Versatile Driving with Ferrari Portofino ซูเปอร์คาร์เพื่อสมดุลความสุขของ ‘ภูริ หิรัญพฤกษ์’
ชายหนุ่มผู้ยึดเอาการเดินทางเป็นทั้งอาชีพและแพสชั่นอันน่าหลงใหล ‘คุณภูริ หิรัญพฤกษ์’ ผู้ผลิตรายการท่องเที่ยวสไตล์แอดเวนเจอร์ ‘Viewfinder The Bucket List เที่ยวพิชิตลิสต์ในฝัน’ เผยไลฟ์สไตล์ด้านการขับขี่ที่สอดคล้องกับวิถีผู้บริหารในวันทำงาน สานสัมพันธ์กับครอบครัวในวันหยุด จุดพลังแห่งนักแข่งเมื่อลงสนาม

นักแสดงหนุ่มหล่อเกริ่นถึงที่มาที่ไปของการผันตัวเป็นผู้ผลิตรายการทีวีทางช่อง Amarin TVHD 34 ว่า “เริ่มจากผมมีบัคเก็ตลิสต์อยู่ว่าก่อนตายต้องได้ทำอะไร ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมที่อยากทำ สถานที่ที่อยากไป จึงนำมาต่อยอดเป็นรายการ Viewfinder The Bucket Listผมทำหน้าที่เป็นทั้งโปรดิวเซอร์และพิธีกร ร่วมกับทีมงานอีก3 คน และกล้องอีกประมาณ 10 ตัว ผมออกเดินทางค่อนข้างบ่อย ทั้งในและต่างประเทศเดือนละ 1 -2 ครั้ง”
การเดินทางของคุณภูริเน้นชื่นชมธรรมชาติมากกว่าเดินชิลในเมือง “ผมชอบออกไปเห็นธรรมชาติที่งดงามของแต่ละประเทศ ด้วยมีความเชื่อว่าเราต้องรีบไปดูในวันนี้ เพราะโลกมันเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ใน 5 – 10 ปี ข้างหน้า อะไรๆ มันอาจไม่สวยงามเท่าวันนี้แล้ว” นอกจากนี้ เขามักเติมกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์เข้ามาในการถ่ายทำรายการอยู่เสมอ เนื่องจากเจ้าตัวหลงใหลการขับขี่ยวดยานทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นรถ เรือ หรือมอเตอร์ไซค์
“มันเกิดจากแพสชั่นล้วนๆ เลยครับ ผมพยายามวางแผนให้ทุกการเดินทางมีมอเตอร์สปอร์ตเข้ามาเกี่ยวข้อง เพื่อให้ใกล้ชิดกับบรรยากาศรอบตัวมากที่สุด อย่างทริปดำน้ำ ผมก็จะเช่าเรือเพื่อขับเอง ทริปตามล่าแสงเหนือที่ไอซ์แลนด์ ผมก็ขับรถบ้านลัดเลาะไปตามเกาะ หรืออย่างทริปปากีสถาน ผมเลือกที่จะเทรคกิ้งและเช่ามอเตอร์ไซค์ขับ ต่างจากนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่อาจจะเช่ารถพร้อมคนขับเพื่อชมทัศนียภาพระหว่างทาง”
อุปสรรคที่ไม่คาดหมายดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่มาควบคู่กันกับการเดินทางที่แตกต่างจากนักท่องเที่ยวทั่วไป “อย่างทริปปากีสถาน จริงๆ แล้วผมต้องบินกลับจากเมืองกิลกิต ซึ่งเป็นจุดที่สูงที่สุดของประเทศ และขึ้นชื่อว่าเป็นสนามบินที่เครื่องบินมาบ้างไม่มาบ้าง ผมนั่งรอขึ้นเครื่องอยู่ใน Departure Gate ถือบอร์ดดิ้งพาสอยู่ในมือ รอแล้วรออีกเครื่องบินก็ไม่มาสักที นาทีนั้นผมคิดถึงลูกมาก เพราะจากกันถึง 13 วัน พอเห็นเครื่องบินลำหนึ่งลงจอด ผมดีใจมากๆ ปรากฏเจ้าหน้าที่บอกว่าขอแสดงความเสียใจ นี่คือไฟล์ทแรกของวันนี้ ของผมเป็นไฟล์ทที่ 2 ซึ่งเครื่องบินไม่มาแล้ว ผมต้องนั่งรถไปขึ้นเครื่องที่อิสลามาบาด เมืองหลวงของปากีสถาน ซึ่งใช้เวลาเดินทางถึง 24 ชั่วโมง!

