Home > Celebrity > Weddings > หวานดั่งกลิ่นมะลิเรื่องราวของ คุณพิชญ์ พิชญเทพ ยุกตะเสวี และ คุณ มิลลี่ ธารีรัตน์ ภูริเดช กับ ความรักดั่งพรหมลิขิต 

หอมละมุน ดีต่อใจ คงเป็นประโยคที่อธิบายเรื่องราวความสัมพันธ์ ความรักที่เหมือนโชคชะตากลั่นแกล้ง ของคุณ พิชญ์ พิชญเทพ ยุกตะเสวี ทายาทบริษัทชื่อดัง ที่เป็นที่รู้จักของเด็กไทย อย่าง นมตรามะลิ และ คุณมิลลี่ ธารีรัตน์ ภูริเดช ที่ต่างก็ได้ยินเรื่องราวของกันและกันมานาน แต่ยังไม่มีโอกาสได้รู้จักกันจริงๆสักที เรื่องราวความรักของทั้งสองจะเป็นอย่างไร ใครเป็นคนเดินหน้าในความสัมพันธ์ก่อน วันนี้ HELLO! จะพาทุกท่านไปคลายข้อสงสัยกัน

คุณพิชญ์ พิชญเทพ ยุกตะเสวี และ คุณมิลลี่ ธารีรัตน์ ภูริเดช

เรื่องราวความรัก ตอนเริ่มต้น 

ครั้งแรกที่เจอกัน คุณ มิลลี่ เล่าแกลมหัวเราะว่า 

“ตอนนั้นเจอกันเพราะว่า ตัวมิลลี่พึงกลับมาจากอังกฤษ แล้วต้องการ คำแนะนำในเรื่องการงานจากผู้ใหญ่ ก็เลยได้มีโอกาสไปเจอกับครอบครัวของพิชญ์ เพราะว่าครอบครัวเรารู้จักกัน ทางคุณอาของมิลลี่เป็นเพื่อนกับคุณแม่ของพิชญ์ เราก็เลยได้เจอกันที่ร้านอาหารอิตาเลียน”

ด้านคุณ พิชญ์ ซึ่งออกตัวเลยว่าเป็นคนเดินหน้าก่อนในความสัมพันธ์ในครั้งนี้ได้เล่าว่า

“เราก็เจอกันที่ร้าน appia ตามที่มิลลี่เล่าเลยครับ แล้วหลังจากนั้นพิชญ์ก็ไปบวช เราก็ไม่ได้คุยกันเลยหลังจากนั้น มาอีกทีก็เป็นช่วงที่พิชญ์สึกออกมาแล้ว แล้วก็ได้ทำงาน มีโอกาสได้ร่วมงานกับมิลลี่ แล้วก็เห็นว่าน้องน่ารักดี นิสัยดี ให้ความสบายใจกับเราเวลาอยู่ด้วย แล้วก็ครอบครัวก็รู้จักกัน เข้ากันได้ ก็เลยตัดสินใจเลยว่าจะเดินหน้าจีบอีกฝ่าย”

เรียกได้ว่าคุณ พิชญ์ พิชญเทพ คนนี้ เป็นคนที่ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดในการเข้าหาคนคนหนึ่ง แต่ในการตัดสินใจในครั้งนั้นก็ไม่ทำให้ทั้งคู่ผิดหวัง เพราะทั้งคู่ยังรักกันจนถึงทุกวันนี้ ด้านคุณมิลลี่ก็ได้แอบเล่ากับทาง HELLO! ว่ามองเห็นอะไรในตัวคุณพิชญ์ และเลือกที่จะรักผู้ชายคนนี้  “มิลลี่คิดว่ามิลลี่น่าจะรู้จักพิชญ์ก่อน เรามีเพื่อนร่วมกันค่อนข้างเยอะ แล้วมิลลี่ก็ได้ยินเรื่องของพิชญ์มาสักพักแล้วว่า คนนี้นิสัยดีมาก แบบ เป็นผู้ชายที่ เพอร์เฟคมาก มิลลี่ชอบในตรงที่เขาเป็นคนดี คอยดูแลคนอื่นตลอดเวลา คอยให้คำปรึกษา ปัญหาชีวิตต่างๆ คอย support คนรอบข้าง ก็เลยคิดว่าผู้ชายแบบนี้ดูอบอุ่นดี”

มุมมองความรักของทั้งคู่

หากพูดถึงมุมมองของความรัก แต่ละคนก็จะมองความรักต่างกันออกไป หลายคนอาจมองว่า ความรักคือการครอบครอง บางคนอาจมองว่าความรักคือการให้ แต่มุมมองความรักของทั้งคุณพิชญ์และคุณมิลลี่ก็แต่งต่างออกไปเช่นกัน

