจรุ่นใหม่เช่นเธอกลับมองว่า ‘เก่งกว่า’ ถ้าจะทำให้ ‘พรีมโนบุ’ เติบโตในตลาดอย่างแข็งแรงไม่แพ้แบรนด์หลักของบริษัท อีกทั้งยังสร้างคนรุ่นใหม่เข้ามาพัฒนาแบรนด์ให้โตไปด้วยกัน คิดใหม่ สร้างใหม่ ในโลกดิจิทัลยุคใหม่นี้

คุณออมบอกว่า ในฐานะหลานคนโตของอากง (วินัย วีระภุชงค์ ผู้บุกเบิกไทยนครพัฒนา) ที่อยากให้เธอเข้ามาดูแลยาแผนกใหญ่อย่างทิฟฟี่ ซาร่า แอนตาซิล แต่เจ้าตัวกลับมุ่งมั่นขอเลือกทำแผนก ‘พรีมโนบุ’ ด้วยเหตุผลที่คิดแตกต่าง “ออมมองว่าการทำแผนกเล็กให้โตได้ มันเก่งกว่าทำแผนกใหญ่ให้โตไปอีก จึงเลือกเข้ามาทำ ‘พรีมโนบุ’ ซึ่งก็เป็นยาเหมือนกัน แต่ก็เป็นยาแค่ครึ่งแผนก ได้แก่ ยาน้ำเด็ก ยาล้างตาออพพลีน น้ำเกลือต่างๆ และอีกครึ่งแผนกก็จะเป็นผลิตภัณฑ์สกินแคร์ นอกจากนี้แผนกพรีมโนบุมีคนทำงานส่วนใหญ่เป็นวัย 20 – 30 ปี ซึ่งใกล้เคียงกับเรา คุยกันรู้เรื่อง และที่สำคัญออมเห็นพลังที่เขาอยากทำงานกับเรา เพื่อสร้างแบรนด์ให้โตไปด้วยกัน ออมได้สร้างคนใหม่ๆ รุ่นใหม่ๆ ด้วยตัวเอง มันจึงเป็นความท้าทายสำหรับเรามากๆ

“สิ่งที่ออมต้องทำให้กับ ‘พรีมโนบุ’ คือการเป็นเหมือนผู้จัดการแผนก ต้องคุมตัวแทนหรือเซลส์ของแผนกนี้ ที่วิ่งอยู่ในประเทศไทย ทำอย่างไรให้พรีมโนบุสามารถเข้าไปในร้านขายยาในโมเดิร์นเทรดให้ได้เยอะที่สุด ทำยังไง
ให้คนรู้จักเรามากที่สุดและเลือกใช้สินค้าของเรา เรียกว่าเป็นการทำงานบริหารกับคนเป็นหลัก ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ทั้งหมดก็จริง แต่ทุกคนโตกว่าออมหมดเลย แม้เราจะมาในฐานะหลานอากงก็ไม่ได้ง่าย โจทย์คือทำยังไงให้เขาฟังและทำตามเรา ที่วันนี้มีประสบการณ์การดูแลบริหารเพียงแค่สามปีเท่านั้น มัน challenge ออมมากจริงๆ รวมไปถึงงานออนไลน์ทั้งหมด ทั้งการวางช่องทางจำหน่ายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Shopee, Lazada การติดต่อ influencer การทำแคมเปญทั้งหมดผ่าน TikTok, YouTube ทำ year plan เข้าโมเดิร์นเทรด เช่น วัตสัน, CJ, 7-11 หรือว่าอีฟแอนด์บอย ออมต้องเข้าไปคุยด้วยตัวเอง นี่คือหน้าที่ผู้จัดการแผนกกึ่งๆ ประชาสัมพันธ์ที่ต้องแอ็กทีฟกับคนทั้งในบริษัทและนอกบริษัท” 

‘โดยเวลาที่ผ่านมาตลอด 3 ปีในการเข้ามาบริหารงานด้วยตัวเอง

ออมภูมิใจที่สุดในชีวิตในวันที่อากงเดินเข้ามากอดและพูดว่า

ภูมิใจในตัวออมมาก’ 

จากคำสอนของอากงให้เรียนรู้ตลาดของธุรกิจอย่างเข้าใจที่สุด ทำให้หลังจากเรียนจบปริญญาตรีคณะรัฐศาสตร์ ภาคสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ไม่นาน เธอก็เข้ามาทำงานเป็นผู้จัดการฝ่ายยาและโฆษณา บริษัท ไทยนครพัฒนา จํากัด อย่างเต็มตัวตอนอายุ 25 ปี 

