Home > Celebrity > Exclusive Interviews > เผยความสดใสของ 6 สาวเดบูตองท์แห่งวงสังคมไทย 

ดอกไม้ดอกใหม่จะผลิบานเสมอเมื่อฤดูกาลเดินทางมาถึง ดอกไม้ทั้ง 6 ที่เราเปรียบเปรยถึงนั้น คือเด็กสาวที่เติบโตมาในตระกูลดัง และกำลังแต่งแต้มสีสันให้กับวงสังคมเปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวายิ่งขึ้น วันนี้ HELLO! จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ 6 สาวเดบูตองท์ นำโดย คุณอรชพร ธีระนุสรณ์กิจ, คุณลมลมุล บุนนาค, คุณฌาดาพรฑ์ คอมันตร์, คุณสิรีธร พงษารัตน์, คุณนฤภัค โชคเจริญวานิช และ คุณบุญรักษา ลีเลิศพันธ์

6 สาวเดบูตองท์

ทำความรู้จักกับ 6 สาวตระกูลดัง

เริ่มจาก คุณเฌอแตม-ลมลมุล บุนนาค ทายาทเจ้าของกิจการท่าเรือ Haven69 Marina & Boater’s Club ลูกสาวคุณละลม บุนนาค และคุณมนสิร บุนนาค หลานปู่ของคุณล่องละลิ่ว บุนนาค ถัดมาคือ คุณอรชพร ธีระนุสรณ์กิจ หรือ คุณมีมี่ ลูกสาวคนเล็กของคุณมนสรร และคุณลวณา ธีระนุสรณ์กิจ แห่ง KCG Corporation Public Company Limited ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้า Cookie Imperial, เนยและชีส Allowrie, และนำเข้าสินค้าอื่นๆ ตามมาติดๆ กับ คุณรักษา-บุญรักษา ลีเลิศพันธ์ ทายาทคุณบัณฑิต และคุณรัชชานนท์ ลีเลิศพันธ์ แห่งยาสีฟันดอกบัวคู่ที่กำลังขยับขยายไปสู่ธุรกิจอาหาร 

คุณฌาดาพรฑ์ คอมันตร์ หรือคุณศิ ลูกสาวคนเก่งของคุณอรรถดา และคุณสมฤดี คอมันตร์ คุณพิพ-สิรีธร พงษารัตน์ ดวงใจของคุณมหิธร กับคุณสิรินทร์ พงษารัตน์  และ คุณนฤภัค โชคเจริญวานิช หรือ คุณยูนีค ลูกสาวคนกลางของ นอ.ดร.นฤเทพ โชคเจริญวานิช และคุณฐณิตา โชคเจริญวานิช เหลนตาของคุณประมาณ อดิเรกสาร 

6 สาวเดบูตองท์
คุณมีมี่-อรชพร ธีระนุสรณ์กิจ

การเรียนและเส้นทางความฝันของ 4 สาว

คุณเฌอแตม คุณพิพ คุณรักษา และคุณยูนีค ล้วนกำลังศึกษาระดับปริญญาตรี เราจะพาทุคนไปดูกันว่าสาวทั้ง 4 คน จะมีความสนใจด้านไหนเป็นพิเศษกันบ้าง โดยเราขอเริ่มกันที่คุณเฌอแตม ซึ่งตอนนี้กำลังเป็นนักศึกษาแพทย์ ปี 3 ที่คณะแพทยศาสตร์ วชิรพยาบาล เธอมีความฝันและแรงบันดาลใจตั้งแต่วัยเด็กที่อยากจะเป็นหมอ เพื่อดูแลคุณย่า และยิ่งตอกย้ำความมุ่งมั่นของเธอขึ้นไปอีกด้วยการไปเป็นอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ซึ่งทำให้รู้ว่าเมืองไทยยังขาดบุคลากรการแพทย์อยู่มาก 

“ที่วชิระจะเน้นการเรียนกับกิจกรรมควบคู่กัน และเฌอเป็นเด็กกิจกรรมตั้งแต่สมัยเรียนจิตรลดา มาอยู่ที่นี่ก็เป็นประธานรุ่นตอนปี 1 ตอนปี 2 การเรียนเข้มข้นขึ้นเลยเป็นทีมซัพพอร์ตเพื่อนในกิจกรรมต่างๆ เป็นรองประธานนักศึกษา พอปี 3 กลับมาทำงานอีกครั้งเลยเป็นประธานค่ายเปิดเสื้อกาวน์ของคณะ และล่าสุดเพิ่งได้รับเลือกเป็นประธานสภานักศึกษามหาวิทยาลัย 

