Home > Celebrity > Exclusive Interviews > CEO Next Gen Big Shot – ‘เมย์-วัจณา เจริญสมสมัย’ ดีไซเนอร์ไทยเจนใหม่ ต่อยอดความคิดจากโรงงานตัดเย็บของครอบครัวสู่  Chato Studio แบรนด์แฟชั่นสุดเก๋ แตกต่างอย่างมีตัวตน

กว่า 5 ปีที่แวดวงแฟชั่นไทยรู้จักแบรนด์กระเป๋า Chato Studio ที่มีกระแสมาแรงและฮอตฮิตในโลกโซเชียลตั้งแต่วันที่แจ้งเกิดวันแรก ด้วยฝีมือปั้นแบรนด์และบริหารให้มี Brand Identity อย่างชัดเจนของ ‘คุณเมย์-วัจณา เจริญสมสมัย’ หนึ่งเซเลบริตี้แฟชั่นนิสต้าในบทบาทครีเอทีฟอาร์ตไดเร็กเตอร์ ดีไซเนอร์ไทยเจนใหม่ และเจ้าของธุรกิจที่เริ่มต้นจากแนวคิดอยากช่วยต่อยอดธุรกิจโรงงานตัดเย็บของครอบครัว แต่ด้วยโอกาสและงานออกแบบที่โดดเด่นอย่างเป็นเอกลักษณ์ บวกกับช่องทางการขายออนไลน์ที่ตอบโจทย์ในตลาดยุคดิจิทัล ทำให้ Chato Studio ไม่ได้เป็นเพียงแบรนด์แฟชั่น แอ็กเซสเซอรี่ส์ เพื่อความสวยงามเท่านั้น แต่กลายเป็นแบรนด์ที่พยายามนำตัวเองไปอยู่ในทุกจังหวะของชีวิตผู้หญิงที่มีแพสชั่นเฉกเช่นเดียวกับเจ้าของแบรนด์สุดชิคนี้

คุณเมย์มีวิธีคิด วิธีทำงาน และวิธีใช้ชีวิตตามแพสชั่นที่เธอชื่นชอบจนกลายมาเป็นสิ่งที่เธอรัก งานที่รัก และสร้างโปรดักต์ที่น่าหลงใหลนี้ได้อย่างไร  “เมย์มีแพสชั่นด้านแฟชั่นและการท่องเที่ยวที่เป็นแรงผลักในการทำงานที่ทำให้แบรนด์ Chato Studio เป็นที่รู้จักในวันนี้ โดยเริ่มต้นที่กระเป๋าที่ชัดเจนว่ามาจากแพสชั่นการเดินทางของตัวเอง เลยคิดคอนเซปต์ง่ายๆ อยากให้เป็นกระเป๋าที่ใช้ได้จริง น้ำหนักเบา แต่มีความเก๋และทันสมัย ใช้วัสดุแตกต่างจากคนอื่น ใส่ความเป็นยูนีกของแบรนด์ที่ไม่โดดเด่นอย่างแตกต่าง แล้วค่อยๆ ต่อยอดโปรดักต์อื่นๆ มาเป็นหมวก แว่นตา เข็มขัด รองเท้า และจิวเวลรี่ค่ะ” แต่แม้แบรนด์จะแจ้งเกิดอย่างโดนใจเหล่าสาวๆ สายแฟชั่นไปแล้วก็ตาม เจ้าของแบรนด์คนเก่งกลับมองว่านี่ยังไม่ใช่การประสบความสำเร็จในนิยามของเธอ