คือหลังจากมีลูกเรากลายเป็นคนติดบ้านมากขึ้น อย่างเมื่อก่อนเราจะเลือกแต่สถานที่เที่ยวแปลกๆ ได้ทำอะไรใหม่ๆ ก่อนไปจะตื่นเต้น รู้สึกมีพลังมาก แต่เดี๋ยวนี้ก่อนออกจากบ้านจะนั่งมองลูกแบบน้ำตาซึม เพราะว่าจะอดกอด อดนอนกับลูกไม่ต่ำกว่า 5 วันต่อทริป หรือเมื่อก่อนผมชอบทำอะไรที่แอดเวนเจอร์ ทั้งกระโดดร่ม โหนสลิง ขี่มอเตอร์ไซด์เร็วๆ พอมีลูก ผมลดความบ้าระห่ำความซนลงไปครึ่งหนึ่ง” หลังแต่งงานกับ ‘คุณแอน-อลิชา’ และมี ‘น้องริชา หิรัญพฤกษ์’ ลูกสาวตัวน้อยมาเติมเต็มชีวิตครอบครัว คุณภูริก็ปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ของตนเองหลายอย่าง รวมถึงการเลือกยนตรกรรมคู่ใจอย่าง Ferrari ซูเปอร์คาร์สัญชาติอิตาลี ที่เป็นหนึ่งในบัคเก็ตลิสต์ของคุณภูริมาตั้งแต่ศึกษาอยู่ชั้นมัธยม
“ผมว่าซูเปอร์คาร์เป็นความใฝ่ฝันของเด็กผู้ชายแทบทุกคน ผมชอบความเร็ว ชอบสำรวจ และหลงใหลในรูปลักษณ์ของซูเปอร์คาร์มากๆ พอเข้าสู่วัยทำงานและเริ่มประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจ ผมจึงมองหารถยนต์ที่ครั้งหนึ่งเคยใฝ่ฝันไว้ว่าอยากเป็นเจ้าของมากที่สุด นั่นก็คือ Ferrari F355 Berlinetta ซูเปอร์คาร์รุ่นคลาสสิกที่กลายมาเป็น Ferrari คันแรกของผม”
ในเวลาต่อมา เมื่อโจทย์ความต้องการในชีวิตเปลี่ยนไป คุณภูริจึงหันมาใช้ Ferrari F430 สปอร์ตซูเปอร์คาร์เครื่องวางกลางด้วยสมรรถนะที่ตอบสนองวิถีนักขับสายโฉบเฉี่ยว ทว่าล่าสุดคุณภูริต้องยอมให้กับ Ferrari Portofino ซูเปอร์คาร์เครื่องวางหน้าที่ตอบโจทย์จิตวิญญาณนักแข่ง ทว่าสามารถให้ความสะดวกสบายกับลูกและภรรยาได้อย่างดีเยี่ยม