“ส่วนถ้าจะเรียนต่อคุณแม่แนะนำให้ไปเรียนที่นิวยอร์ก อเมริกา เพราะเป็นเขตเมือง เหมือนที่วชิระเป็นโรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานคร และคุณพ่อคุณแม่ก็จบโทที่อเมริกาเหมือนกัน อาจจะมองแนวบริหารไว้ด้วย เพราะเฌออยากทำงานด้านการวางแผนพัฒนา ออกนโยบาย และแก้ไขนโยบายบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับระบบสาธารณสุขของไทยให้สอดคล้องกับโลกปัจจุบัน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตคนไทยให้ดีขึ้น” 

คุณเฌอแตม-ลมลมุล บุนนาค

อีก 1 สาวที่เรียนในเมืองไทย คือคุณพิพ ลูกสาวคนเดียวของคุณมหิธรและคุณสิริน ซึ่งมีธุรกิจอยู่หลากหลาย ทั้งเครื่องสำอาง The Face Shop, Leica Thailand และ Mos Burger จึงค่อนข้างแน่นอนว่าเธอต้องเข้าไปดูแลธุรกิจของครอบครัวในอนาคต และการเลือกเรียน BALAC หรือ Bachelor of Arts in Language and Culture สาขาวัฒนธรรมศึกษา หลักสูตรนานาชาติของคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงเป็นการปูทางที่มีเป้าหมายชัดเจน  

6 สาวเดบูตองท์
คุณมีมี่และคุณพิพ

“BALAC เป็นวิชาที่ปูพื้นฐานชีวิตได้ดีสำหรับการทำธุรกิจในอนาคต เพราะสาขานี้จะสอนให้เราเข้าใจเรื่องการใช้ชีวิต รู้ว่าควรพูดอย่างไร ทำอย่างไร ที่จะส่งผลดีในเชิงธุรกิจ ซึ่งเป็นการสอนเชิงทฤษฎี หลายวิชาที่เรียนจะไม่มีในคณะอื่น เช่น Food Culture หรือ Consumer Culture ที่ประทับใจคืออาจารย์เปิดโอกาสให้เราพูดได้ทุกอย่าง และเปิดกว้างกับทุกอย่าง ไม่ว่าเพศ ทุกสีผิว ทุกเชื้อชาติ เปิดกว้างถึงขนาดไม่จำเป็นต้องใส่ชุดนิสิต 

“เคยคุยกับคุณพ่อว่าอนาคตพิพอยากทำธุรกิจไหน พิพสนใจ Mos Burger กับ Leica และในสองอย่างนี้พิพอยากทำ Mos Burger มากกว่าเพราะคิดว่าธุรกิจอาหารมันไปได้ไกลกว่าธุรกิจอื่น แต่เริ่มต้นเลยคุณพ่อบังคับว่าห้ามทำธุรกิจครอบครัว ให้ไปลองหาประสบการณ์กับธุรกิจก่อนแล้วค่อยกลับมา แต่ก็มีความฝันที่จะทำธุรกิจของตัวเองด้วยเหมือนกัน ซึ่งอาจเป็นด้านแฟชั่นก็ได้เพราะมีแพสชั่นอยู่” 

คุณรักษา เป็นอีกคนที่กำลังสนใจธุรกิจอาหาร เธอเล่าว่าตอนนี้ดอกบัวคู่มีผลิตภัณฑ์อาหารเสริมจากรังนกที่กำลังไปได้ดีในตลาดเมืองจีนอยู่ด้วย ความสนใจด้านอาหารของเธอสั่งสมมาตั้งแต่ยังเด็กที่ได้ช่วยคุณแม่และคุณป้าทำอาหารและขนมอยู่บ่อยๆ ทั้งยังเป็นประธาน Cooking Club จัด Food Festival เพื่อนำรายได้ไปสร้างห้องเรียนให้เด็กชาวเขาตั้งแต่ยังเรียนไฮสกูลที่ Concordian International School และยังหารายได้จากการทำเบเกอรี่ขายออนไลน์ช่วงปิดเทอม จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเธอจึงเลือกเรียน Food Science ที่ University of Leeds  

“รักษาเลือก Food Science ทั้งหมด ไม่มีอย่างอื่น เลือกหลายมหาวิทยาลัย และได้ที่ลีดส์ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดสำหรับคณะนี้ การสอนจะเป็นเรื่องกระบวนการผลิตอาหารในระดับอุตสาหกรรมเป็นอย่างไร การผลิตอาหารแต่ละชนิด ลึกไปถึงเรื่องเท็กซ์เจอร์ การกระจายอนุภาคของอาหาร การแปรรูป การแก้ปัญหาต่างๆ จนถึงทำยังไงให้อาหารที่เราผลิตมีความปลอดภัยกับผู้บริโภค 

