ชีวิตบทใหม่ในวัน Enjoy Life .. เปิดใจ ‘คุณซูซี่-หทัยเทพ (ศิริจรรยา) ธีระธาดา’ กับคอนเซ็ปต์การใช้ชีวิต ‘ทำงานทุกวัน ในวันที่เรายังทำได้!!!’
ดูจะเป็นเซเลบริตี้ที่ยังคงความงามอย่างต่อเนื่อง แบบไม่ขาดตกบกพร่อง สำหรับ ‘คุณซูซี่-หทัยเทพ (ศิริจรรยา) ธีระธาดา‘ ซึ่งมีความสวยไม่สร่าง และสิ่งที่ควบคู่กับความสวยของเธอ คือการดำเนินชีวิตที่ไม่หยุดนิ่ง ซึ่งคอนเซ็ปต์การใช้ชีวิต ‘ทำงานทุกวัน ในวันที่เรายังทำได้!!!’ทุกวันนี้เธอยังมีความสุขกับการทำงานใหม่ โดยมีความสุขและความสนุกของชีวิตเป็นตัวตั้ง HELLO! นัดพบเธอ ภายหลังจากสูญเสีย ‘น้องหมา’ ที่เฝ้าเลี้ยงอย่างทะนุถนอมไปหมาดๆ ขณะที่บางตัวเธอต้องเฝ้าดูแลอาการเจ็บป่วย หลังเข้ารับการรักษาจากโรงพยาบาล จากที่เคยเลี้ยงกว่า 43 ตัว ทุกวันนี้ค่อยๆ ลดเหลือ 12 ตัวเห็นจะได้
แม้จะผ่านความเศร้า เสียใจ และเผชิญความทุกข์ที่เกิดจากการพลัดพราก ทว่า…นั่นยิ่งเป็นสิ่งย้ำเตือนให้เธอเห็นคุณค่าเวลาในปัจจุบัน ทำให้การพูดคุยครั้งนี้ มากด้วยเรื่องราว และมุมมองที่มีต่อชีวิต ซึ่งเธอไม่ค่อยได้คุยให้ใครฟังบ่อยนัก

“วันนี้ดิฉันอายุ 78 ปีแล้ว กำลังจะเข้า 79 หลายคนถามว่าทำไมดิฉันยังทำงานอยู่อีก ไม่คิดจะพักผ่อนบ้าง” คุณซูซี่ เริ่มเปิดฉาก ก่อนเล่าต่อว่า “ดิฉันบอกคนใกล้ตัวเสมอว่า การที่เราทำงาน หรือสร้างประโยชน์ได้ ในวันที่เรายังทำได้ สร้างอาชีพให้ตัวเองรวมถึงลูกน้อง ทำให้ชีวิตเราตื่นตัวตลอดเวลา ร่างกายก็จะไม่แก่ สมองตื่นตัว คิดโน่นนี่ ไม่หลงลืมง่าย เพราะได้ใช้งานสมอง ได้ใช้ความคิด ได้พบเพื่อนและลูกค้า เป็นการแลกเปลี่ยน เรียนรู้ประสบการณ์ ทำให้ได้มุมมองใหม่ๆ ในการทำธุรกิจ ได้มิตรภาพที่ดีจากลูกค้า ได้รู้จักคนที่มีความหลากหลาย แล้วเราจะหยุดทำงานทำไม…จริงไหม” คุณซูซี่ ถามกลับ พร้อมกับอัพเดตถึงการทำงานและทำธุรกิจใหม่ของเธอยามนี้ ซึ่งไม่ได้ทำเพราะคิดถึงเงินเป็นตัวตั้ง แต่ทำเพื่อความสนุก และความสุขของชีวิต
ทุ่ม 30 ล้านเปิดธุรกิจใหม่ ‘HOME & MORE’
เปิดตัวธุรกิจใหม่ล่าสุดร่วมหุ้นกับสองหนุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ ‘คุณอรรถพล บุญเล็ก’ เจ้าของบริษัทผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์บริษัท ทองหยิบ (1960) จำกัด และ ‘คุณกวินทัต วงศ์ปรากฏ’ เจ้าของบริษัท กวิน อินเตอร์บิสิเนส จำกัด ผู้นำเข้าและส่งออกเฟอร์นิเจอร์ต่างประเทศ เปิดศูนย์รวมเฟอร์นิเจอร์ ‘HOME & MORE’ สาขาไอคอนสยาม และบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี ด้วยเงินลงทุนกว่า 30 ล้านบาท

คุณซูซี่เท้าความให้ฟังว่า “ความที่เราเปิดร้านดอกไม้ และร้านอาหารแล้ว บางวันดิฉันต้องเข้ามาดูแลร้าน จึงคิดว่าเราน่าจะดูแลหลายๆ ธุรกิจในศูนย์การค้าเดียวกัน รวมทั้งทีมไอคอนสยามดูแลและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ดิฉันได้รับการเสนอพื้นที่ จึงตัดสินใจเปิดร้านเฟอร์นิเจอร์เพิ่ม โดยร่วมกับคุณกวินทัต และคุณอรรถพล เปิดกิจการ ‘HOME & MORE’ เป็นร้านเฟอร์นิเจอร์งานฝีมือคนไทยที่มีคุณภาพ ออกแบบทันสมัย และได้มาตรฐานการผลิต ราคาจับต้องได้ มีโรงงานผลิตของตัวเอง
