แฟชั่นไม่เคยจำกัดเพศ..ส่องลุคสุดปังของคู่เซเลบริตี้ Front Row อย่าง ‘แก๊ป-ปณิธิพัทธ์ และ หมอตุ้น-นพ.อรรถสิทธิ์ สรรพวัฒน์’
ฟรอนต์โรว์จากมิลานจนถึงปารีส แฟชั่น วีค ถ้าไม่ติดว่ามีโควิด งานไหนงานนั้นเป็นต้องเห็น ‘คุณหมอตุ้น-นายแพทย์อรรถสิทธิ์
สรรพวัฒน์’ และ ‘คุณแก๊ป-ปณิธิพัทธ์ สุขสมบูรณ์’ แต่งตัวแฟชั่นจัดเต็มจนโลกตะลึงเสมอ แต่เมื่อลุกออกจากที่นั่งฟรอนต์โรว์แล้ว ทั้งสองเป็นเพื่อน พี่น้อง คนรัก และเป็นบัดดี้ช็อปปิ้งที่รู้ใจกันมากว่าสิบปี
หลงรักในสิ่งเดียวกัน
บรรดาคุณแม่ที่เคยพาลูกน้อยไปฉีดวัคซีนที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ อาจต้องขยี้ตาถ้าได้เห็นคุณหมอตุ้นในยามถอดเสื้อกาวน์ เพราะกุมารแพทย์ลุคสะอาดสะอ้านตามแบบฉบับคุณหมอมีมุมที่ใส่สูทสีมัสตาร์ดหรือเสื้อเชิ้ตลายปลาดาวจาก Versace “ส่วนใหญ่คนนี้เลือกให้” คุณตุ้นชี้ไปที่คนข้างๆ ซึ่งใส่เสื้อลายแมตช์กัน “ผมแทบไม่ต้องเลือกเอง แก๊ปจะเลือกให้หมด”
หลังเรียนจบคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ คุณตุ้นก็ไปเรียนต่อเฉพาะทางสาขากุมารเวชศาสตร์ และเริ่มต้นชีวิต ‘หมอเด็ก’ เมื่อ 11 ปีที่แล้ว หมอเด็กที่หน้าเด็กมากตกอกตกใจที่วันเวลาติดปีกไปเร็วขนาดนี้ “เวลารักษาเด็ก เราจะเห็นเด็กเติบโตขึ้นเรื่อยๆ เพราะเราดูแลเขาตั้งแต่แรกคลอด มาฉีดวัคซีนเข็มแรก เห็นพัฒนาการของเขา ดูเด็กเติบโตมันก็มีความสุข บางทีจะเลือกโรงเรียน คุณแม่ยังมาถามเราเลย” คุณหมอตุ้นหัวเราะ

ชีวิตไม่ได้มีวงกลมเดียวที่เป็นเรื่องงาน แต่ความสนใจเรื่องแฟชั่นเข้ามาบาลานซ์ชีวิตผม
‘คุณหมอตุ้น-นายแพทย์อรรถสิทธิ์ สรรพวัฒน์’ กุมารแพทย์ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์
“วันหยุดบางทีเราไม่ได้หยุดหรอก แต่พาร์ตที่เราไปดูแฟชั่นโชว์เหมือนเป็นการบังคับให้เราหยุดทำงาน นี่คือวิธีหยุดพักของผม เราจะรู้
ล่วงหน้าว่าอีก 3 เดือนจะมีอีเวนต์ เราจะวางแผนก่อน ชีวิตไม่ได้มีวงกลมเดียวที่เป็นเรื่องงาน แต่ความสนใจเรื่องแฟชั่นเข้ามาบาลานซ์ชีวิตผม พอเราอยู่ในวงหมอก็เหมือนอยู่อีกโลกหนึ่ง ส่วนใหญ่ก็คุยเรื่องคนไข้ เจอคนไข้แบบนั้นแบบนี้ แต่เวลาไปอีเวนต์แฟชั่นเหมือนคนละโลก แต่ใครรู้ว่าผมเป็นหมอเด็กก็เอาละ มาปรึกษาเรื่องเลี้ยงลูกกับผมในงาน (หัวเราะ)” คุณหมอตุ้นเป็นคนหัวเราะง่าย ยามพูดก็เสียงเบาใจดีเหมือนพูดกับเด็กเล็กๆ จนชิน
