Home > Celebrity > Exclusive Interviews > CEOs Next Gen: ‘คุณจินต์-จงจินต์ จึงสุระ’ เจ้าของแบรนด์ Matara แบรนด์เครื่องประดับไข่มุกโด่งดังระดับโลก

เมื่อโลกเติบโตรวดเร็วอย่างก้าวกระโดด ความท้าทายในวงการธุรกิจคือการปรับตัว และพัฒนาให้เท่าทัน พบกับโปรเจ็กต์ CEOs Next Gen กับ 9 เซเลบริตี้ที่ประสบความสำเร็จสูง รวมตัวกันมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการทำงาน พร้อมทั้งแนวคิดในการฝ่าฟันกับวิกฤติของธุรกิจ และให้ก้าวทันกับเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าไปทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นความสำเร็จของธุรกิจจากรุ่นสู่รุ่น 

‘คุณจินต์-จงจินต์ จึงสุระ’ เจ้าของแบรนด์ Matara แบรนด์เครื่องประดับไข่มุกโด่งดังระดับโลก

7 ปีก่อน ‘คุณจินต์-จงจินต์ จึงสุระ’ ทายาทคนสุดท้องของ ‘คุณนงนุช-คุณวีระยุทธ จึงสุระ’ และหลานสาวของ ‘คุณไชยวัฒน์ เหลืองอมรเลิศ’ ผู้ก่อตั้งอาณาจักรสยามปาร์ค ตั้งใจรวมกลุ่มกับเพื่อนสนิทในวัยเด็กก่อตั้งแบรนด์ มธรา Matara แบรนด์เครื่องประดับไข่มุกแท้ที่ตั้งใจออกแบบให้เหมาะสำหรับการสวมใส่ได้จริงในชีวิตประจำวัน มาวันนี้แบรนด์เติบโตไปได้ไกลทั่วโลกสมกับที่ตั้งใจ มีวางจำหน่ายทั้งในอังกฤษ ฝรั่งเศส และสหรัฐอเมริกา รวมถึงแตกไปสู่ไลน์เครื่องประดับ Matara High Jewelry ในฐานะผู้บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท มธรา สตูดิโอ จำกัด ที่ดูแลทั้งเรื่องการขาย และการตลาดจึงอดภาคภูมิใจในความสำเร็จครั้งนี้ไม่ได้ เพราะนี่คือหนึ่งในบทพิสูจน์ทั้งฝีมือการทำงาน และเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่าเพื่อนสนิทสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างดี ขอแค่มีความเชื่อมั่นในหน้าที่ของกันและกัน

“ตอนนี้จินต์มีธุรกิจหลายอย่างที่เข้าไปร่วมเป็นหุ้นส่วนและทำเพิ่มเติมนอกจากแบรนด์ Matara” คุณจินต์เล่า  

‘คุณจินต์-จงจินต์ จึงสุระ’ เจ้าของแบรนด์ Matara แบรนด์เครื่องประดับไข่มุกโด่งดังระดับโลก

“เริ่มจากเป็นหุ้นส่วนกับ Tar Gallery แบรนด์เครื่องประดับที่ทำจากพลอยแท้ของพี่สะใภ้ ซึ่งทำ Collaborate กับศิลปิน คุณยูน-ปัณพัท เตชเมธากุล นอกจากนี้ยังร่วมหุ้นกับรุ่นพี่ที่เป็นช่างภาพและอินทีเรียดีไซเนอร์ ทำสตูดิโอให้เช่าถ่ายภาพนิ่ง ถ่ายภาพยนตร์ ชื่อ Mano Penthouse โดยใช้พื้นที่ชั้น 19 ของตึกอมรพันธ์ บนถนนรัชดาภิเษก ซึ่งเป็นออฟฟิศเก่าของคุณแม่มาดัดแปลง พอช่วงโควิด-19 จินต์และเพื่อนๆ ยังได้ Take over กิจการร้านสูทแห่งหนึ่งแล้วเปลี่ยนมาใช้ชื่อ M Custom Made เรามองว่าถึงแม้คนในปัจจุบันจะแต่งตัวแบบ Casual ขึ้น แต่เรายังเชื่อในการใส่เสื้อผ้าแบบ Tailor-made จึงตั้งใจให้แบรนด์เป็นเสื้อผ้าแบบ Genderless เพศใดก็เข้ามาตัดสูทที่ร้านเราได้ และมีให้เลือกหลากหลายทั้งสไตล์วินเทจหรือร่วมสมัย ปิดท้ายด้วย Matara Beauty ที่จินต์ไปร่วมกับเพื่อนที่มีโรงงานผลิตเครื่องสำอางและนำเข้าเครื่องสำอางจากต่างประเทศ ออกผลิตภัณฑ์ความงามหรือเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของไข่มุก ที่ผ่านมาเราเริ่มออกผลิตภัณฑ์ Hydrating Hand Sanitizer Spray ที่มีส่วนผสมของ Black Pearl Extract ก็ได้รับการตอบรับที่ดีมาก” 