“ดิฉันเล็งเห็นว่าธุรกิจของตกแต่งบ้าน ยังคงดำเนินไปได้ควบคู่กับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ที่เข้ามาร่วมในธุรกิจนี้ เพื่อต้องการขยายตลาดให้กลุ่มลูกค้าที่หลากหลายขึ้น รวมถึงตลาดต่างประเทศ ทั้งการออกแบบให้ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ เพื่อส่งออกให้กับโรงแรม คอนโดมิเนียม โครงการหมู่บ้าน รวมถึงตลาดต่างประเทศที่ตอนนี้ลูกค้าต่างประเทศให้ความสนใจสินค้าของเรามากขึ้น ด้วยรูปแบบการผลิตสินค้าซึ่งมีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ไม้ ทองเหลือง หินอ่อน งานตกแต่งผนังต่างๆ รวมทั้งของตกแต่งบ้านที่หลากหลาย”
HOME & MORE ศูนย์รวมเฟอร์นิเจอร์ไฮเอนด์
คอนเซปต์และความแตกต่างของ HOME & MORE คือ กลุ่มลูกค้าสามารถมาเดินชมสินค้า แล้วตอบโจทย์ครบ จบที่นี่ที่เดียว โดยแบ่งสินค้าที่วางจำหน่ายเป็น 2 กลุ่ม คือ เฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่งบ้าน โดยสินค้าที่วางจำหน่ายที่สาขาไอคอนสยาม และสาขาบางใหญ่ อาจมีเฉพาะบางไอเท็มที่คล้ายกัน ทั้งนี้เนื่องจากทั้งสองสาขาเป็นกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกัน
คุณกวินทัตอธิบายว่า “สินค้าที่วางจำหน่ายสาขาไอคอนสยาม มีจำนวนกว่า 1,000 ไอเท็ม ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ เป็นกลุ่มผู้ใหญ่ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ สินค้าประเภท Wall Art งาน Decorate ที่เป็นของแต่งบ้านชิ้นเล็กจะขายดี พวกเฟอร์นิเจอร์ก็ขายได้ โดยที่สินค้าของเราจะเปลี่ยนไปตามเทรนด์ และตามช่วงเวลาต่างๆ ด้วย ซึ่งตอนนี้ทั้งสองสาขาเปิดให้บริการแล้ว บางไอเท็มอาจมีขายเหมือนกันทั้งสองสาขา แต่ในอนาคตเราจะพยายามหาสินค้าที่แตกต่างกันมานำเสนอ”

คุณอรรถพลเสริมว่า “ที่ HOME & MORE นอกจากจะมีสินค้าแบรนด์ของเราเองแล้ว ยังมีสินค้าแบรนด์อื่นๆ ของเพื่อนในวงการมาจำหน่ายด้วย เพื่อให้สินค้ามีความหลากหลาย โดยสาขาไอคอนสยาม ซึ่งมีพื้นที่ 220 ตารางเมตร มีสินค้าจำหน่ายกว่า 1,000 ไอเท็ม ส่วนสาขาบางใหญ่มีกว่า 10,000 ไอเท็มคอนเซปต์ของเราคือเป็นศูนย์รวมเฟอร์นิเจอร์ระดับไฮเอนด์ ทั้งเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน”
“ประเภทเฟอร์นิเจอร์แบ่งตามสไตล์ เป็น Modern Loft, Modern Luxury และ Minimal เป็นสามสไตล์ที่กำลังอินเทรนด์ในปัจจุบัน ส่วนประเภทของแต่งบ้าน มีงานผ้าชนิดต่างๆ ทั้งผ้าไทยอีสาน ผ้าไหม ผ้าโมเดิร์นที่รวบรวมมา รวมทั้งมีแบรนด์ชื่อ ‘ภูซานิ’ เป็นแบรนด์ที่ช่วยเหลือสินค้าอุตสาหกรรมชุมชน โดยกระจายงานผ้าไทยอีสานให้ชาวบ้านผลิตผ้าขึ้นมาเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น หมอนอิง ผ้าม่าน พรมปูพื้น ผ้าปูโต๊ะ ฯลฯ และยังมีงานประติมากรรม งานปั้นต่างๆ ต้นไม้ประดิษฐ์ กระถาง เฟอร์นิเจอร์ที่เป็นงานเอาต์ดอร์”
‘หยิบยื่นโอกาส’ เพื่อช่วยเหลือผู้คน