6 สาวเดบูตองท์
คุณศิและคุณรักษา

“ปีนี้เป็นปีสุดท้ายที่ต้องเรียนหนักที่สุด และตั้งใจว่าจะต่อโทด้านบริหารธุรกิจเพื่อเรียนรู้การบริหารคนและระบบ เพราะอยากทำธุรกิจอาหารสุขภาพที่ดีต่อร่างกายและอร่อยด้วย” 

และอีกหนึ่งสาวที่สนใจด้านบริหารธุรกิจไม่แพ้กัน คือ คุณยูนีค ตอนนี้กำลังเรียนอยู่ที่ London School of Economics เป็นปีสุดท้าย นั้นเอง

“เรียนจบที่โรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์แล้วก็มาต่อด้านนี้เลย ยูนีคอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง คิดว่าการเรียน Business Management มันทำให้เราต่อยอดได้ในหลายๆ ด้าน เราได้เรียนรู้ทฤษฎีแล้วเราจะประยุกต์สิ่งที่เราเรียนไปใช้ยังไง ทั้งเรื่องการเงิน เศรษฐศาสตร์ การตลาด ฯลฯ เท่าที่เรียนมาคิดว่าตัวเองสนุกกับการตลาดเป็นพิเศษ สนุกดี  

คุณยูนีค-นฤภัค โชคเจริญวานิช

“ธุรกิจอะไรที่สนใจยังต้องดูไปเรื่อยๆ ว่าถึงเวลานั้นมีอะไรที่เป็นที่นิยม และถ้าเรียนต่อโทก็คงจะยังเป็นเรื่องธุรกิจ แต่เรียนจบแล้วอยากจะทำงานด้าน consulting ถ้าได้ที่อังกฤษก็ดีเพราะจะได้เป็นประสบการณ์ที่ดี แต่ถ้าได้ที่เมืองไทยก็จะได้กลับมาอยู่กับครอบครัว” 

New Chapter Has Begun 

ใขณะที่มี 2 สาวที่กำลังเริ่มต้นกับการเรียนรู้ครั้งใหม่ในอีกก้าวสำคัญของชีวิต หนึ่งคือคุณศิ สาวน้อยคนสุดท้องในจำนวน 6 สาวเดบูตองท์ แต่เป็นพี่สาวคนโตของน้องสาวและน้องชายวัยกำลังน่ารัก คุณศิเพิ่งจบการศึกษาระดับมัธยมจาก Concord College ประเทศอังกฤษ ด้วย A* (A Star) ทุกวิชา และกำลังเป็นเฟรชชี่คณะสถาปัตย์ แห่ง University of Bath มหาวิทยาลัยเก่าแก่ในอังกฤษเช่นเดียวกัน  

คุณรักษา-บุญรักษา ลีเลิศพันธ์

คุณศิมีอายุครบ 19 มาหมาดๆ ในบุคลิกที่ดูนิ่งขรึมเมื่อแรกเจอ ได้ซ่อนความมั่นใจไว้ในคำพูดและดวงตา สะท้อนความเป็นคนชัดเจนมาตั้งแต่ยังเด็ก และสาวน้อยคนนี้เลือกทางเดินให้ชีวิตด้วยตัวเองมาตั้งแต่ต้น  

“ศิขอคุณพ่อคุณแม่ย้ายจากฮาร์โรว์ตอนเยียร์ 9 เพื่อไปเรียนที่อังกฤษ เพราะอยากมีอิสระและได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ใช้ภาษาอังกฤษทุกวัน การได้เจอคนจากหลายๆ ประเทศมันทำให้สังคมเรากว้างขึ้นและได้ประสบการณ์ใหม่ ๆ ก็สนุกอีกแบบ เพราะตอนอยู่ไทยถือว่าสบาย มีคนไปรับไปส่ง มีแม่คอยช่วยทำอะไรให้ แต่ที่อังกฤษเราต้องจัดการตัวเองเรื่องค่าใช้จ่าย ซื้ออะไรเอง ช่วยตัวเองทุกอย่าง มันทำให้เราโตขึ้น  

 คุณศิ-ฌาดาพรฑ์ คอมันตร์

“ศิเคยอยากเรียนแฟชั่น แต่รู้สึกว่าสถาปัตย์ตอบโจทย์กว่าแฟชั่น ตอนเลือกมหาวิทยาลัยเลยเลือกสถาปัตย์อย่างเดียว เพราะตัวเองเป็นคนชอบดีไซน์อยู่แล้ว ชอบทำโปรแกรม 3D software ออกแบบอาคาร ออกแบบห้อง แล้วสาขานี้ค่อนข้างกว้าง เพราะสอนหลายทักษะ ทั้งคณิต ศิลปะ และได้เรียนประวัติศาสตร์และกฎหมายด้านนี้ด้วย ศิอยากเป็นเรียนไปจนถึงจุดที่สูงที่สุดของสถาปนิกเลย คือสามารถเซ็นแบบได้  

