Home > Celebrity > Exclusive Interviews > เปิดตัว 3 หนุ่มผู้กุมหัวใจของมาสเตอร์เชฟหญิงสายบู๊ ‘เชฟป้อม-ม.ล.ขวัญทิพย์ เทวกุล’

ทำความรู้จักกับผู้ที่ใครๆ ยกให้เป็น ‘องค์แม่’ ของรายการมาสเตอร์เชฟ ไทยแลนด์ ‘ม.ล.ขวัญทิพย์ เทวกุล หรือ เชฟป้อม เกิดในบ้านประจำราชสกุลของเธอที่ ‘วังเทวะเวสม์’ อันโอ่อ่าโอ่โถง แต่ในวันนี้ เธอเลือกที่จะอยู่คอนโดมิเนียมขนาดกะทัดรัดใจกลางกรุง ด้วยทัศนคติมุมมองชีวิตของเธอเปลี่ยนไป

“ความสุข ณ ตอนนี้มันมาได้แถวอายุ 50 อัพ เราคิดอะไรก็ได้ให้มันสุข คือ เปลี่ยนวิธีคิดมุมมองให้มันสุข เมื่อก่อนใครจะไม่ชอบอยู่บ้านใหญ่มีสระว่ายน้ำมีนู่นนี่นั่น แต่ทุกวันนี้ ป้อมขอมีบ้านแค่นี้ในพื้นที่คอนโดฯ เล็กๆ นี่” ขณะกล่าวคุณป้อมกวาดมือไปรอบคอนโดฯ สีขาวโปร่งตาโปร่งใจสไตล์โมเดิร์น เรียบ ชิค ผนังด้านหนึ่งตกแต่งด้วยภาพเขียนและภาพถ่ายรูปเธอ ม.ล.ขวัญทิพย์ เทวกุล หรือ เชฟป้อม ในกรอบสีขาวขนาดต่างๆ ล้วนเป็นที่ภาพแฟนคลับของเธอนำมามอบให้ในโอกาสต่างๆ

“คอนโดฯขนาดเล็กแค่นี้ถามป้อมเดินครบทุกตารางนิ้วหรือเปล่าก็ไม่ครบแล้ว บ้านใหญ่คุณจะอยู่ไปทำไมลูกเขาก็มีที่มีทางของเขาแล้วทุกคนชอบถาม ‘อยู่คนเดียวได้เหรอไม่เหงาเหรอ’ ‘อยู่ได้อย่าคิดว่ามันเหงาสิคิดว่าเราได้มีเวลาเป็นของตนเอง’ เปลี่ยนวิธีคิดนิดหนึ่งให้เรามีความสุข เคยมีคนถามป้อมว่า ‘ใช้ชีวิตเหมือนการปรุงอาหารยังไง’ ก็เลือกแต่วัตถุดิบดีๆใส่ลงไปในอาหารของไม่ดีของเน่าของเสียอย่าใส่มันลงไปในชีวิตอะไรไม่มีความสุขตัดมันออกไปไม่ว่าจะคนสัตว์สิ่งของตัดออกไปให้หมดเพื่อนก็ยังเป็นคนรู้จักได้ถ้าทำไม่ดีกับเราแต่ไม่ต้องไปทะเลาะกับเขา

ม.ล.ขวัญทิพย์ เทวกุล หรือ เชฟป้อม

“สมัยก่อนป้อมเลือดร้อนจะตายใครมีเรื่องกับป้อมไม่ได้นะ ป้อมตะลุยสุดขีดเลย แต่ตอนนี้ ช่างมันเถิด แต่ก็ยังคงความเป็นคนตรงอยู่ คนชอบพูดกันในโซเซียลมีเดียว่าที่ป้อมออกรายการมาสเตอร์เชฟไทยแลนด์เป็นสคริปต์ไม่ใช่ตัวป้อมลองคิดดูสิว่าถ้ามีการเขียนสคริปต์ไม่มีทางที่จะออกมาอย่างนี้ตลอดมันต้องมีหลุดบ้างแต่นี่เป็นตัวเราแม้มาทำมาสเตอร์เชฟจูเนียร์ก็ไม่ได้เบาลงนะความปังๆๆนี่แต่ว่าเรานุ่มลงสำหรับเด็กน้องที่เข้าแข่งขันเป็นสิบๆคนก็ไม่ใช่นักแสดงเขาจะแสดงให้ไฟลุกให้อาหารไหม้ได้ไหมแสดงไม่ได้ในรายการจะเกิดอะไรขึ้นก็ไม่รู้กรรมการต้องเข็มแข็งต้องเข้าไป take charge ได้ทันทีในเวลาที่เกิดอะไรขึ้น”

