เลือกเกิดไม่ได้ อาจจะเป็นคำที่ใช้ไม่ได้กับ ดร. ณัชร สยามวาลา เพราะผู้ชายหน้าตาดีกล้ามแน่น เครางามคนที่เรากำลังเห็นอยู่นี้ ถ้าบอกว่าเขาเคยเป็นเด็กนักเรียนโรงเรียนมาแตร์ฯ ซึ่งเป็นรร. หญิงล้วน ทุกคนจะเชื่อมั้ย? แม้ชีวิตแรกเขาอาจจะเลือกเกิดไม่ได้ แต่เขาสามารถเลือกเกิดใหม่ครั้งที่ 2 ในแบบที่เขารักตัวเองมากที่สุด จนเกิดเป็นคำว่า Designing Your Life ในแบบฉบับของ ดร. ณัชร สยามวาลา

ออกแบบชีวิต – Designing your life
“วินาทีแรกที่ก้าวเข้าสู่ชีวิตใหม่ตามที่ออกแบบไว้จริง ๆ คือวินาทีที่พิเศษมากครับ นั่นคือวินาทีที่คุณพยาบาลปักเข็มบนสะโพกผมเพื่อฉีดฮอร์โมนเข็มแรก แค่ปักเข็มและเดินยาเท่านั้น ความสุขมาเลย เป็นความสุขที่แปลกใหม่สำหรับผมผู้เคยสัมผัสความสุขสงบเย็นอันประณีตลึกซึ้งของการปฏิบัติธรรมมาแล้ว คือมันสุขแบบโล่งอกน่ะครับ ขนลุกเพราะรู้ในวินาทีนั้นเลยว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกแล้ว มั่นใจทันทีในวินาทีนั้นว่าใช่ครับ ผมว่าการฝึกสติมาก่อนนี่แหละครับทำให้ผมค่อนข้างไวต่อความรู้สึก “ใช่” นั้น”
เมื่อเวลาผ่านมากว่า 50 ปี แล้วอะไรทำให้คุณณัชรตัดสินใจที่จะปลดปล่อยชายหนุ่มที่ถูกขังอยู่ในร่างของผู้หญิงคนหนึ่ง ออกมาโลดแล่นบนโลกใบนี้
“แน่นอนกว่าจะตัดสินใจ transition ในวัย 50 นี้ก็ลังเลอยู่เป็นปี ๆ อาจารย์ของผม Bill Burnett ผู้เขียนหนังสือ Designing your life เคยพูดใน TED Talk ของเขาว่าคนเราจะไม่มีทางรู้เลยว่าสิ่งที่ตัดสินใจทำมันใช่หรือไม่ใช่ จนกระทั่งได้ตัดสินใจทำแล้ว ใช่เลยครับ แค่วินาทีที่เริ่มฉีดเข็มแรก ยายังไม่ออกฤทธิ์เลยครับ แค่เดินยา ขนลุกเลย ผมรู้เลยว่าตัดสินใจถูกแล้ว ยิ้มออกมาเลย จากนั้นผมก็ตั้งตาคอยส่องกระจกดูทุกวันว่าลูกชายคนโตของพ่อแม่เราหน้าตาจะเป็นยังไงนะ แล้วมันก็ค่อย ๆ เปลี่ยนให้เห็น ตื่นตา ตื่นใจ และตื่นเต้นมากครับ”

กระบวนการยืนยันเพศสภาพ ซึ่งมีทั้งการรับฮอร์โมนและการผ่าตัดยืนยันเพศสภาพ (gender affirmation surgery) จากชายเป็นหญิงนั้นเราพบเห็นได้ทั่วไป แต่การผ่าตัดจากหญิงเป็นชายที่เรียกว่า FTM (Female to Male) ของ Trans Man อย่างครบทุกขั้นตอนมีให้เห็นน้อยกว่ามากในประเทศไทย มีความซับซ้อนหลายขั้นตอนกว่า และยากกว่าชายเป็นหญิง นอกจากต้องใช้เงินจำนวนไม่น้อย และใช้เวลาอย่างน้อย 2 ปีขึ้นไปกว่าจะผ่าได้ครบถ้วนแล้วก็ต้องอาศัยความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวมุ่งมั่นแน่วแน่ในระดับที่สูงมาก แพทย์ต้องตรวจสอบความพร้อมทางกาย ทางใจ และเจ้าตัวก็ต้องเตรียมความพร้อมในทุก ๆ ด้านด้วย
