อาจกล่าวได้ว่าท่ามกลางกระแสของการพัฒนาพื้นที่ใจกลางเมืองให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ ‘ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค’ คือโครงการมิกซ์ยูสอันโดดเด่นที่กำลังจะกลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ระดับโลกภายใต้แนวคิด Here for Bangkok โดยเฉพาะอาคารที่พักอาศัยระดับอัลตร้าลักซ์ชัวรี ซึ่งเพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งยังตั้งอยู่ในทำเลที่เรียกว่าเป็นย่านซูเปอร์คอร์ซีบีดี หัวมุมถนนสีลมตัดพระราม 4 ตรงข้ามสวนลุมพินี ด้วยเหตุนี้จึงไม่แปลกที่โครงการจะได้รับความสนใจตั้งแต่เริ่มเปิดตัว

และหนึ่งในนั้นคือครอบครัวของนักบริหาร ‘คุณโน๊ต-รีวิน เพทายบรรลือ’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PrimeStreet Group บริษัทที่ปรึกษาการเงิน ที่ปรึกษาทางธุรกิจและการลงทุน และ ‘คุณนก-มณีรัตน์ อนุโลมสมบัติ’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารแห่ง SEA (ประเทศไทย) ผู้นำธุรกิจเกมออนไลน์ Garena อี-คอมเมิร์ซ Shopee รวมถึงธุรกิจบริการทางการเงินดิจิทัลภายใต้แบรนด์ SeaMoney ที่กล่าวว่าติดตามข่าวคราวของโครงการตั้งแต่แรกเริ่ม รอให้เปิดจองอย่างเป็นทางการ และตัดสินใจเข้ามาเป็นลูกบ้านของดุสิต เรสซิเดนเซส อย่างเต็มตัว
พื้นที่เพื่อทุกคนในครอบครัว
“ด้วยความที่ผมอยู่ในวงการ Investment จึงได้ทราบข่าวเกี่ยวกับโครงการนี้มานาน พอขับรถผ่านตลอดก็เห็นว่ากำลังก่อสร้างอยู่ แต่ช่วงนั้นยังไม่ได้เปิดจองอย่างเป็นทางการ สุดท้ายเลยตัดสินใจค้นหาข้อมูลบริษัทและส่งอีเมลเข้าไปถามว่าเปิดให้เข้าดูได้หรือยัง” คุณโน๊ตเล่าถึงที่มาก่อนจะเข้ามาชมโครงการพร้อมภรรยา และตัดสินใจจองภายใน 3 วัน “ช่วงนั้นเราไปดูหลายโครงการมากในละแวกใจกลางเมือง จนสุดท้ายมาลงตัวที่โครงการนี้” คุณนกกล่าวเสริม
ด้วยความที่เป็นผู้บริหารระดับสูงที่มีงานรัดตัวทั้งคู่ การให้เวลากับครอบครัวจึงถือเป็นสิ่งที่ทั้งสองให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ “ถ้ามีเวลาว่างเรามักจะใช้เวลาอยู่บ้านเป็นส่วนใหญ่ ให้เวลาทำกิจกรรมกับลูกๆ หรือไม่ก็ไปต่างจังหวัดกัน แต่การที่เราสนใจโครงการนี้ นกมองถึงการตอบโจทย์คนละแบบในแง่ของบ้านหลังที่สอง และการมองในระยะยาว จริงอยู่ว่าบ้านที่เราอาศัยอยู่ในปัจจุบันเป็นบ้านที่มีพื้นที่ส่วนตัว มีสวน ให้ความรู้สึกโฮมมี่ แต่ในระยะยาวนกมองในเรื่องทำเลที่ตั้งของโครงการนี้เป็นอันดับหนึ่ง ที่นี่สามารถเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าทั้ง BTS และ MRT และยังตอบโจทย์ในแง่ของไลฟ์สไตล์ด้วย

ผู้นำธุรกิจเกมออนไลน์ Garena อี-คอมเมิร์ซ Shopee รวมถึงธุรกิจบริการทางการเงินดิจิทัลภายใต้แบรนด์ SeaMoney
“การอยู่คอนโดมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่บ้านเดี่ยวอาจมีไม่ครบ นกมีลูก 2 คน คนโต 10 กว่าขวบ ส่วนคนเล็กขวบกว่า ลูกคนโตเราต้องใช้วีลแชร์ตลอด เราจึงอยากได้ที่อยู่ที่สามารถพาเขามาเดินเล่นได้ การที่เราเลือก ดุสิต เรสซิเดนเซส จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด เนื่องจากพอโครงการเสร็จสมบูรณ์ จะมีทางเชื่อมจากตึกที่พักอาศัยไปถึงส่วน Roof Park ที่ใหญ่มากๆ แล้วก็เดินต่อไปที่ศูนย์การค้า Central Park ได้ เราอยากให้เขาได้เจอธรรมชาติ ได้มองไปเห็นวิวของสวนลุมพินี ทั้งหมดเป็นความสะดวกสบายที่เรามองว่าบ้านเดี่ยวอาจจะตอบโจทย์ตรงนี้ไม่ได้” คุณนกกล่าว
โครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค เป็นโครงการมิกซ์ยูสมูลค่ากว่า 46,000 ล้านบาท ประกอบด้วย โรงแรม ที่พักอาศัย อาคารสำนักงาน และศูนย์การค้า โดยเชื่อมต่อทุกองค์ประกอบเข้าด้วยกันผ่าน Roof Park ขนาด 7 ไร่ ซึ่งออกแบบด้วยแนวคิดที่ต้องการให้คนเมืองได้ใกล้ชิดธรรมชาติ มีพื้นที่สำหรับออกกำลังกาย และกิจกรรมสันทนาการต่างๆ อีกทั้งยังเชื่อมต่อทิวทัศน์อันงดงามของธรรมชาติกว่า 360 ไร่จากสวนลุมพินีซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามได้อย่างไร้รอยต่อ นับเป็น Privilege ที่หาได้ยากในทำเลใจกลางเมือง ทั้งยังเป็นการยกระดับการใช้ชีวิตเมืองให้เทียบกับเมืองชั้นนำระดับโลก เช่น เซ็นทรัล พาร์ค (Central Park) ที่นิวยอร์ก และไฮด์พาร์ค (Hyde Park) ที่ลอนดอน ในส่วนของที่พักอาศัยเป็นอาคารสูง 69 ชั้น ประกอบด้วยสองคอนเซปต์หลักคือ ‘ดุสิต เรสซิเดนเซส’ และ ‘ดุสิต พาร์คไซด์’ ทุกรายละเอียดงานดีไซน์สร้างสรรค์ด้วยความประณีตพิถีพิถัน สะท้อนคุณค่าดั้งเดิมของดุสิตธานีที่ผสานเข้ากับดีไซน์ทันสมัยในมาตรฐานสากลเพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้สัมผัสความรู้สึกถึง ‘บ้าน’ ที่มีความเป็นส่วนตัวสูงสุด
‘ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค‘ แบรนด์ที่คุ้นเคย
“สิ่งที่ชอบมากที่สุดของที่นี่ คือ การเป็น Branded Residence ที่บริหารงานโดยมืออาชีพ เรารู้สึกตรงกันว่าอยากได้ที่พักที่มีบริการต่างๆ แบบที่โรงแรมมี แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องมีความเป็นส่วนตัว ปัจจุบันในกรุงเทพฯ มี Hotel Residence อยู่หลายแห่ง แต่สิ่งที่นกชอบโครงการนี้เพราะเป็นแบรนด์ดุสิตธานี เรารู้จักดุสิตมานาน ประทับใจกับการบริการแบบไทยที่มีคุณภาพระดับสากล” คุณนกกล่าว สองสามีภรรยามีความคุ้นเคยกับดุสิตธานีไม่ต่างกัน โดยคุณนกมองว่าสำหรับเธอ ดุสิตธานีเป็นเหมือนแลนด์มาร์คของกรุงเทพฯ เป็นอาคารที่เห็นมาตั้งแต่เด็กด้วยความที่เคยอาศัยอยู่ในย่านเยาวราช และเรียนหนังสือแถวสีลม

บริษัทที่ปรึกษาการเงิน ที่ปรึกษาทางธุรกิจและการลงทุน
ในขณะที่คุณโน๊ตนั้นออกจะคุ้นเคยมากกว่าเนื่องจากหน้าที่การงาน “ด้วยความที่อาชีพของผมต้องคุยงานกับลูกค้าซึ่งเป็นผู้บริหารหรือเจ้าของกิจการ หากไม่นัดพบปะพูดคุยกันที่ออฟฟิศ ก็มักจะนัดกันที่ห้องอาหารหรือล็อบบี้โรงแรมในย่านใจกลางเมือง ก่อนหน้านี้โรงแรมดุสิตธานีเป็นสถานที่ที่ผมชอบมาก เนื่องจากล็อบบี้มีพื้นที่กว้างขวาง มีห้องอาหารให้เลือกหลากหลาย มีมุมคาเฟ่ มองไปด้านหนึ่งก็เห็นต้นไม้ เห็นนํ้าตก เรียกว่าสมัยที่ยังเป็นโรงแรม อย่างน้อยอาทิตย์ละ 3 วัน ผมจะได้กินอาหารที่ดุสิตธานี” คุณโน๊ตเล่า
บริการระดับ 5 ดาว
การบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกที่มาพร้อมกับที่พักอาศัยถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของดุสิต เรสซิเดนเซส ในฐานะที่มีความเป็นเลิศด้านฮอสพิทาลิตีของโรงแรมมาตรฐานระดับโลก การบริการสุดพิเศษจึงมีทั้งที่ทางโครงการได้จัดเตรียมไว้ให้เป็นแบบ Standard Services อย่างการบริการทำความสะอาดอาทิตย์ละ 2 ครั้ง และการทำความสะอาดชุดเครื่องนอนเดือนละ 2 ครั้ง เป็นต้น นอกเหนือจากนี้ยังมีการบริการที่ผู้พักอาศัยสามารถขอรับบริการเพิ่มเติมแบบ À La Carte Services อีกด้วย ทางโครงการให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพกายและสุขภาพใจ โดยได้จัดสรรพื้นที่ชั้น 8 ให้เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ตลอดจนมีศูนย์สุขภาพ ห้องอเนกประสงค์ ห้องสปา ห้องทำผม ทำเล็บ ฯลฯ
“การให้บริการแบบโรงแรมนั้นต่างกับการอยู่ในคอนโดทั่วไปแน่นอน โดยเฉพาะเรื่องคุณภาพ ความประณีตและความพิถีพิถันในการดูแล เช่น การทำความสะอาด การช่วยดูแลความเรียบร้อยของบ้าน และระบบการรักษาความปลอดภัย นอกจากนี้เขายังมีบริการห้องสปาภายในอาคาร ให้ความรู้สึกเหมือนกับเราพักในโรงแรมแล้วเดินจากห้องไปสปาได้เลย ใกล้และสะดวกกว่ามาก” คุณนกกล่าว ส่วนคุณโน๊ตเสริมว่า “ในส่วนของอาหารก็สั่งจากโรงแรมมาเสิร์ฟที่บ้านได้ง่าย และเมื่อบ้านตั้งอยู่ใกล้ศูนย์การค้า นกเขายังเคยคุยเล่นกับผมว่าอีกหน่อยแก่ตัวไปเราย้ายมาอยู่ที่นี่เลยก็สะดวกดี เดินไปช็อปปิ้งได้แบบไม่ต้องขับรถออกจากบ้าน”
ภายในพื้นที่ส่วนกลางที่จัดเตรียมไว้มากถึง 6,500 ตารางเมตร เพียบพร้อมด้วยสระว่ายนํ้าแบบอินฟินิตี้และเจ็ตพูล ห้องอาบนํ้าและห้องเปลี่ยนเครื่องแต่งกาย ห้องอบไอนํ้า ห้องซาวน่า ห้องออกกำลังกาย ห้องโยคะ สกายเลานจ์ พร้อมห้องรับประทานอาหารเป็นส่วนตัว อยู่ที่ชั้น 29 และ 46 นอกจากนี้โครงการยังมีบริการเสริม เช่น การช่วยดูแลผู้สูงอายุและเด็กๆ โดยสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับเด็ก เช่น สนามเด็กเล่น Kids’ Room “จุดนี้นกมองว่าเป็น Plus แม้จะไม่ได้เป็น A Must สำหรับบ้านเรา แต่เรารู้สึกว่าดีจังที่มีบริการต่างๆ ให้ลูกๆ ด้วย เรารู้สึกว่าเขาใส่ใจในรายละเอียดและให้ความสำคัญกับความเป็นครอบครัว ไม่ใช่เฉพาะสำหรับผู้ใหญ่อย่างเดียว”
เหนือกว่าแค่เรื่องของ ‘การลงทุน’
เมื่อทั้งสองสามีภรรยาตั้งใจเลือกสรรพื้นที่สำหรับการเป็นบ้านหลังที่สองซึ่งสามารถตอบโจทย์ทั้งในด้านการใช้ชีวิตและการได้พักผ่อนอย่างสะดวกสบาย แม้ด้วยหน้าที่การงานจะคลุกคลีอยู่กับการลงทุน แต่เหตุผลในการตัดสินใจกลับไม่ได้มีเรื่องการลงทุนเข้ามาเป็นปัจจัยเลย “ถ้าตอบด้วยความสัตย์จริง ตอนที่ตัดสินใจซื้อที่นี่ผมไม่ได้คิดถึงเรื่องการลงทุนเลย ผมเลือกที่นี่เนื่องจากชอบทำเลที่ตั้งมาก ทั้งอยู่ในย่านซีบีดี และมีพื้นที่สีเขียวที่ติดกับสวน ใกล้กับศูนย์การค้า รวมทั้งมีตึกออฟฟิศอยู่ในบริเวณเดียวกัน ส่วนปัจจัยเรื่อง Leasehold ผมมองว่าถ้าเกิดเป็นระยะเวลาสั้น เช่น 20 – 30 ปี คงลังเลแน่ แต่ที่นี่ระยะเวลามากถึง 58 ปี สำหรับผม ผมมองว่าปัจจัยเรื่องที่ตั้ง และคุณภาพของโครงการสำคัญกว่าประเด็นนั้นมาก สามารถมองข้ามไปได้เลย” คุณโน๊ตกล่าว
ในขณะที่คุณนกมองในมุมเดียวกันว่า “จุดประสงค์ของเราคือการมีบ้านเพื่ออยู่เอง เราตั้งใจมาอยู่จริงจึงให้ความสำคัญกับสถานที่และการบริการต่างๆ มากกว่า เมื่อไม่ได้คิดว่าจะซื้อเพื่อทำกำไรหรือขายต่อ เพราะฉะนั้นเราเลยไม่ได้มองทั้งเรื่องการลงทุนและการเป็น Leasehold ค่ะ” คุณนกทิ้งท้าย