ตารางชีวิตของทั้งสองแทบไม่มีอะไรตรงกันเลย ขณะที่คุณตุ้นวุ่นกับงานที่โรงพยาบาล ส่วนคุณแก๊ปก็คร่ำเคร่งเรียนปริญญาเอก สาขาวิชายุโรปศึกษา ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ควบคู่ไปกับการปลุกปั้นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสารสกัดฮอร์โมนจากธรรมชาติสำหรับผู้หญิง และสาวทรานส์ และเลี้ยงกล้วยไม้ส่งออก หากความรักในแฟชั่นนี้เองที่เป็นโซ่ทองคล้องใจให้ทั้งสองได้ใช้เวลาร่วมกัน “คนเราอยู่ด้วยกันก็ต้องมีกิจกรรมที่ทำร่วมกันได้ เป็นอะไรที่เรามีความชอบเหมือนๆ กัน มองไปมองมาก็คือเรื่องแฟชั่น” คุณแก๊ปเล่าบ้าง
“เสื้อผ้าสวยไม่ใช่นิยามเดียวสำหรับเรา เราชอบเสื้อผ้าสวยที่มีคุณค่าทางใจและเรื่องราวด้วย คุณหมอก็มองว่าของแบรนด์เนมไม่ใช่แค่สวย แต่มองไปถึงคุณภาพและความเป็นมา โชคดีด้วยที่เราใส่เสื้อผ้าไซส์เดียวกัน เวลาซื้อของถ้าต้องเลือกว่าจะซื้อสีเขียวหรือชมพู ทีนี้ก็ง่าย ซื้อ 2 สีเลย เอามาใส่สลับกันได้”
“ผมถึงได้บอกว่าคนเลือกอยู่นี่ (มองคนข้างๆ) เวลาไปช็อปปิ้งด้วยกัน ถ้าเราจะไม่ซื้อ เขาจะมีแผน ไปอีกๆ สุดท้ายแล้วเราก็ซื้ออยู่ดี” คุณหมอฟ้องอีก คุณแก๊ปจึงรีบตบท้ายว่า “เรามีทัศนคติคล้ายกันในเรื่องนี้ บางคนเลือกสะสมรถ ภาพวาด หรืออะไรก็ตาม แต่เราชอบแฟชั่นก็เลยเริ่มสะสมของแฟชั่น มีกิจกรรมที่ทำด้วยกันแล้วมีความสุข ไปทำด้วยกันได้”
ความใส่ใจคือกุญแจ
ภาพที่ทุกคนมองเห็นคุณแก๊ปคือมุมที่เป็นแฟชั่นนิสต้าซึ่งแตกต่างจากใครๆ เพราะคุณแก๊ปผสมผสานใส่ทั้งเสื้อผ้าผู้ชายและผู้หญิงเข้าด้วยกัน แต่นอกเหนือจากแฟชั่นแล้ว คุณแก๊ปมีแพสชั่นแรงกล้าในเรื่องที่เกินความคาดหมาย “ตอนเรียนปริญญาตรีสาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ธรรมศาสตร์ แก๊ปก็คิดว่าต้องได้เกียรตินิยมอันดับ 1 เราก็เริ่มวางแผนเลยว่าต้องเรียนยังไง พอจบก็ได้เกียรตินิยมอันดับ 1 จริงๆ ตอนเรียนปริญญาโทก็เลือกเรียนยุโรปศึกษา จบได้เกรด 3.79 แล้วอาจารย์ก็ชวนให้เรียนต่อปริญญาเอกสาขานี้เลย มันก็คือแพสชั่นของเราในการเรียน
“ที่บ้านแก๊ปทำธุรกิจอะไหล่รถยนต์ เราก็มองว่าเราคงไม่เหมาะกับตรงนั้น แล้วแก๊ปชอบเลี้ยงกล้วยไม้มาตั้งแต่เด็กๆ เราก็เลี้ยงมาด้วยแพสชั่น จนกลายเป็นศึกษาและสะสมจริงจัง ได้เงินมาเท่าไรก็ซื้อกล้วยไม้หมดเลย จนกลายเป็นงานอดิเรกที่ทำเงินได้ และเรายังได้เรียนรู้เยอะมาก เพราะกล้วยไม้มีคาแร็กเตอร์ และนิสัยของมันในแต่ละสายพันธุ์ คนจะเลี้ยงกล้วยไม้ได้ดีต้องมีความใส่ใจ ต้องศึกษา และลองผิดลองถูก ไม่สามารถเอามาวาง รดน้ำ ใส่ปุ๋ยแล้วจบ”

ทำอาหารเสริม เลี้ยงกล้วยไม้ แฟชั่นก็ต้องอัพเดต คนรักก็ต้องดูแล เพื่อนก็คุย แบ่งเวลายังไง คุณแก๊ปตอบแบบชิลล์ๆ ว่า “ทุกอย่างคือสิ่งที่เราชอบ เลยไม่รู้สึกว่ามันคืองาน ทั้งหมดคือชีวิตเรา แก๊ปไม่เคยรู้สึกเลยว่า วันนี้จะไม่พูดเรื่องงาน ฉันจะหยุดมาอยู่กับตัวเอง เราทำทุกอย่างในทุกวัน เพราะมันคือส่วนหนึ่งของชีวิตที่กลมกลืนเป็นผืนเดียวกันกับตัวเรา และเราจะอยากทำให้ดีเพราะมันคือไดอารีหน้าหนึ่งในชีวิตเรา”