กิจการและโปรเจกต์มากมายที่เธอเข้ามาดูแล ต้องอาศัยทักษะหลายด้าน แต่สิ่งสำคัญคือการประสานงานและการดึงศักยภาพของคนที่ทำงานร่วมด้วยออกมาให้เต็มที่ การที่เธอเรียนจบปริญญาตรี ด้านการตลาด จากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสำเร็จปริญญาโท MSc International Management, Royal Holloway, University of London รวมถึงไปเรียนการโรงแรม Hospitality Management, Glion, Switzerland เพื่อตั้งใจนำกลับมาช่วยงานกิจการอมรพันธ์รีสอร์ทของครอบครัว เป็นตัวช่วยอย่างดีในการเปิดโลกทัศน์และมุมมองความรู้ของตนเอง

“การเริ่มต้นธุรกิจตั้งแต่อายุยังน้อย แค่ 24 – 25 ปี ทำให้เราเป็นเหมือนผ้าขาวที่พร้อมเรียนรู้ทุกอย่างที่เข้ามาด้วยความจริงใจ ยิ่งพออายุเราน้อย พลังเราจะเยอะมาก ช่วงทำแบรนด์ Matara แรกๆ จินต์บินไปทั้งฮ่องกงและญี่ปุ่นเพื่อหาซัพพลายเออร์เอง เราได้เรียนรู้จริง และยังเป็นส่วนหนึ่งที่สร้างความน่าเชื่อถือทั้งกับลูกค้าและคู่ค้าของเรา ยิ่งเราทำแบรนด์เครื่องประดับ ความน่าเชื่อถือเป็นสิ่งสำคัญ ทุกอย่างต้องเป็นโปรเฟสชั่นนอล ทั้งภาพถ่าย โฆษณา แม้แต่การผลิตกล่องแพ็กเกจจิ้ง แต่กว่าทุกอย่างจะเดินมาถึงวันนี้เรายึดหลักค่อยๆ ทำ เรียนรู้ แก้ปัญหาไป ไม่ใช่ว่าจะดีดนิ้วแล้วทุกอย่างจะดี หรือสำเร็จได้ทันใจ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือด้วยความที่เรามีความรู้สึกว่าอยากทำอย่างแรงกล้า ชอบในสิ่งนั้นมากๆ เราจะตั้งใจทำมันให้ดีที่สุด อย่างจินต์เองด้วยความที่เครื่องประดับมุกเป็นสิ่งที่เราชอบมาก ถ้าวันหนึ่งสมมติว่าขายไม่ได้ เราก็ยังอยู่กับกองไข่มุกของเราได้”

สร้างแบรนด์ไทยด้วยความภูมิใจ

หากวัดความสำเร็จจากยอดขาย ทุกวันนี้ความสำเร็จของ Matara เดินมาได้ไกลหลายต่อหลายเท่า “ยิ่งเราทำได้ตามเป้าได้มากขึ้นและสูงขึ้นเท่าไร ความท้าทายก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่สำหรับจินต์สุดท้ายความตื่นเต้นของการทำธุรกิจจริงๆ กลับอยู่ที่การทำให้แบรนด์สามารถประสบความสำเร็จแบบนี้ต่อไปได้เรื่อยๆ นอกจากนี้หนึ่งในความตั้งใจของเราตอนก่อตั้งแบรนด์ คือการได้ชูความสามารถของช่างฝีมือคนไทย เราภูมิใจเสมอที่จะพูดว่าแบรนด์ของเราเป็นแบรนด์ไทย และสามารถทำให้เครื่องประดับมุกแท้เป็นเครื่องประดับที่สามารถตอบโจทย์ให้คนทุกสไตล์ 

“ครั้งหนึ่งเคยมีลูกค้าส่งข้อความมาหาเราว่าสมัยก่อนเขาไม่เคยชอบเครื่องประดับมุกเลย ด้วยความรู้สึกว่ามุกดูเป็นเครื่องประดับของผู้หญิงหวานๆ หรือไม่ก็ดูเป็นผู้ใหญ่เกินไป แต่แบรนด์ Matara ทำให้เปลี่ยนมาชอบมุก แรกๆ ก็ซื้อชิ้นสองชิ้น หลังๆ กลายเป็นว่าต้องซื้อเป็นประจำทุกเดือน จุดนี้ทำให้เราภูมิใจว่าเป้าหมายที่เคยตั้งไว้แต่แรกมันตรงกับสิ่งที่ลูกค้าต้องการจริงๆ” คุณจินต์เล่า ในอนาคตเธอตั้งใจขยายไลน์สินค้าในรูปแบบของงานไฮจิวเวลรี่ออกไปให้มากขึ้น โดยเฉพาะงาน Custom-made ซึ่งได้รับเสียงตอบรับที่ดีของลูกค้า ในขณะเดียวกันก็ได้ช่วยส่งเสริมช่างฝีมือระดับสูงของไทยได้มากขึ้นด้วย

Never miss an update

Subscribe to our newsletter to get the latest updates.

No Thanks
You’re all set

Thank you for your subscription.