แม่ผมฮีโร่มาก

คุณกุลพลสามเสน (แอร์) บุตรชายคนเล็กวัย 28 ปีของคุณป้อมได้ยินก็เสริมขึ้นว่า “แม่ผมนี่สายบู๊สมัยผมสัก 10 กว่าขวบคุณพ่อจะไม่ค่อยอยู่บ้านอยู่หัวหินคนงานมีปัญหาคุณแม่ให้ออกเขาไม่ยอมออกมาโวยวายในบ้านถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นก็ต้องหลบเข้าห้องแล้วส่งคนรถไปดูหรือโทร.หาตำรวจแม่ผมไขกุญแจหยิบปืนไม่ได้ออกไปยืนจ่อนะออกไปนั่งที่เก้าอี้สนามมองตาคนงานและถามเขา ‘จะไปไม่ไปจะไปเงียบๆหรือจะไม่ไปฉันให้ออกมีเหตุผลเธอก็รู้เธอทำอะไรผิด’ สุดท้ายคนงานก็ออกไป

“อีกหนพี่เอี๊ยดจำได้เปล่า” คุณแอร์หันไปถาม คุณสกุลชัย สามเสน (เอี๊ยด) พี่ชายคนโตวัย 33 ปี “ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น ไฟไหม้ในบ้าน คนทั้งบ้าน ผู้หญิง ผู้ชาย คนงาน พากันยืนเอ๋อ แม่เป็นคนเดียวที่วิ่งไปหยิบถังดับเพลิง มาดับเพลิง แม่ผมบู๊ของจริง นี่ไม่ได้พูดอุปมาอุปมัย บู๊ด้วยอาวุธ บู๊ด้วยถังดับเพลิงก็ทำมาแล้ว”

ม.ล.ขวัญทิพย์ เทวกุล หรือ เชฟป้อม

“ขอโทษ” คุณป้อมพูดขึ้น “ปืนที่ป้อมถือวันนั้นมันล็อกอยู่และแม่ยังปลดล็อกไม่เป็นเลยสารภาพตรงนี้ก็ได้แต่ถ้ามันจวนตัวจริงๆก็คงกดอะไรได้สักอันหนึ่งคนงานก็กึ่งบ้ากึ่งเมาและลูกก็ยังเล็ก” คุณป้อมหันมาทาง HELLO! “ไม่มีใครคุ้มครองป้อมเราต้องคุ้มครองลูกเล็กและคนในบ้านที่เป็นผู้หญิงถูกไหม” 

“เราเด็กๆ” คุณแอร์พูดต่อ “เห็นแม่ถือปืนจะไปบวกกับผู้ชายก็นึก ‘แม่เท่วะ’ แต่พอมาย้อนนึกกลับไปแม่เป็นคนเดียวที่คุมสติอยู่และ take charge ได้เก่งเมื่อมีปัญหาแม่ก็ไม่ไปไหน”

คุณเอี๊ยดก็คอนเฟิร์มในความไวกับการรับมือกับปัญหาเฉพาะหน้าของคุณแม่ “ตอนพี่สัก 10 ขวบเหมือนกัน” คุณเอี๊ยดเสริม “ทำไมเราจะจำอะไรกันตอน 10 ขวบได้ดีนะพี่ไปหาคุณแม่ที่ทำงานตอนนั้นคุณแม่ยังทำงานเป็น Office Manager บริษัทครอบครัวคุณพ่อ (บริษัทไทยมิเตอร์จำกัด) เราก็วิ่งซนทั่วออฟฟิศฉากกั้นก็ค่อยๆล้มเราเด็กๆกำลังงงอยู่ว่าอะไร? คุณแม่ก็วิ่งเอาตัวมาขวางเลยไม่ให้ฉากล้มทับลูกฮีโร่มาก

ม.ล.ขวัญทิพย์ เทวกุล หรือ เชฟป้อม

“พอพนักงานยกฉากขึ้นกระจกก็หมุนควงปักลงไปที่ขาคุณแม่จัดเย็บไป 4 เข็มหลังจากนั้น 6 ปีไปเจอว่ามีเศษกระจกอยู่ในขายังเอาออกไม่หมดและที่ตลกกว่านั้นปีที่แล้วอยู่ดีๆคุณแม่รู้สึกเจ็บไปตรวจยังมีเศษกระจกฝังอยู่เลยรวมเวลาที่คุณแม่มีเศษกระจกฝังอยู่ในหน้าแข้งคือ 22 ปี”