คุณเมย์-วัจณา เจริญสมสมัย

“ความสำเร็จสำหรับเมย์คือความพอใจ ถ้าเรารู้สึกข้างในว่า อิ่มแล้ว พอแล้ว แสดงว่าไม่ต้องไขว่คว้าหาอะไรหรือสร้างอะไรอีก แต่วันนี้เมย์ยังรู้สึกอยากทำโน่นทำนี่ ยังมีแรงคิด มีพลังที่อยากจะสร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ ให้กับแบรนด์ในทุกๆ วัน ที่สำคัญ…ตัวเองยังมีเป้าหมายใหม่ๆ อยู่เสมอ เลยมองว่ามาเสมอว่า เรายังไม่ประสบความสำเร็จ ยังต้องต้องเดินไปข้างหน้าไปสู่เป้าหมายใหม่ๆ ที่วางไว้ค่ะ”

คุณเมย์ใช้พลังบวกและสร้างแรงบันดาลใจจากการท่องเที่ยวให้เป็นแรงผลักในการขับเคลื่อนธุรกิจและสร้างสรรค์ผลงานเก๋ๆ ในแต่ละคอลเลกชั่นเพื่อลูกค้า “เมย์ไม่เคยคิดว่าตัวเองต้องแข่งขันกับใคร ต้องประสบความสำเร็จแบบไหน แต่มีมุมความคิดในการใช้ชีวิตให้คุ้มค่า คือบาลานซ์ตัวเองระหว่างเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว ไม่อยากให้วันหนึ่งพอต้องคิดว่า ถ้าพรุ่งนี้จะต้องตาย แล้วแบบว่า…เฮ้ย! มัวทำงาน ยังไม่ทำอันนั้นเลย ไม่ทำอันนี้เลย ดังนั้น เมย์จะเติมเต็มทุกด้านในชีวิตไปพร้อมๆ กัน เลยอาจมองว่า ระยะเวลาที่เราใช้คำว่าประสบความสำเร็จมันดูช้ากว่าคนอื่น แต่ตัวเมย์กลับไม่รู้สึกว่าช้า เพราะรู้ว่าทุกก้าวที่เดิน…เมย์แฮปปี้ แม้อาจเดินช้าหน่อย แต่เรามีเวลาอยู่กับครอบครัว มีเวลาไปเที่ยว มีเวลาสวีตกับแฟน ไม่ได้ทุ่มเทไปด้านใดด้านหนึ่งเพียงด้านใดโดยที่ลืมด้านอื่นๆ ไปด้วย เมย์จึงให้ความสำคัญกับบาลานซ์ในชีวิตค่ะ”

และด้วยการขับเคลื่อนการทำงานจากแพสชั่นของตัวเองอย่างแท้จริง ยิ่งทำให้เธอมีความสุขในธุรกิจภายใต้แบรนด์ Chato Studio ของตัวเองวันนี้อย่างอิ่มใจ “ใครอยากเริ่มต้นทำอะไรภายใต้แพสชั่นหรือความชื่นชอบของตัวเอง อยากให้คุณหาตัวตนของตัวเองให้เจอกันก่อนเป็นอันดับแรกว่า ชอบอะไร ทำอะไรแล้วได้ดี จุดแข็งของเราที่ไม่มีใครมาแทนเราได้นั้นคือตรงไหน เพราะเมื่อเรารู้ตัวเองอย่างแท้จริงแล้ว ก็จะทำให้เราเป็นตัวเอง แล้วทำธุรกิจในแบบที่เป็นตัวเองได้ เมย์ว่านี่แหละคือสิ่งที่สำเร็จที่สุดแบบที่ไม่มีใครเลียนแบบได้ค่ะ นอกจากนี้แพสชั่นยังช่วยให้เราเหนื่อยน้อยลง เพราะเราสนุกที่จะทำ มีพลังแบบที่เมย์เป็นคือสามารถครีเอตโปรดักต์คอลเลกชั่นใหม่ คิดอะไรว้าวๆ สร้างสรรค์อะไรที่แตกต่างจากคนอื่นได้ในแบบที่เป็นตัวตนของเรา” 

‘ใครอยากเริ่มต้นทำอะไรภายใต้แพสชั่นหรือความชื่นชอบของตัวเอง

ค้นหาจุดแข็งของเราที่ไม่มีใครมาแทนเราได้

สิ่งนี้แหละที่จะทำให้เราเป็นตัวเอง แล้วทำธุรกิจในแบบที่เป็นตัวเองได้’