แต่วินาทีตัดสินใจเปลี่ยนชีวิตนั้นเกิดขึ้นในชั่วแวบเดียว ”วินาทีที่ปิ๊งตัดสินใจเกิดขึ้นระหว่างนั่งสมาธิในคอร์สปฏิบัติธรรมที่มูลนิธิศูนย์วิปัสสนาเชียงใหม่ อยู่ ๆ มันก็แวบขึ้นมาว่า การรับฮอร์โมนคือการทำให้เราแตกเนื้อหนุ่มเป็นวัยรุ่นใหม่ เข้าสู่ Second Puberty (การเข้าสู่วัยรุ่นอีกครั้งหนึ่ง) หรือแปลว่าในปีแรก ๆ เราจะมีเรี่ยวแรงและพละกำลังของเด็กหนุ่มวัยรุ่นอายุ 15 ในขณะที่เรามีสมองของคนที่ผ่านโลกตั้ง 50 ปีไง! มันสุดยอดมากเลย เราสามารถใช้พลังที่ได้กับสมองที่มีไปดูแลตอบแทนพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ ตอบแทนแผ่นดินได้อีกตั้งเยอะ วินาทีนั้นก็ตัดสินใจทำเลย”

“ตอนนั้นผมอายุ 50 แล้ว หมอก็บอกว่าทำใจหน่อยนะ รับฮอร์โมนในวัยนี้อาจจะไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลงมากนัก แต่ผมเชื่อมั่นลึก ๆ ว่าผมจะทำสำเร็จครับ ผมเชื่อสนิทใจในพลังของบุญกุศล เชื่อว่าการที่เราทำคุณงามความดีอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งสำหรับผมคือ ทาน ศีล ภาวนา มันเป็นการสร้างเหตุดี ผลก็ย่อมจะดีตามไปด้วย แล้วก็จริงอย่างนั้นครับ มาหมดเลย เสียง หนวดเครา เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะมาเต็ม ๆ ไม่ว่าจะฝรั่งหรือไทย ผมค้นเจอว่าบางคนอาจแค่เสียงออกแหบนิด ๆ เหมือนเป็นหวัด หรือเสียงออกเป็ด ๆ หน่อย หรือไม่ก็เสียงต่ำแต่แผ่วเบามาก ไม่มีพลังกังวาน คือเหมือนกับยังกังวล ยังขาดความมั่นใจอยู่ดี
แต่เสียงผมออกมาในแบบที่ผมพอใจเลย ยิ่งผมเคยเรียน Voice Training มาบ้างแล้วเพื่อให้สอนหนังสือได้นาน ๆ โดยไม่เจ็บคอ และเพื่อให้เสียงออกมาฟังชัด รื่นหู เข้าใจง่าย พอเสียงแตกแล้วผมก็ไปเรียนเพิ่มต่อเนื่อง ก็ยิ่งมีพัฒนาการที่น่าพอใจ ไปคัดตัววงคอรัสมา ๒ วงในเสียงเบสหรือเสียงต่ำสุดของผู้ชายผ่านสบาย ๆ เลยครับ เกินคาดไปอีก! ”
“ต้องขอชื่นชมด้วยนะครับว่าหมอไทยเราเก่งมากจริง ๆ ต่างชาติก็มาผ่าที่เราจากทั่วโลกครับ”
จากหญิงเป็นชาย