“ส่วนผมชอบอยู่กับตัวเอง ถ้าว่างก็จะดูซีรี่ส์ อ่านหนังสือ เล่มเกม ผมไม่ค่อยอยากออกไปไหน ไม่เคยมีความคิดว่าอยากไปเที่ยวที่ไหนเลยนะครับ พูดจริงๆ บางคนอยากไปโน่นนี่นั่น แต่ผมเฉยๆ ถ้าไม่เจอแฟชั่นผมก็จะอยู่แต่โรงพยาบาลกับบ้านเท่านั้น” คุณตุ้นเล่าถึงการใช้เวลาของตัวเองซึ่งต่างจากคุณแก๊ปลิบลับ “แต่แฟชั่นทำให้ผมได้ไปมิลาน ปารีส นิวซีแลนด์ มาเลเซีย เกาหลี ญี่ปุ่นกับแก๊ป เกือบจะได้ไปจีนและสวิตเซอร์แลนด์ พอดีมีโควิดเสียก่อน แฟชั่นก็เลยเป็นสีสันในชีวิตผมจริงๆ”
“ในทุกๆ ความสัมพันธ์แก๊ปว่ามันคือ Inequality เราเลยต้องทำให้มันสมดุลให้ได้ ถ้ารู้สึกสมดุลกันได้ ทุกอย่างก็จะโอเค และถ้าเราเจอคนที่ดีแล้วเราจะรักษาเขาไว้ให้เป็นความสัมพันธ์ตลอดชีวิต”
‘สถานะคู่รัก’ ในวันที่สังคมเปิดกว้าง
ความต่างระหว่างคุณตุ้น และคุณแก๊ปอาจเป็นสิ่งที่ทำให้ความสัมพันธ์ยืนยาวมากว่า 10 ปี “วันนี้แก๊ปยังพูดกับคุณหมอเลย แก๊ปเจอเขาตั้งแต่แก๊ปอยู่ปี 1 อายุ 19 วันนั้นก็ไม่คิดว่าจะมีวันนี้” คุณแก๊ปเปิดใจตรงไปตรงมา “ทุกๆ ความสัมพันธ์ไม่ควรมีเป้าหมาย ถ้าจะมีก็มีอย่างเดียวเลยคือเป็นเพื่อนกันหรือเป็นคนรักที่ดีต่อกัน เราไม่รู้อนาคตของชีวิตว่าจะขึ้นหรือลง ถ้าเธอขึ้น เราดีใจด้วย ถ้าเธอมีปัญหา ฉันจะช่วย มันคือ How to be together สุดท้ายแล้วเราก็จะเจอคนที่ไม่ใช่ว่าดีที่สุดหรอก แต่เราจะเจอคนที่เหมาะกับเรา มันต้องใช้เวลาเป็นฟิลเตอร์กรองไปถึงจะเจอสิ่งที่ชีวิตมองหา”

“เด็กในปัจจุบันโชคดีกว่าอีก เมื่อก่อนเราไม่มีอิสระที่จะบอกว่า เราเป็นแบบนี้ เราชอบแบบนี้ อยู่โรงเรียนเราเป็นตัวเองได้ พอกลับบ้านเราต้องเป็นอีกแบบ แต่วันนี้สังคมเปิดกว้างขึ้น ผู้ใหญ่ก็เริ่มเข้าใจและยอมรับ บางทีก็มองข้ามไปเลย ไม่ให้เรื่องพวกนี้มาเป็นอุปสรรคชีวิต เมื่อก่อนถ้าลูกเป็นเกย์ เป็นทอม จะรู้สึกว่าพ่อแม่ไม่รัก แต่วันนี้สังคมเปลี่ยน ความรักไม่ต้องมีเรื่องอะไรมาเป็นกรอบกางกั้นเลย คนที่ปิดกั้นเรื่องนี้แก๊ปมองว่าเขาอาจจะมองโลกแคบและน่าสงสารด้วยซ้ำ”
ผมอาจจะเห็นแย้งกับแก๊ปตรงที่ผมไม่ได้สงสารคนที่เหยียดเพศคนอื่น มันคือชีวิตเรา เราจะเอาคำพูดคนอื่นมาใส่ใจแล้วทำให้ตัวเองเครียดทำไม
“แก๊ปดีใจที่วันนี้ HELLO! มีคอลัมน์ที่มีเนื้อหาเรื่อง LGBTQ เป็นเรื่องที่ดีมาก ไม่ผิดหวังที่ติดตามอ่าน”
ติดตามบทสัมภาษณ์แบบ ‘Pride Month’ เอ็กซ์คลูซีฟได้ใน นิตยสาร HELLO! ฉบับเดือนมิถุนายน 2564
วาง แผงแล้ววันนี้! ? ติดต่อสั่งซื้อโทร 0 2676 8999 ต่อ 217 หรือ 084 079 5678
? สั่งซื้อออนไลน์ที่
shop.burdathailand.com หรือ Line ID: @hellomagazineth
ขอบคุณสถานที่ถ่ายทำ : โรงแรม Capella Bangkok ถนนเจริญกรุง