“มุมมองของพิชญ์ไม่ได้มีอะไรที่ complicatedเพราะมันคือความรักของคนสองคน สำหรับพิชญ์ ก็ไม่ใช่แค่ passion อย่างเดียว แต่สำหรับพิชญ์ พิชญ์ชอบให้เวลากับความรักให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ ไปตามเวลา  ด้วยความสบายใจ เคยบอกน้องครับว่า ความรักมันเป็นเรื่องของคนสองคน แต่จริงๆแล้วมันก็ไม่เชิง มันมีปัจจัยอื่นร่วมอยู่ด้วย ไม่ว่าจะเป็น ครอบครัว เพื่อน พี่น้อง แต่สุดท้ายแล้ว พิชญ์ก็ ให้ค่ากับความสบายใจเวลาอยู่ด้วยกัน

สำหรับคุณมิลลี่ ที่เชื่อว่าความรักเป็นเรื่องของพรหมลิขิต ที่กามเทพมาเล่นตลกมาแผลงศร ให้ทั้งสองมาเจอกัน “จริงๆแล้วมิลลี่ก็แอบเชื่อเรื่องแบบ destiny นะคะ เพราะว่าแบบชีวิตของเราเหมือนจะเจอกันมาหลายครั้งมากๆ คุณตาของมิลลี่ก็เป็นเพื่อนสนิทของคุณปู่ของพิชญ์ พ่อแม่ก็แบบ โตมาแบบเล่นอยู่ด้วยกัน ก็แอบเป็นเหมือนพรหมลิขิตนิดนึงมั้งคะ แต่จริงๆ แล้วมุมมองความรักก็อาจจะเป็นเรื่องของการได้เป็นตัวของตัวเอง คือเวลาอยู่กับพิชญ์แล้วมิลลี่เป็นตัวของตัวเองมากที่สุด เขาเป็นคนที่ accepting มาก ไม่ว่าจะเป็นแฟนหรือใครก็ตาม จำได้ว่าตอนเดทแรกๆ พิชญ์ถามว่าทำไมแต่งหน้าตลอดเวลา มิลลี่ก็บอกว่าเออแบบผิวเราไม่ดี เขาก็บอกว่าไม่เป็นไร ให้เป็นตัวของตัวเอง”

เซอร์ไพรซ์ที่เซอร์ไพรซ์กว่า เมื่อแหวนแต่งงานมาช้า

เมื่อถึงเวลาอันเหมาะสม คุณพิชญ์ก็ตัดสินใจเดินหน้าต่อ ขอคุณมิลลี่แต่งงาน โดยวางแผนไว้อย่างดิบดีด้วยการขอแต่งงานในวันเกิดเพื่อนของทั้งคู่ โดยการทำทีว่าเป็นงานเลี้ยงวันเกิดเฉยๆ แต่แผนก็ไม่เป็นไปดั่งที่คุณพิชญ์วาดฝัน การขอแต่งงานบน sky bar สุดหรูบนยอดตึงมหานครตอนพระอาทิตย์กำลังตกลงที่พื้น หรือ Golden hour ได้กลายเป็นการขอแต่งงานใต้แสงจันทร์แทน เหตุจากที่คุณมิลลี่เองมาเลยเวลานัด มิหนำซ้ำด้วยความตื่นเต้น คุณพิชญ์เองก็ดันลืมแหวนแต่งงานสะอีก

“พิชญ์ได้เตี๊ยมกับเพื่อนว่า ขอใช้วันเกิดเป็นสักขีพยานในขอแต่งงาน พิชญ์ชวนเพื่อนทุกคนมาหมดเลยรวมถึงมิลลี่ด้วย พิชญ์ก็วางแผนไว้หมดเลย ว่าอยากขอแต่งงานตอน Golden Hour บน Sky Bar สรุปแล้วก็มาสายกันหมดเลย ไม่ว่าจะเป็นตัวเพื่อนตัวมิลลี่เอง รวมถึงสิ่งที่สำคัญที่สุด แหวนครับ เพราะพิชญ์ก็ลืมไว้เราเองก็ชวนมิลลี ไปดูวิวตรงที่เป็นกระจกใสๆ ตัวเองเป็นคนกลัวความสูง แต่ก็รวบรวมความกล้าครับ แล้วก็พาน้องไปตรงนั้น พูดความรู้สึกทั้งหมดของผม แล้วก็คุกเข่าขอแต่งงานครับ”

ด้านคุณมิลลี่เองซึ่งไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำลังจะโดนขอแต่งงานบนตึกสูงระฟ้าใจกลางกรุงเทพ ได้แต่คอยจะแกล้งคุณพิชญ์เรื่องอาการกลัวความสูงของคุณพิชญ์ กว่าคุณมิลลี่จะรู้ตัวว่าโดนขอแต่งงาน คุณพิชญ์ก็ลงไปนั่งคุกเข่าพร้อมแหวงวงโตแล้ว ถึงแม้จะไม่เป็นไปตามแผน แต่ก็ทำเอาชาว HELLO! ยิ้มแก้มปริกันไปตามๆกันเลยทีเดียว