กระบวนการอันซับซ้อนของการผ่าตัดยืนยันเพศสภาพความเป็นชาย นอกจากรับฮอร์โมนแล้ว เขาต้องผ่านการผ่าตัดหกครั้ง ทั้งผ่าบน ผ่าเอามดลูกรังไข่ออก ผ่าปิดช่องคลอดพร้อมยืดท่อปัสสาวะให้มีทิศทางไปด้านหน้า ผ่าสร้างท่อปัสสาวะที่ต้นขา ผ่าสร้างอวัยวะ และผ่าใส่แกนพร้อมตกแต่ง ทั้งหมดนี้ เป็นฝีมือการดูแลของคุณหมอหลายท่านจากสามโรงพยาบาล มาจบขั้นตอนสุดท้าย Phalloplasty ที่คุณณัชรเรียกด้วยอารมณ์ขันว่าเป็น Finale ที่น่าตื่นเต้นและท้าทายที่สุดที่โรงพยาบาลบำรุงราษฏร์ (ผ่า ๓ ครั้ง คือ ฝังท่อ, สร้างอวัยวะ, และใส่แกนพร้อมตกแต่ง)
ใช้ทีมศัลยแพทย์ระดับอาจารย์หมอระดับแนวหน้าผนึกกำลังพร้อมกันอย่างสุดฝีมือถึง ๔ ท่าน และได้อาจารย์หมอวิสัญญีแพทย์ระดับพาทีมหมูป่าออกจากถ้ำได้อย่างปลอดภัยมาช่วยดูแลการผ่าตัด ๑๐ ชม. รวดให้ราบรื่นเรียบร้อยสมบูรณ์แบบอีกด้วย ทุก ๆ ขั้นตอนคุณณัชรไม่ได้หวั่นไหวหรือกลัวอะไร เขารอคอยกระบวนการแตกเนื้อหนุ่มอย่างตื่นเต้น

” ตอนย้ายเนื้อต้นขามาต่ออวัยวะนั้น หมอจะเลาะเนื้อต้นขาบริเวณที่ฝังท่อไว้แล้วลอดใต้ชั้นผิวหนังต้นขามา แล้วมาโผล่ตรงกลางที่ผ่าเปิดรอไว้ แล้วม้วนเนื้อที่ย้ายมาเป็นอวัยวะ โดยให้ท่อปัสสาวะที่สร้างขึ้นบนต้นขาอยู่ตรงกลางแล้วเย็บต่อโคนอวัยวะและเย็บต่อท่อปัสสาวะเข้ากับท่อปัสสาวะเดิมที่ผ่ายืดมาข้างหน้ารอไว้ครับ ไม่ได้ตัดเส้นเลือด เส้นประสาท แล้วมานั่งต่ออีกที คือแค่ย้ายตำแหน่งที่ตั้งเขามาแค่นั้นเองครับ เพราะฉะนั้นการผ่าแบบนี้โอกาสที่สำเร็จจึงสูงมาก แล้วความรู้สึกอะไรต่าง ๆ มันก็จะค่อย ๆ ทยอยกลับมาในช่วงพักฟื้น ที่น่าทึ่งปนขำมากก็คือ ตอนแรกที่ความรู้สึกกลับมานั้นบางทีหมอหรือเราเองจับน้องชายล้างแผลทำแผลใหม่ประจำวันเนี่ย ความรู้สึกมันไปฟรุ้งฟริ้งที่ต้นขา เหมือนเส้นประสาทเขาจำได้ว่าฉันเคยอยู่ที่ขานะ
ร่างกายมนุษย์มหัศจรรย์มากเลยครับ น้องยังคิดว่าน้องยังอยู่ที่ขา หมอก็บอกว่าปกติครับ แล้วสอนวิธีฝึกน้องใหม่ ใช้วิธีจับสัมผัสแล้วมองน้องบ่อย ๆ ให้สมองเราบันทึกข้อมูลใหม่ว่าตอนนี้เขาอยู่ตรงนี้แล้วนะ ผมคุยกับเขาเหมือนคุยกับลูกว่า ตอนนี้ไจแอนด์อยู่ตรงนี้แล้วนะครับลูก ชื่อไจแอนด์นี้คุณพยาบาลตั้งให้ครับตั้งแต่ช่วงมาฝังท่อที่ต้นขาแล้วให้ทีมเขาทำแผลให้ คุณพยาบาลที่สนิทกับผมเขาเห็นขนาดความยาวความกว้างของบริเวณที่จะนำไปสร้างอวัยวะแล้วเขาก็ตั้งชื่อรอไว้ให้ตั้งแต่ก่อนย้ายไปต่อเลยครับว่าน้องไจแอนด์ (หัวเราะ) พอต่อเสร็จทีมคุณหมอก็ทราบถึงชื่อนี้ด้วย ก็เลยพากันเรียกเขาว่าไจแอนด์กันทั้งทีม เป็นรหัสลับในการส่งเวรที่น่าเอ็นดูและอบอุ่นดีนะครับ (หัวเราะ)”

