Home > Celebrity > Exclusive Interviews > เยือนบ้านอัจฉริยศรีพงศ์แห่ง ‘Gems Pavilion’

ในช่วงขาลงครั้งใหญ่ของเศรษฐกิจไทยที่เจอพิษต้มยำกุ้งเข้าไปเมื่อ พ.ศ. 2540 ธุรกิจส่วนใหญ่ล้มพังราบ หากแบรนด์เครื่องประดับนามว่าเจมส์ พาวิลเลี่ยนกลับยืนเด่นผงาดท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจระดับประเทศ แม้เพิ่งก่อตั้งได้แค่ขวบปีเดียวก็ตาม

คุณหนึ่งเล่าว่า “เราสร้างเครดิตด้วยความจริงจังในสิ่งที่ทำ ไม่ใช่แค่เรื่องดีไซน์ แต่กับทุกคนที่เราทำงานด้วย เราไม่เคยผิดนัดจ่ายเงินไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม เป็นบทพิสูจน์ว่าเราไม่ได้เข้ามาในธุรกิจนี้แบบฉาบฉวย และทำให้ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจ เราก็ยังอยู่รอดมากได้ แม้ตอนนั้นธุรกิจเราจะยังอายุน้อยมากก็ตาม”

คุณท็อปจึงขอเสริมถึงการอบรมสั่งสอนและการวางตัวของคุณแม่ที่ผ่านมา ซึ่งได้เป็นแบบอย่างให้ลูกๆทุกคนในการทำธุรกิจแบบตรงไปตรงมา ไม่เอาเปรียบใคร และยึดถือความซื่อสัตย์เป็นสำคัญ

“คุณแม่ขยันมาก ทำงานทุกวัน ไม่มีวันหยุด เราเห็นภาพนี้มาตลอด เลยเป็นคนทำงานหนักเหมือนคุณแม่ เรื่องเงินก็อย่าให้ผิด แม้ยอดซื้อของมีเศษสตางค์ก็ต้องจ่ายเต็ม คุณแม่สอนว่าอย่าตัดเศษและอย่าทำผิดกับลูกค้าเด็ดขาด”

“ทำได้สัก 2-3 ปี เจอวิกฤตเศรษฐกิจในเมืองไทย เลยคิดว่าน่าจะทำส่งออกด้วยอีกทาง หนึ่งก็เลยชวนใหม่” คุณปราณิศา อัจฉริยศรีพงศ์ น้องสามของบ้านซึ่งเรียนจบด้านการเงินจากมหาวิทยาลัยวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา และทำงานตามสายงานที่ร่ำเรียนมา เช่นเคยที่คุณหนึ่งโทรไปจีบน้องให้มาทำงานด้วยสำเร็จ แต่กว่าที่การส่งออกก็กลายเป็นเส้นเลือดสำคัญที่หล่อเลี้ยงเจมส์ พาวิลเลี่ยนอย่างทุกวันนี้ คุณใหม่ก็ต้องทุ่มสุดตัวไม่น้อย

“ดิฉันบอกลูกเสมอว่าทุกวันนี้แม่ดีใจนะ เพราะทุกคนไปได้อย่างที่เราไม่ได้นึกฝัน” คุณวลัยศรี กล่าวด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มกว้าง “อย่างหนึ่งเขาเก่งมาก เห็นพลอยเม็ดเดียวก็จินตนาการได้ว่าจะออกมาเป็นเครื่องประดับแบบไหน ท็อปก็เลือกเพชรและพลอยเก่งมากๆ คนในวงการจะรู้กิตติศัพท์เขาเลย แค่เจับดูเขาจะรู้เลยว่าผ่านมาตรฐานเราหรือไม่ ส่วนใหม่ช่วงแรกไปเช่าห้องเล็กๆ คูหาเดียวอยู่ที่ราชประสงค์ ดูแลด้านส่งออกตั้งแต่แรก และระหว่างที่ฟลุ้คเรียนวิศวะฯ ที่อเมริกา พี่ๆไปออกบูธที่ฮ่องกงกัน ฟลุ้คตัดสินใจไม่อยู่งานรับปริญญาแต่เลือกมาช่วยพี่ๆออกบูธ กลับถึงเมืองไทยฟลุ้คก็เป็นกำลังสำคัญที่ทำให้โรงงานเจริญเติบโตขึ้นมา ทั้งที่ไม่เคยมีประสบการณ์กับสิ่งเหล่านี้มาก่อน ดิฉันโชคดีที่ลูกๆ รักกัน แล้วทั้งสี่คนนี้ลงว่าถ้าตั้งใจทำอะไรละก็ ต้องทำออกมาได้ดีค่ะ” ความรู้สึกชื่นชมจากใจคุณแม่ที่ถ่ายทอดออกมาให้ลูกๆ ทุกคนได้ฟัง ยิ่งทำให้รู้สึกว่าบ้านนี้กรุ่นอวลไปด้วยความรักและความอบอุ่นจริงๆ

“คุณแม่จะอธิษฐานขอให้ทุกคนเจริญขึ้นๆ ตั้งแต่คนขับรถ พนักงานทุกคน ไล่ไปจนถึงลูกค้าและครอบครัวเลยค่ะ บางท่านซื้อของจากเราไปก็ต้องให้คุณแม่อวยพรให้ (หัวเราะ) เพราะท่านมีจิตใจปรารถนาดีต่อทุกคน ถึงได้บอกว่าเราเชื่อในการส่งกระแสความสุข ตัวเราเองแฮปปี้ที่ทำของสวยงามให้คนที่ซื้อไปใส่ได้มี Life Celebration ทำให้ทุกคนได้ฉลองความสุขเล็กๆน้อยๆ ในทุกๆวัน เป็นเสน่ห์ของจิวเวลรี่ที่แต่ละชิ้นมีบุคลิกสะท้อนตัวตน และต่อให้ 20 ปีมาแล้ว ก็ยังมีเรื่องราวให้เรียนรู้กันได้ไม่จบจริงๆค่ะ”

Never miss an update

Subscribe to our newsletter to get the latest updates.

No Thanks
You’re all set

Thank you for your subscription.