ป้อมขอชีวิตคืน

ส่วนบุตรชายคนกลางกุลพัชรสามเสน (อ๊าดวัย 31 ปี) กลับแอบซาบซึ้งในความอดทนของคุณแม่ที่ทำเพื่อลูกๆเขาบอกว่า “เราโตขึ้นมาก็รู้แล้วว่าพ่อเราบุคลิกเช่นไร แม่เราบุคลิกแบบไหน สองคนนี้ไม่น่าจะเข้ากันได้มาตั้งนานแล้ว และคงอยากไปมีชีวิตของตนเอง แต่ก็ยอมอยู่จนลูกโตพอที่จะเติบโตมาไม่มีปัญหา ช่วงเวลาที่แม่เลือกที่จะยังไม่ทิ้งพ่อเพื่อให้ลูกมีวุฒิภาวะพอที่จะเข้าใจอะไรเอง เขาถึงเลือกที่จะไป เหตุการณ์นี้ ถือว่ามีผลต่อชีวิตผมและพี่น้องมากที่สุด และแม่ไม่เคยบอกเรา ทั้งที่ความคิดที่จะเลิกน่าจะมีมาก่อนหน้านั้นสักพักแล้ว เขามาบอกเราตอนที่เราโตพอจะเข้าใจอะไรแล้ว ถ้าไม่อึดก็คงไม่รอขนาดนั้น และลูกก็มีสิทธิ์ที่จะโตมามีปัญหาก็ได้ ถือว่าแม่เสียสละพอสมควร” 

ม.ล.ขวัญทิพย์ เทวกุล หรือ เชฟป้อม

“ป้อมตัดสินใจหย่าตั้งแต่ลูกคนเล็กอายุ 5 ขวบ” คุณป้อมยอมรับ “รอ 10 ปีจนไอ้ตัวเล็กอายุ 15 ปีช่วง 10 ปีนั้นก็นิ่งๆไม่มีใครรู้เลยวันที่ขอหย่าป้อมไม่อยากให้คุณพ่อคุณแม่ยุ่งก็โทร.หาพี่สาวสามี (คุณสกุณีพหลโยธิน) บอก ‘วันนี้ป้อมไปหานะคะขอไปกินข้าวเย็นด้วยสัก 2 – 3 คน’ และก็นัดคุณสามีและพี่สาวคนโตของป้อม (ม.ล.ประทิ่นทิพย์ นาครทรรพ) ซึ่งพี่เขามีลูกอายุไล่ๆ กับป้อม ก็ช่วยกันเลี้ยงลูกเลี้ยงหลานมาด้วยกัน

“ในวันนั้นป้อมก็พูดเลย ‘ป้อมทำหน้าที่ทุกอย่างแล้วป้อมจะขอชีวิตคืน’ ป้อมใช้คำนี้ ‘ขอชีวิตคืน’

“คุณสามีก็บอก ‘เป็นไรโวยวายอะไรป้อมขี้บ่นเอง’ พี่สาวป้อมบอก ‘เคยอยู่บ้านฟังเขาบ่นเหรอบ้านก็ไม่เคยอยู่แล้วหาว่าเขาขี้บ่น’ ป้อมไม่ขี้บ่นนะป้อมจะชกหมัดตรงตลอดเวลา” 

เมื่อแต่งงานคุณป้อมกับอดีตสามีได้ย้ายไปใช้ชีวิตที่อเมริกาอยู่ 5 ปีเปิดร้านขายของเหมือนแกลเลอรี่เล็กๆที่รัฐแมรีแลนด์คุณเอี๊ยดกับคุณอ๊าดเกิดที่สหรัฐฯพอทั้งคู่เดินได้วัยกำลังซนก็ย้ายกลับเมืองไทยแล้วชีวิตคู่ก็เริ่มต่างคนต่างอยู่หลังจากนั้นไม่กี่ปี