งานคืนสู่เหย้าที่นิเทศฯ จุฬาครั้งล่าสุด เพื่อน ๆ ทั้งชายและหญิงยกให้เป็นนิสิตเก่าชายที่หล่อที่สุดของรุ่น “เพื่อนผู้ชายจะนับผมเป็นหนึ่งในผู้ชายไปเลย ซึ่งผมซึ้งใจมากนะครับ ส่วนเพื่อนผู้หญิงก็เข้าใจ ขอควงถ่ายรูปหน่อยอะไรอย่างนี้ ถ้ารุ่นพี่ที่เคยสนิทด้วยสมัยเรียนก็จะเรียกเพื่อน ๆ รุ่นของเขาว่า แก ๆ ๆ นี่มาดูน้องจ๋อมนี่! จำได้มั้ย (หัวเราะ) แล้วก็ชมผมว่าสุดยอดเลยครับ
หรือแม้กระทั่งเพื่อนเกย์ผู้ชายหลายคนก็บอกตรง ๆ ว่าเขารู้สึกว่าผมแมนกว่าเขาอีก (ยิ้ม) อันนี้ผมรู้สึกว่าเขาให้เกียรติผมมากนะครับ ผมรู้สึกขอบคุณเขามาก มาตรฐานเกย์มองผู้ชายด้วยกันนี่สูงมากนะครับ ดีใจนะเนี่ย (หัวเราะ)”
ไม่ใช่เพียงเปลี่ยนเพศได้เนียนทุกอณูเท่านั้น แต่คุณณัชรยังเป็นผู้ชายที่ฟิตแอนด์เฟิร์มมีความเป็นชายสูงอย่างที่เรียกว่า alpha male และดูอ่อนกว่าวัยเกือบจะ 56 ปีไปมาก และยังประกอบกิจทุกอย่างที่ผู้ชายทำได้อย่างผู้ชายทำทุกประการ คุณณัชรบอกว่าเขาแค่มีความสุขกับการใช้ชีวิตปกติแบบผู้ชายคนหนึ่งเท่านั้นเอง เข้าห้องน้ำก็สะดวกเป็นธรรมชาติ

ไม่ใช่ทุกคนที่ทำแล้วจะออกมาดูเป็นผู้ชาย 100% ขนาดนี้ ไม่ใช่ทุกคนที่เสียงหล่อขนาดนี้ ไม่ใช่ทุกคนที่มีหนวดเคราครึ้มและร่างกายฟิตเปรี๊ยะขนาดนี้ คุณณัชรบอกว่ามันไม่ได้ได้มาง่าย ๆ แต่มาจากความพยายามในการฟิตแอนเฟิร์มตั้งแต่การออกกำลังกายไปจนถึงการกินที่ดี
“เสียงแตกค่อนข้างเร็วครับ ประมาณ 4-6 อาทิตย์หลังจากรับฮอร์โมนเข็มแรก ตอนนั้นฉีดแบบทุก ๆ 2 อาทิตย์แล้วไปเข้าคอร์สปฏิบัติธรรม 8 วันซึ่งต้องปิดวาจา ประมาณวันที่ 3 วันที่ 4 ช่วงสวดมนต์เช้า อาจารย์จะนำสวดทีละประโยคน่ะครับแล้วพวกเราก็สวดตาม พอประโยคแรกเท่านั้นแหละ “เสียงใครวะ?” (เพราะตอนนั้นยังนั่งสวดมนต์รวมอยู่กับโซนผู้หญิง) “เอ๊า เสียงเราเอง!” วินาทีนั้นคือมองพระพุทธรูปอยู่พอดี ก็เลยตั้งจิตถวายเสียงนี้เป็นพุทธบูชา ตั้งสัจจะอธิษฐานทันทีว่า จากนี้ไปลูกจะขอใช้เสียงนี้พูดแต่สิ่งที่ดีงาม ใช้เพื่อช่วยคนให้พ้นทุกข์ เพื่อมอบความสุขให้กับเขา มอบแต่สิ่งดี ๆ เช่น สอนธรรมะ สอนเรื่องการฝึกสติ ให้ความรู้ ให้วิทยาทาน ฯลฯ”
“แล้วผมก็รักษาสัจจะวาจานั้นนะครับ ใช้เสียงนี้ทำ Live บริการให้ความรู้ประชาชนฟรีมาเกิน ๑,๐๐๐ ครั้งแล้ว และอื่น ๆ อีกมากมาย แล้วผมว่าเป็นเพราะผมตั้งจิตถวายเสียงใหม่เป็นพุทธบูชาและรักษาสัจจะวาจาคือทำตามนั้นจริง ๆ นั่นแหละครับ ทำให้เกิดสิ่งที่ผมเรียกว่ามหัศจรรย์ขึ้น นั่นคือ เสียงมีพัฒนาการที่ดียิ่ง ๆ ขึ้นไปเรื่อย