เหตุนี้เองทำให้ Chato Studio เป็นแบรนด์ที่แข็งแรงและมีความเป็นยูนีก เฉพาะตัวที่โดดเด่น “เมย์ว่ามันคือ culture และ personality ที่เราสร้างขึ้นมาให้ลูกค้ารู้สึกผูกพันกับแบรนด์ เหมือนมีความชัดเจนว่า Chato Studio คือสไตล์แบบไหน รู้ว่าเราเป็นใคร สามารถเข้า touch กับลูกค้าตรงไหนบ้าง และแบรนด์ของเราไม่ได้โฟกัสตลาด mass แต่เป็นแบบ affordable luxury หรือแบรนด์ที่ดูหรูแต่ราคาจับต้องได้ เมย์ไม่ได้เน้นที่อยากให้ทุกคนรู้จักเรา แต่เน้นว่าคนที่รู้จักเราแล้วต้องสะดุดตา ถ้าได้ใช้กระเป๋าก็ต้องรู้สึกว่าได้คุณภาพที่ดี ใช้แล้วรู้สึกภูมิใจในสไตล์ของตัวเองแบบนี้ ยิ่งถ้าใช้แล้วมีคนถามว่า เอ๊ะ…กระเป๋าแบรนด์อะไร มันท้าทายในความสำเร็จแบบนี้มากกว่า นั่นคือเป้าหมายที่เมย์จะให้ความสำคัญและซีเรียสมากกว่าการที่คนรู้จักเยอะๆ ค่ะ” 

และวันนี้ บอสเมย์ไม่ได้หยุดแบรนด์ Chato Studio ให้โตแค่นี้ แต่เธอกำลังฝันไกลในการนำแบรนด์ออกต่างประเทศ “เมย์อยากให้ทุกคนรู้จักแบรนด์ของเรามากขึ้น ซึ่งยังคงเก็บความ niche ของโปรดักต์ไว้แบบนี้ต่อไป ที่เปลี่ยนและขยายกว้างขึ้นคือกลุ่มตลาด เพิ่มตลาดใหม่ๆ ในต่างประเทศ ซึ่งทุกวันนี้เริ่มมีสัญญาณที่ดีเพราะมีลูกค้าจากต่างประเทศติดต่อเข้ามาหลายราย เขาสนใจอยากเอาโปรดักต์เราไปขายมากขึ้น ทำให้เมย์เห็นช่องทางต่อยอดธุรกิจ
ที่ทำให้แบรนด์เติบโตได้ วางแผนไว้อีกสองปีข้างหน้าค่ะ ถึงตอนนั้นแบรนด์ Chato Studio อาจมีลุคเปลี่ยนแปลงไปบ้าง เพราะเมย์จะมีการรีแบรนดิ้งปรับเปลี่ยนโลโก้ ปรับให้แบรนด์โมเดิร์นขึ้น เพราะถ้าเราจะไปตลาดโกลบอลมากขึ้นก็ต้องปรับแบรนด์ให้ดูทันสมัยและเปรี้ยวกว่านี้ค่ะ”


ติดตาม CEO Next GEN Big Shot กับ 7 เซเลบริตี้ที่ประสบความสำเร็จสูงในธุรกิจที่แต่ละคนเริ่มต้นขึ้นใหม่

และก้าวผ่านอุปสรรคต่างๆมาได้จนมายืนอยู่ในระดับแถวหน้าอย่างน่าชื่นชม

เจาะลึกวิธีคิด วิธีทำงาน และวิธีใช้ชีวิตของ Young Titans แต่ละท่าน

ได้ในนิตยสารเฮลโล ฉบับเดือนตุลาคม 2565 นี้!!!

Never miss an update

Subscribe to our newsletter to get the latest updates.

No Thanks
You’re all set

Thank you for your subscription.