“พอมีครอบครัว Portofino ดูจะตอบโจทย์ที่สุดครับ เพราะไม่เพียงใช้ขับขี่ในชีวิตประจำวันที่อยู่ในเมือง แต่ Portofino ยังมีฟังก์ชันต่างๆ ที่รองรับความต้องการได้ครบทุกด้าน เช่น ถ้าลูกสาวนั่งมาในรถด้วย ผมก็ปรับเป็นโหมด Comfort เพื่อให้เขานั่งสบาย ผมขับได้นุ่มนวล เหมาะกับการเดินทางที่มีเด็กเล็ก หรือในวันว่างที่พาครอบครัวออกทริปต่างจังหวัด เราก็สามารถตั้งค่าให้ระบบช่วงล่างมีการยึดเกาะที่เหมาะกับสภาพถนนได้ ช่วงไหนอากาศดี ผมก็เปิดประทุนให้ลูกและภรรยาได้สดชื่นกับธรรมชาติใกล้ตัว หรือหากวันไหนต้องการความสนุกแบบลูกผู้ชาย ได้โอกาสนำรถลงสนาม เราก็ปรับเป็นโหมด Race เพื่อให้รถได้สมรรถนะสูงสุด เสมือนลงแข่ง F1 จริงๆ” คุณภูริเผยถึง Performance ของ Portofino ที่ใช้เครื่องยนต์ V8 ซึ่งทำความเร็วสูงสุดได้มากกว่า350 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 3.5 วินาที
“ที่สำคัญ คุณแอนชอบมากครับ เพราะมีโหมดออโต้ที่ขับง่าย แค่กดปุ่มก็พร้อมออกตัว หรือถ้าอยากขับสนุกขึ้น คุณแอนก็ใช้ Paddle Shift ในการเปลี่ยนเกียร์ต่างๆ ได้ จากเดิมเวลาซื้อซูเปอร์คาร์สักคันมันเหมือนเป็นการสนองแพสชั่นของผมคนเดียว แต่กับ Portofino คันนี้ ถือว่าเป็นการตอบโจทย์ความสุขของทุกคนในครอบครัว ทั้งตัวผม ภรรยา และลูก”

แน่นอนว่าสำหรับผู้ที่หลงใหลในการขับขี่ หากมีเพื่อนร่วมทางที่มีไลฟ์สไตล์ตรงกัน ย่อมแบ่งปันความสุขได้มากขึ้นทวีคูณ คุณภูริจึงมักออกทริปกับกลุ่ม Ferrari Club รวมถึงคอมมิวนิตี้ใหม่ที่เกิดจากการจัดกิจกรรมท่องเที่ยวและทดลองขับของ Cavallino Motors ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ Ferrari ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ
“ผมเป็นคนที่รักรถมาก และชอบศึกษาเครื่องยนต์กลไกต่างๆ เพราะรถแต่ละคันกว่าจะได้มาต้องแลกกับการทำงานเก็บเงินมาตลอดชีวิต ดังนั้น ความน่าเชื่อถือของตัวแทนจำหน่ายและการให้บริการหลังการขายจึงเป็นสิ่งสำคัญ สำหรับผม Cavallino Motors ถือเป็น Authorized Dealer ที่ให้บริการดีมาก ไม่ว่าเราจะออกรถกับ Cavallino Motorsหรือไม่ หรือเพียงแค่นำรถมารับบริการ ทีมช่างของ Cavallino Motors ก็สามารถตอบทุกข้อสงสัยได้ทุกเรื่อง เขารู้ปัญหาและแก้ปัญหาให้ผมได้อย่างตรงจุด ไม่ว่าจะเป็น Ferrari รุ่นใหม่ หรือรุ่นคลาสสิคอายุ 20 ปี อย่าง F355 คันเก่าของผม

“นอกจากนี้ ผมมองว่าการซื้อ Ferrari เป็นการลงทุนที่ดีทางหนึ่ง เพราะเมื่อขายต่อ เรายังสามารถทำกำไรเพื่อออกรถยนต์คันใหม่ได้” คุณพ่อมือใหม่เผยรอยยิ้มก่อนเล่าต่อ “ซึ่งรถคันใหม่สำหรับผมก็หนีไม่พ้น Ferrari อีกนั่นแหละครับ เพราะไม่ใช่แค่ตอบสนองต่อทุกไลฟ์สไตล์ด้วยสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมและการออกแบบที่สวยงาม แต่สิ่งสำคัญที่ทำให้ผมรู้สึกประทับใจในแบรนด์นี้ก็คือ Ferrari ทำให้ผมมี Driving Passion ที่ทรงพลังอยู่เสมอ” คุณภูริทิ้งท้ายประสบการณ์สุดพิเศษที่มีต่อ Ferrari ด้วยแววตาดุจอาชาลำพอง