ม.ล.ขวัญทิพย์ เทวกุล หรือ เชฟป้อม

“เริ่มจากเขาไปทำกิจการครอบครัวที่หัวหินไม่ถามเราสักคำหนึ่งว่า ‘อยู่อย่างนี้อยู่ได้ไหม’ บอกว่าจะกลับบ้านวีคเอนด์หรือวีคเดย์ก็ไม่เห็นจะทำได้เลย แม้จะเป็นวันเกิดลูกแต่พอเพื่อนตามไปเล่นกอล์ฟก็ไม่กลับนะไม่เป็นไรค่ะ ป้อมก็ชินแล้ว ลูกเรียนว่ายน้ำก็กับแม่ ลูกเรียนพิเศษก็กับแม่ ลูกลงทะเลก็กับแม่เพราะพ่อมัวไปตีกอล์ฟอาทิตย์ละ 7 วัน นี่คือคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่สามียังอยู่ การจัดการเรื่องลูกคุณพ่อเขาจะไม่ค่อยรู้หรอกเขาเห็นแต่ลูกเขาสามารถเรียนได้อะไรได้ทุกอย่างเขามีลูกเอาไว้เล่นสนุก และก็มีความภูมิใจว่ามีลูกชาย 3 คน

“คุณอดีตสามีแก่กว่าป้อม 15 ปีเขาก็ผู้ใหญ่กว่าป้อมเยอะ และพ่อแม่เรารู้จักกันดีที่ตัดสินใจแต่งงานครั้งนี้ป้อมไม่โทษอะไรหรอกค่ะคิดได้ดีที่สุดเท่าเด็กอายุ 23 ปีจะคิดได้เหมือนชีวิตที่เขียนมาแล้วว่าเราต้องเจออะไรก่อน ป้อมเองมีความเป็นตัวเองเยอะ ป้อมไม่โทษว่าใครผิด ป้อมอาจจะผิดก็ได้ที่ป้อมเปลี่ยนเขาก็เปลี่ยนแต่เราไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอดในเวลาที่เราเปลี่ยนเพราะฉะนั้นเห็นอีกทีก็แบบ…ไม่ได้แล้วเหมือนกับมันขัดไปหมด 

“และเห็นป้อมปังๆๆอย่างนี้ ป้อมเป็นคนโรแมนติกทีเดียว บางครั้งเราก็คาดหวังว่าคู่เราจะเป็นคนประเภทเดียวกันนั่นอาจจะเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่เราอยู่ด้วยกันไม่ได้เพราะเราเป็นคนละประเภท ที่ป้อมขอชีวิตคืนไม่ได้จะไปมีชีวิตใหม่กับใครหรือมีแฟนใหม่แต่มีชีวิตที่อิสระจะทำอะไรก็ได้

ม.ล.ขวัญทิพย์ เทวกุล หรือ เชฟป้อม
เชฟป้อม และคุณแอร์ ลูกชายคนกลางวัย 31 ปี

“พอจะหย่าก็ต้องบอกลูกลูกชาย 3 คนของป้อมคนกลางเฮี้ยวสุดเขาเป็นเด็กไฮเปอร์และ impulsive รบกันมาจนจูงมือไปหาจิตแพทย์บอก ‘หมอไม่ไหวแล้วนะอย่างนี้…อย่างนี้หมอจะรักษาใคร’ หมอบอกนั่งลงทั้งสองคนเลยรักษาทั้งแม่และลูก พอจะหย่าคุณหมอแนะนำให้ป้อมคุยกับเบอร์ 1 และเบอร์ 3 ก่อนแล้วให้ทั้งสองคนแท็กทีมกับแม่คุยกับเบอร์ 2 

“พอบอกลูกลูกไม่ได้มีสีหน้าแปลกใจอะไรโอ้โห…นี่คือผลของการรอ 10 ปี ป้อมไม่ได้พูดอะไรมากเลย ลูกเข้าใจแม่ และเขาก็คุ้นเคยกับการอยู่กับแม่

“ส่วนคนกลางกลับกลายเป็นว่าเขาฟังและซัก ‘แม่คิดมานานเท่าไร’ ‘สิบปี’ ‘ก็ไม่เห็นคุณแม่เคยว่าอะไรคุณพ่อเลย’ ‘จะว่าทำไมก็ในเมื่อเป็นพ่อถ้าเกิดวันหนึ่งอยู่ๆแม่เกิดตกท่อตายไปเธอต้องอยู่กับใครล่ะเธอต้องอยู่กับพ่อเธอใช่ไหมถ้าว่าพ่อแล้วความเคารพมันจะมีไหมลูกยังมีพ่อลูกยังมีแม่แต่ความเป็นสามีภรรยามันไม่มีจบตรงนั้นแต่ลูกยังมีญาติข้างพ่อมีญาติข้างแม่’