“การใช้ชีวิตหลังจากนี้ นอกจากย้ายเมืองเพราะต้องไปอยู่หอพักของมหาวิทยาลัยแล้วก็คงไม่มีอะไรที่ต้องปรับเปลี่ยนมาก แต่คิดว่าตารางเรียนคงไม่มีทุกวัน ตั้งใจจะเข้าคลับพวกแบดมินตัน ปี 2 กับปี 3 ก็อาจจะหางานทำ เพราะคณะจะส่งเด็กไปทำงานในสาขาที่เรียน และอยากเรียนฮวงจุ้ยเพิ่มเติม เพราะถ้ามีความรู้ด้านนี้ก็จะได้ใช้ในงานของเราด้วย”  

ส่วน chapter ใหม่ของคุณมีมี่ คือการเติบโตไปอีกขั้นกับการเรียนปริญญาโทด้าน Digital Marketing ที่ Regent University หลังจากเพิ่งจบปริญญาตรีสาขา Textile Design Specialize in Print จาก University of Arts London: Campus Central Saint Martins ซึ่งใช้เวลาเพียงหนึ่งปีก็จะจบการศึกษาแล้ว  

“รู้ตัวเองว่าชอบด้านนี้ตั้งแต่อยู่ไฮสกูลที่ร่วมฤดี เคยไปเรียนแฟชั่นที่ Bunka Fashion School ตอนอายุสิบห้า จนเกรด 11 ก็ย้ายไปเรียน International School of Creative Arts ที่อังกฤษเลยเพราะเป็นโรงเรียนศิลปะที่โคกับ UAL อยู่แล้ว เรียนจบแล้วเราสัมภาษณ์ตรงได้เลย 

คุณยูนีคและคุณเฌอแตม

“เรียนที่เซนต์มาร์ตินสนุกมาก ชาเลนจ์ทุกอย่างเลย วิธีเรียนคือเขาจะกำหนดหัวข้อใหญ่ๆ มาให้ แล้วเราเลือกเองว่าจะทำเรื่องอะไร งานของมีมี่จะเด่นเรื่องเอาลวดลายไทย อย่างลายผ้าไทย หรือลวดลายในโบสถ์และจิตรกรรมฝาผนังมาผสมกับวัสดุอื่นหรือลวดลายแบบใหม่ เป็นการเอาความเก่ามาผสมกับความใหม่ เพื่อให้คนสมัยนี้เข้าถึงลายแบบไทยได้ง่ายขึ้น ตอนทำธีสิสก็ทำเรื่องนี้ ซึ่งอาจารย์ก็ให้ฟีดแบ็กว่าเป็นอะไรที่เป็นตัวมี่ดี และเป็นลายที่น่าสนใจ” 

คุณมีมี่มีความฝันจะทำแบรนด์ของตัวเอง การได้กลับเมืองไทยช่วงสั้นๆ และได้ฝึกงานกับแบรนด์ Vickteerut ทำให้ตอบตัวเองได้ว่าเธอเดินมาถูกทาง และเลือกที่จะทำธุรกิจของตัวเองเมื่อเรียนจบ 

“การเรียนโทเป็นการต่อยอดจากที่เรียนมา ที่เลือก Digital Marketing เพราะคิดว่าจะทำแบรนด์ออนไลน์ เรียนด้านนี้ก็จะช่วยส่งเสริมสิ่งที่เราอยากทำในอนาคต ระหว่างนี้ก็จะเริ่มดีไซน์ ขวนขวายมากขึ้น และเริ่มแพลนธุรกิจของตัวเองแล้วว่าจะทำยังไง” 

แม้การสนทนากับทั้ง 6 สาวจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็ได้สะท้อนความคิดของสาวสังคมรุ่นใหม่ที่กล้าคิดกล้าแสดงออก และเลือกที่จะเรียนรู้ในสิ่งที่ตัวเองสนใจด้วยมีแพสชั่นเป็นจุดเริ่มต้น อีกไม่นานหลังจากที่พวกเธอจบการศึกษา เราคงได้เห็นบทบาทใหม่ๆ ที่เติบโตขึ้นจากมุมมองที่เป็นสารตั้งต้นในวันนี้ และเป็นสีสันให้วงสังคมไทยที่ทอดพรมเดินรอพวกเธออยู่  

คุณพิพ-สิรีธร พงษารัตน์
Never miss an update

Subscribe to our newsletter to get the latest updates.

No Thanks
You’re all set

Thank you for your subscription.