“อากงอยากให้ออมเรียนรู้ด้านตลาด เพื่อให้เข้าใจลูกค้าว่าลูกค้าต้องการอะไร พอเข้ามาเต็มตัว ออมก็ออกตลาดทั้งกรุงเทพฯ ปริมณฑล ไปร้านขายยาประมาณ 6,000 ร้านเดินไปตามถนนเหมือนตัวแทนของบริษัทฯ คนอื่นๆ ใส่ยูนิฟอร์มของบริษัทฯ เข้าไปหาไปทักทายว่าเราคือใคร มีอะไรให้เราช่วยไหม ร้านขายยามีปัญหาอะไรบ้าง ยาควรพัฒนาอะไรบ้าง ออมออกตลาดแบบนี้อยู่ 1 ปีเต็ม จนเรารู้จักร้านขายยาเยอะมาก เข้าใจสภาพร้านขายยาว่าเป็นอย่างไร ต้องทำโปรโมชั่น อะไรให้ถูกใจเขา และร้านขายยาเป็นเหมือนอาจารย์ของเรา ให้ความรู้ดีมากๆ ออมว่าไม่มีใครให้ความรู้ตรงเท่ากับร้านขายยาอีกแล้ว อีกอย่างคือด้วยไทยนครพัฒนามีความสัมพันธ์ที่ดีมาตั้งแต่รุ่นอากง รุ่นพ่อ มาจนถึงรุ่นเรา พวกเขาจึงเป็นเหมือนครอบครัว เจออาเจ็ก อาแปะที่คุ้นเคยบริษัทเราดี หรือแม้กระทั่งลูกหลานร้านขายยาก็กลายเป็นเพื่อนออม มันเป็นการสืบทอดวัฒนธรรม Gen ต่อ Gen ที่ดีมากค่ะ” ซึ่งไม่เพียงเป็นการเปิดตัวให้กลุ่มลูกค้าในตลาดยอมรับในตัวเธอในฐานะทายาทรุ่น 3 ของไทยนครพัฒนาเท่านั้น แต่การทำงานหนักอย่างจริงจังและจริงใจ ทำให้ยังได้ใจลูกน้องในแผนกพรีมโนบุที่เปิดใจร่วมเดินทางสร้างความสำเร็จไปพร้อมกับเธอ 

แม้แพสชั่นของหลายๆ คน อยากมีก้าวที่กล้าสร้างธุรกิจด้วยตัวเองที่ออกจากกรอบธุรกิจครอบครัว แต่สำหรับคุณออมนั้น ความกตัญญูรู้คุณและการเป็นผู้ให้ชีวิตดีๆ มากมายแก่ลูกหลานจากอากงของเธอ ทำให้นี่คือภารกิจที่ตัวเองต้องสานต่อความรุ่งเรืองของไทยนครพัฒนา “อากงไม่เคยบังคับนะคะว่าออมต้องกลับมาทำธุรกิจที่บ้าน แต่ออมมองว่าเป็นหน้าที่ของพี่คนโตและหลานคนโตที่ต้องสานต่อธุรกิจ ความรับผิดชอบอาจจะต้องมามากกว่าความสุข แต่ทุกวันนี้ออมมีความสุขและสนุกกับการทำงานทุกวันนะคะ โดยเวลาที่ผ่านมาตลอด 3 ปีในการเข้ามาบริหารงานด้วยตัวเอง ออมภูมิใจที่สุดในชีวิตในวันที่อากงเดินเข้ามากอด และพูดว่า ‘ภูมิใจในตัวออมมาก’ (เธอบอกว่า…พูดเรื่องนี้แล้วจะทำให้ร้องไห้ด้วยความปลาบปลื้มทุกที) ปกติอากงไม่เคยชมใคร แต่วันนั้นออมได้คำชมนี้จากอากง มัน fulfill ที่สุดค่ะ”

ภาพฝันในธุรกิจของสาวเก่งวัย 28 ปี วันนี้อยากเป็นทายาทรุ่น 3 ที่สร้างให้ไทยนครพัฒนาอยู่นานๆ นับเป็นร้อยปี พันปี “ในความเป็นเราคงไม่ได้สร้างอะไรใหม่มากมาย แต่ออมจะทำให้บริษัทอยู่ต่อไปได้อย่างมั่นคง เติบโตไปเรื่อยๆ และแตกแขนงเป็นไลน์ธุรกิจอื่นๆ สร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และภาพฝันที่สุดคืออยากให้คนไทยภาคภูมิใจยาของคนไทย ให้ทุกคนได้เข้าถึงยาของไทยนครพัฒนา วันนี้หลายคนยังเชื่อมั่นว่า ยาฝรั่งหรือยานอกดีกว่า แต่ความจริงอยากให้คนไทยมั่นใจว่า ยาไทยของเรามีศักยภาพไม่แพ้กัน อยากให้มั่นใจในความเก่งของคนไทยด้วยกัน ออมเป็นคนหนึ่งที่เชียร์ทุกอย่างที่เป็นของไทย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าของไทยดีไซเนอร์ ร้านอาหารไทย หรือแม้กระทั่งยาไทย ออมมั่นใจว่ายาของเราดีแน่นอนกับคนไทย” 


ติดตาม CEO Next GEN Big Shot กับ 7 เซเลบริตี้ที่ประสบความสำเร็จสูงในธุรกิจที่แต่ละคนเริ่มต้นขึ้นใหม่

และก้าวผ่านอุปสรรคต่างๆมาได้จนมายืนอยู่ในระดับแถวหน้าอย่างน่าชื่นชม

เจาะลึกวิธีคิด วิธีทำงาน และวิธีใช้ชีวิตของ Young Titans แต่ละท่าน

ได้ในนิตยสารเฮลโล ฉบับเดือนตุลาคม 2565 นี้!!!

Never miss an update

Subscribe to our newsletter to get the latest updates.

No Thanks
You’re all set

Thank you for your subscription.