งานหมั้นแบบไทย ที่ทั้งคู่ประทับใจ

นับว่าเป็นอีกหนึ่งคู่รักนักเรียนนอกที่กำลังจะเข้าสู่ประตูวิวาห์ เพราะทั้งคู่นั้นได้ไปใช้ชีวิตและเรียน ณ ประเทศอังกฤษเป็นเวลากว่า 10 ปี ทำให้ไม่ค่อยคุ้นชินกับประเพณีไทยซึ่งรวมไปถึง การหมั้นแบบไทยด้วย ตั้งแต่การไปยืนบนหัวเรือที่ล่องบนแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อทำพิธีแห่ขันหมากแบบไทย จนไปถึงภารกิจฝ่าประตูเงิน-ประตูทอง เพื่อที่จะไปหาเจ้าสาว หลายๆ คนอาจจะได้ชมภาพความประทับใจพิธีงานหมั้นแบบไทยกันไปแล้ว แต่วันนี้ HELLO! จะพามาเผยความรู้สึกของทั้งคู่ ซึ่งคุณพิชญ์เล่าว่า

“จริงๆแล้วเราก็เรียนต่างประเทศมานานมาก โชคดีที่ครอบครัวเราทั้งสองก็ให้ความสำคัญกับประเพณีไทย เอาจริงๆเราก็ไม่ค่อยคุ้นกับวัฒนธรรมไทยแบบตามระเบียบแบบแผนเท่าไหร่นัก ตื่นเต้นมากๆครับ แล้วก็พิธีทุกอย่างก็ออกมาโอเค ไม่ได้ยากมากอย่างที่คิดไว้ ก็รู้สึกตื่นตันใจที่ได้แต่งงานกับคนที่เรารัก และมันไม่ใช่แค่เราสองคนแต่ยังมีคนที่เรารักคนอื่นๆด้วย เช่น ครอบครัว หรือ เพื่อน ที่คอยอยู่ข้างๆ  นับว่าเป็นวันที่ดีมากๆวันนึงเลยครับ” 

พิธีงานหมั้นแบบไทย

ด้านคุณมิลลี่เล่าความรู้สึกที่ตื้นตันใจจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหวว่า

“จำได้ว่าตอนแต่งหน้า ช่างแต่งหน้าก็แบบเตือนว่า อย่าร้องไห้นะ เราก็คิดในใจว่าเราไม่ร้องหรอก เพราะปกติไม่ได้เป็นคนที่ emotional กับอะไรง่ายขนาดนั้น แต่พอไปสวมแหวนจิงๆ มีผู้ใหญ่เข้ามาร่วมอวยพร ก็รู้สึกตื้นตัน จนเกือบกลั้นน้ำตาไหวไม่ไหวค่ะ”

งานแต่งงานของทั้งคู่ก็กำลังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ด้านคุณพิชญ์เอ่ยปากเองเลยว่าตื่นเต้นเป็นอย่างมากเพราะว่าจะได้เจอเพื่อนๆจากประเทศอังกฤษที่ไม่ได้เจอกันนานกว่า 3 ปีแล้ว ส่วน Theme งานแต่งงานนั้นต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าสาว คุณพิชญ์กล่าว

Wedding in The Garden งานแต่งในฝันของเจ้าสาว

งานแต่งงานคงเป็นอีกหนึ่งความฝันของใครหลายๆคน เฉกเช่นเดียวกับคุณมิลลี่ ที่อยากให้งานแต่งของเธอถูกจัดขึ้นในสวน ด้วยบรรยากาศที่อบอุ่นหัวใจ

“จริงๆแล้วมิลลี่อยากได้งานแต่งงานในสวน แนว Wedding in the garden ก็กำลังหาสถานที่อยู่ค่ะ คิดว่าแบบมันจะน่ารักมากถ้าเราได้จัดในสวนที่บ้าน แต่ว่าพอดูจำนวนแขกประกอบกับการขนส่งต่างๆ ก็คิดว่าไม่น่าเป็นไปได้เท่าไหร่ กำลังเร่งหาเลยค่ะ อยากได้แนว สวนธรรมชาติ มีวงออเคสตร้า มาบรรเลง แล้วก็มีเทียนประดับประดา ประมาณนั้นมั้งคะ”

แค่ลองจินตนาการภาพงานแต่งงานในสวนพร้อมกับเสียงเพลงบรรเลงจากวงออเคสตร้าที่ คุณมิลลี่ ได้วาดภาพไว้ในหัวนั้น ก็อดคิดถึงความสวยงามที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นของงานแต่งงานของคู่นี้ไม่ได้ บอกเลยว่าชาว HELLO!  พลาดไม่ได้กับการแต่งงานของคู่นี้ 

ส่วนเรื่องทายาทนั้น ทั้งคู่บอกกับทาง  HELLO! ว่าจะต้องมีทายาทแน่นอน เพราะคุณพิชญ์อยากมีทายาทมาสืบทอดธุรกิจของครอบครัวถึง 4 คน โดยอยากให้เป็นผู้ชาย 2 คน ผู้หญิง 2 คน ด้านคุณมิลลี่เสริมว่า ขอมีสัก 2 คนก่อนเพื่อดูว่าเลี้ยงไหวไหม เชื่อว่าทุกท่านคงอยากจะเห็นทายาทนมตรามะลิตัวน้อยๆ กันแล้ว จะน่ารักน่าเอ็นดูขนาดไหนต้องรอติดตาม 

Never miss an update

Subscribe to our newsletter to get the latest updates.

No Thanks
You’re all set

Thank you for your subscription.