“‘คุณพ่อว่าคุณแม่ชอบมาบังคับลูก’ ลูกโกรธที่แม่บังคับให้อ่านหนังสือให้ทำการบ้านกับพ่อชวนเล่นเด็กจะเลือกใครก็ตอบลูก ‘ใช่แม่บังคับแต่บังคับแค่ให้ลูกทำตามหน้าที่ลูกต้องรู้หน้าที่ในทุกจังหวะของชีวิตและต้องรู้ priority ของหน้าที่ด้วยช่วงเด็กหน้าที่หลักคือเรียนหนังสือเข้ามหาวิทยาลัยหน้าที่หลักก็ยังเรียนหนังสือถ้ามีสังคมและมีแฟนการเรียนตกลงต้องหยุดเพราะถือว่าเรารับกิจกรรมใหม่เข้ามาในชีวิตไม่ได้ต้องรู้ priority ของหน้าที่’” 

ม.ล.ขวัญทิพย์ เทวกุล หรือ เชฟป้อม

ถ้าให้เปรียบเทียบถึงอุณหภูมิของลูกๆทั้ง 3 คน คนโตอารมณ์เย็นสุด คนกลางอารมณ์ร้อนสุด คนเล็กอารมณ์อุณหภูมิห้อง “ณ วันนี้ป้อมอยู่ได้อย่างนี้สบายแล้วนี่คือชีวิตที่ป้อมใช้อย่างมีความสุขลูกๆทุกคนก็เป็นคนดีรู้จักทำมาหากินคิดถึงเราคิดถึงกันพวกเขาเป็นลูกที่ป้อมไม่ต้องอะไรแล้วเป็นเพื่อนซ่าๆที่ชวนเราไปไหนต่อไหนแต่เราก็ต้องเข้าใจนะอย่าไปถือวิสาสะไปเอาเวลาเขาทั้งหมดไม่ได้เราก็ต้องเคารพเขาอีกเหมือนกันเขาก็ต้องอยู่กับเพื่อนวัยเดียวกันและมีชีวิตของเขาเอง

ม.ล.ขวัญทิพย์ เทวกุล หรือ เชฟป้อม

และที่แอบภูมิใจอีกอย่างเขามีความกตัญญูรู้หน้าที่เห็นได้ตอนที่คุณพ่อเขาเข้าโรงพยาบาลขนาดไม่ได้อยู่กับพ่อลูกทุกคนพากันส่งพ่อเข้าห้องผ่าตัดโดยพร้อมเพรียงและวันที่เข้าโรงพยาบาลลูกคนโตเป็นคนอุ้มพ่อขึ้นรถไปโรงพยาบาลตรงนี้ป้อมภูมิใจมากๆ” เธอหันไปบอกลูกๆว่า “เมื่อวานแม่เพิ่งเซ็นประกันสุขภาพของแม่คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลปีละ 20 ล้าน” แล้วเธอก็หันมากล่าวกับ HELLO! ต่อว่า “ถ้าป้อมเป็นอะไรไปป้อมไม่มีเงินสำรองอื่นและลูกเขาก็ต้องทำมาหากินเขาก็คงอยากใช้เงินของเขาถ้าเราเป็นอะไรไปมีหรือที่เขาจะไม่รู้ดูแลเราเขาดูแลอยู่แล้วป้อมมั่นใจป้อมถึงไม่อยากให้เขาลำบากฉะนั้นป้อมทำประกันสุขภาพเต็มที่”

ม.ล.ขวัญทิพย์ เทวกุล หรือ เชฟป้อม เป็นสูตรผสมของผู้หญิงแกร่งที่น่าชื่นชมถ้าเปรียบชีวิตเช่นน้ำพริกชีวิตเธอแม้จะเกิดในราชสกุลก็ไม่ใช่น้ำพริกชาววังที่รสกลมกล่อมละมุนละม่อมไปหมดชีวิตเธอครบรสครบเครื่องและจัดทุกรส

นิตยสาร HELLO! ปีที่ 14 ฉบับที่ 01 ประจำวันพฤหัสบดีที่ 10 มกราคม 2562

หรือดาว์นโหลดฉบับดิจิตอลได้ที่  www.ookbee.com www.shop.burdathailand.com

Never miss an update

Subscribe to our newsletter to get the latest updates.

No Thanks
You’re all set

Thank you for your subscription.