ๆ ได้เจอครูสอน Voice Training ดี ๆ ทั้งนั้น และได้ Trainer ออกกำลังที่ทำให้กล้ามเนื้อทุกส่วนที่ใช้ในการออกเสียงของผมแข็งแรง เสียงพัฒนาไปเกินคาดมาก จะเรียกว่าเป็นเพราะเราตั้งจิตไว้ทันทีที่ได้ยินเสียงใหม่นี้ว่าจะใช้เสียงนี้สร้างความสุขให้กับผู้คน อานิสงส์เลยย้อนกลับมาให้ผมมีความสุขในทุกขณะที่ได้ใช้เสียงใหม่นี้ก็ได้ครับ สำหรับผมแล้วมันเป็นเหตุเป็นผลกันมาก (ยิ้ม)”

ความสุขจากข้างในที่เลือกเอง
“สำหรับผม การเปลี่ยนแปลงทุก ๆ อย่างมันเหมือนกับว่าตัวตนข้างในเราได้ออกมาข้างนอกเสียที เรารู้ว่าเขามีอยู่ข้างใน ตอนนี้เขาได้ออกมาแล้ว พอออกมาผมเลยได้เรียนรู้หลายอย่างเลยครับ เช่น ผมมีบุคคลิกของความมั่นใจและเฟรนด์ลี่แบบคุณพ่อผมเลย มันออกมาเองครับอย่างเป็นธรรมชาติ คือผมรักคุณพ่อคุณแม่ผมมากน่ะครับ มันเลยเป็นฟีลลิ่งว่า โอ้โห…หน้าตา สุ้มเสียง บุคคลิกที่พ่อแม่และบรรพบุรุษเมตตาให้เรามาแล้วฮอร์โมนเพศชายมันดึงออกมาให้เราเห็นได้ในที่สุดนี่มันเป็นสิ่งที่น่าขอบคุณอะไรอย่างนี้ มันมีความสุขจากข้างในน่ะครับ ประสบการณ์ transition ของผมทำให้ผมรู้สึกใกล้ชิดผูกพันกับบรรพบุรุษมากขึ้นกว่าที่เคยครับ”
“เหมือนได้เกิดใหม่แบบมีเป้าหมายแจ่มชัดยิ่งขึ้นภายในชาติเดียวกัน สามารถเอาประสบการณ์นี้ไปสอนธรรมะคนได้ด้วย และไม่เคยมีแม้แต่วินาทีเดียวเลยครับที่รู้สึกเสียใจที่ตัดสินใจรับฮอร์โมนและผ่าตัดจนเสร็จสมบูรณ์”

“ใน Live นั้นผมพูดประโยคหนึ่งว่า I believe I’m on my way to be the best version of myself. ตอนนั้นมันราว ๕ ปีที่แล้วครับ มาถึงวันนี้ ผมอยากต่อท้ายประโยคเดิมที่หนุ่มน้อยคนนั้นพูดไว้ด้วยความใสซื่อว่า You can become the best version of yourself, and aim to be an even better person everyday. ครับ คือวันนี้เราก็ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดนั่นแหละ และถ้าพรุ่งนี้เรายังมีชีวิตอยู่ ก็ให้ตั้งเป้าที่จะเป็นคนที่ดีขึ้นกว่าเดิม อีกนิดก็ยังดี คุณค่าคนวัดกันที่อะไร? วัดกันในสิ่งที่เขาคิด พูด และ ทำ ไงครับ วันนี้ทำดีที่สุดแล้ว พรุ่งนี้ก็ทำเพิ่มอีก และดูด้วยว่าเราทำอะไรได้อีกไหมในการขัดเกลาตัวเองยิ่ง ๆ ขึ้นไป เพื่อในที่สุดแล้วจะได้พัฒนาตนเองถึงขั้นสูงสุด คือลอยตัวขึ้นหลุดพ้นจากความเป็น self ทั้งปวง เป็นอิสระจากทุกข์อย่างสิ้นเชิง สำหรับผมแล้ว ความเป็นอิสระจากทุกทั้งปวงนี่แหละครับ คือความสุขอันสูงสุด (ยิ้ม)”