นอกจากนี้ ทั้งสามหุ้นส่วนยังมีความคิดร่วมกันว่า การหยิบยื่นโอกาสเพื่อช่วยเหลือผู้คน สังคม และชุมชน เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายที่ต้องการจะทำ และได้ริเริ่มไปแล้วในบางส่วน คุณอรรถพลอธิบายว่า “เรื่องการช่วยเหลือทางสังคมเราทำมาตลอด โดยเริ่มจากกลุ่มองค์กรพนักงานภายในบริษัทของเราก่อน ซึ่งปัจจุบันนี้เรามีพนักงานประมาณ 50 คน เราไม่ได้ดูแลแค่ตัวเขา แต่ดูแลครอบครัวเขาด้วย ส่วนการผลิตชิ้นงานหลายอย่าง เราส่งให้วิสาหกิจชุมชนทำให้ เพื่อเป็นการกระจายงานและรายได้สู่ชุมชน ให้เขาได้ร่วมคิดร่วมทำกับเรา เพื่อให้งานมีความแตกต่างจากท้องตลาด ในอนาคตเราจะจัดตั้งเป็นองค์กรหรือมูลนิธิ เพื่อช่วยเหลือบุคคลภายนอกอื่นๆ นอกจากคนในองค์กรของเรา ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคนด้อยโอกาส ไม่มีรายได้ ขาดการศึกษา หรือขาดโอกาสทางสังคมต่างๆ”
ทำงานต้อง ‘สุข’ และ ‘สนุก’
เมื่อถามถึงมุมมองและเป้าหมายในการทำธุรกิจของคุณซูซี่วันนี้ เปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อก่อนไหม ซึ่งเธอเผยความในใจกับเราว่า “ในวันนี้ที่ดิฉันเริ่มทำธุรกิจหลังจากสถานการณ์โควิด-19 ต้องบอกว่าเป็นธุรกิจที่ทำให้มีความสุข และสนุกในสิ่งที่เราชอบ เหมือนเป็นธุรกิจหลังเกษียณ ซึ่งคนใกล้ตัวเราชอบ อยากเรียนรู้และช่วยกันพัฒนาให้เติบโตไปพร้อมกัน เหมือนเป็นการเริ่มต้นธุรกิจให้กับคนใกล้ตัว มีผลตอบแทนทางจิตใจ ไม่ได้เป็นธุรกิจใหญ่ แต่เป็นธุรกิจที่ทำแล้วคนรอบข้างมีความสุขลูกน้องมีงานทำ เปรียบเสมือนเราได้ช่วยสังคม ซึ่งต่างจากงานประมูลที่ดิฉันเคยทำผ่านมา ซึ่งงานด้านนั้นคือการลงทุน เป็นการทำธุรกิจอย่างจริงจัง
“แน่นอนว่า ทุกธุรกิจต่างมีปัญหาแตกต่างกัน ทั้งปัจจัยภายนอกและภายในองค์กร ถ้าเราคิดจะทำในธุรกิจนั้นๆ แล้ว สิ่งหนึ่งที่ดิฉันคิดเสมอคือ สู้ อดทน และพยายาม รวมถึงการเรียนรู้ปัญหาต่างๆ จะค่อยๆแก้ได้เสมอ พร้อมกับมีโจทย์ใหม่ๆ เข้ามาให้แก้ และเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง”

จากประสบการณ์การทำงานตลอดเวลาหลายสิบปี เรียกได้ว่าคุณซูซี่ผ่านประสบการณ์ทั้งร้อนและหนาวมาแล้วมากมาย ทว่า เธอกลับไม่เคยคิดที่จะหยุดทำงานเลย ด้วยเหตุผลที่ว่า… “การที่เรายังทำงานได้ เปรียบเสมือนการสร้างคุณค่าให้ตัวเอง เป็นการพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ไม่หยุดนิ่ง และถ้าทำธุรกิจแล้วประสบผลสำเร็จ ยิ่งภูมิใจและมีกำลังใจมากขึ้นที่จะพัฒนาการทำสิ่งต่างๆ ต่อไป เพราะการที่เราทำงานในแต่ละธุรกิจที่แตกต่างกัน ทำให้เราได้รู้จักคนต่างกลุ่มกัน ได้เห็นมุมมองที่หลากหลาย ทั้งความคิดและการกระทำ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะมาปรับใช้อย่างไร”
“คนเราจะสุขหรือทุกข์ ขึ้นอยู่กับมุมมองของเรา ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการใช้ชีวิตของทุกคน”
ติดตามบทสัมภาษณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ Enjoy Life กับ ‘คุณซูซี่-หทัยเทพ (ศิริจรรยา) ธีระธาดา’
ได้ในนิตยสาร HELLO! ‘ฉบับเดือนมิถุนายน 2565′ วางแผงแล้ววันนี้
? ติดต่อสั่งซื้อโทร 0 2676 8999 ต่อ 217 หรือ 084 079 5678
? สั่งซื้อออนไลน์ที่
shop.burdathailand.com หรือ Line ID: @hellomagazineth