ไลฟ์สไตล์สุดเต็มแม็กของ ‘แม็ก-ธนันท์วรุตม์ ลิ้มทรงพรต’ กับการใช้ชีวิตในคอนเซ็ปต์ ‘Work Hard & Play Hard’
จากเด็กวัยรุ่นจอมเฮี้ยวพร้อมกับตำแหน่งหัวโจกประจำโรงเรียน เด็กเที่ยวย่านสยามสแควร์ ผับบาร์ชื่อดังย่านทองหล่อ-เอกมัยไปเที่ยวจนพรุน ไม่มีที่ไหนที่เขาไม่เคยไปเหยียบ แต่แล้ววันหนึ่ง…เมื่อชีวิตต้องพบกับจุดเปลี่ยน ทำให้ทายาท ‘ศรีสมบูรณ์กรุ๊ป’ ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ เปลี่ยนโหมดตัวเองสู่การเป็นนักธุรกิจพันล้าน พร้อมคอนเซปต์ “อยากได้ต้องได้ ทำอะไรต้องทำให้สุด ใส่ให้เต็มที่ ไม่มีตรงกลาง” อะไรทำให้เขาเปลี่ยนตัวเองได้มากขนาดนี้ นี่จึงเป็นที่มาของเรื่องราวและบทสัมภาษณ์ HELLO! ฉบับเต็มแม็ก

“ผมเป็นลูกชายคนเล็กของบ้าน ผมอายุห่างจากพี่สาวเก้าปี ห่างจากพี่ชายเจ็ดปี ช่วงยังเด็กถือว่าโชคดี ที่คุณพ่อคุณแม่สร้างกิจการมั่นคงแล้ว เราไม่ต้องลำบากมาก ถึงมีพี่เลี้ยงช่วยดู แต่แม่บอกพี่เลี้ยงเสมอว่า ให้เราฝึกช่วยเหลือตัวเองในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ให้ได้มากที่สุด และท่านยังสอนด้วยการทำให้ดูเป็นตัวอย่างด้วยว่า ถ้าผมอยากซื้อของสักชิ้น ต้องรู้จักเก็บเงินเอง เพราะคุณพ่อคุณแม่ทำงานสร้างเนื้อสร้างตัวเองมา ท่านสอนเสมอว่า ‘ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน’ ถ้าเราซื่อสัตย์ ขยันทำงาน เราไม่มีทางอดตาย ทั้งสองท่านจึงเป็นต้นแบบของผมมาตั้งแต่เด็ก”
เรียกว่าตั้งแต่เด็กจนโตก็เห็นภาพคุณพ่อคุณแม่ทำงานมาตลอด
“ใช่ครับ คุณแม่ผมเริ่มทำกิจการขายมอเตอร์ไซค์และธุรกิจเช่าซื้อ (ลิสซิ่ง) ในชื่อ ‘ศรีสมบูรณ์’ ที่จังหวัดลพบุรี ตั้งแต่ตอนพี่สาวเกิดใหม่ๆ พอผมเกิด กิจการที่บ้านเริ่มอยู่ตัวแล้ว ภาพที่จำได้คือคุณพ่อคุณแม่ออกจากบ้านไปทำงานตลอด จะได้เจอกันเฉพาะเช้าและเย็น ตอนกลางวันผมอยู่กับพี่เลี้ยง มีพี่สาวพี่ชายช่วยดูแลด้วย ครอบครัวเราจึงสนิทกันมาก เพราะทุกคนคอยดูแลซึ่งกันและกัน มีอะไรก็คุยปรึกษาหารือกันตลอด

“หลังจากจบปริญญาตรีที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแล้ว ผมตั้งใจไปเรียนภาษาจีนที่ประเทศจีน แต่กลายเป็นว่าอยู่ได้เดือนครึ่ง จู่ๆ มีอาการคล้ายตับอักเสบ มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน เจาะเลือดห้าสัปดาห์ต่อเนื่อง ไม่พบสาเหตุ จนคุณหมอฟันธงว่าเป็นไวรัสตับอักเสบเอ ที่เกิดจากอาหารแล้วหายไปเอง จึงเดินทางกลับไทย โดยที่ยังมีอาการเหมือนเดิม คือ กินอาหารแล้วเกิดอาการคลื่นไส้อาเจียน ไปพบคุณหมอที่โรงพยาบาลถึงรู้ว่าค่าตับสูงขึ้นมาก ถึงขนาดที่คุณหมอบอกว่า ถ้ากลับมาไม่ทันอาจเสียชีวิตได้ ตั้งแต่นั้นมา ผมต้องหยุดทุกอย่าง ได้แต่นั่งๆ นอนๆ อยู่บ้านเฉยๆ งดดื่มแอลกอฮอล์ หรือกินวิตามินใดๆ เพื่อรักษาอาการตับอักเสบนานหนึ่งปี
ปัจจุบันเรียนว่าคุณแม๊กเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างเต็มตัว และดูแลกิจการอยู่หลายด้ายเลยทีเดียว “ธุรกิจโรงงานน้ำมันปาล์มในชื่อ ‘ทองมงคลอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม’ และธุรกิจโรงไฟฟ้า เป็นสิ่งที่ผมคิดตั้งแต่แรกว่า อยากทำธุรกิจตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เพราะเรามีพื้นที่สวนปาล์มมากพอในระดับหนึ่ง จึงเริ่มทำโรงงานน้ำมันปาล์มก่อนต่อยอดเป็นโรงไฟฟ้า ถือว่าตอบโจทย์ที่ต้องการ พอทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โครงการบ้านและอาคารพาณิชย์เพื่อขาย และเห็นว่าเป็นธุรกิจกลางน้ำ เราจึงทำธุรกิจขายวัสดุก่อสร้างด้วย เพื่อลดต้นทุนการก่อสร้าง ติดต่อทีมงานเก่าของคุณแม่ ซึ่งเคยทำงานวงการธุรกิจก่อสร้าง มาทำงานด้วยกัน โดยเปิดบริษัทขายวัสดุก่อสร้าง DEPRO ที่ลพบุรี ถึงไม่มีสาขามากมาย แต่แค่ช่วยลดต้นทุนการก่อสร้างอาคารเพื่อขยายธุรกิจเช่าซื้อของเรา รวมทั้งเราสร้างอพาร์ตเมนต์ให้เช่า ซึ่งต้องสร้างและรีโนเวตตลอด แค่นี้ก็คุ้มแล้ว”
เปิดบริษัท Quantum Wealth Management เดินหน้าขยายสู่ธุรกิจการเงิน การลงทุน
“ปัจจุบันผมขยายสู่ธุรกิจการเงินการลงทุน โดยร่วมกับที่ปรึกษาการลงทุนชื่อดัง ‘คุณเป๊ก-ปุณยวีร์ จันทรขจร’ เปิดบริษัท Quantum Wealth Management ให้คำปรึกษาและวางแผนทางการเงินและการลงทุน โดยจุดเด่นของเราคือ ลูกค้าไม่เสียค่าธรรมเนียมแรกเข้าในการใช้บริการ แต่เราจะเรียกเก็บจากลูกค้าต่อเมื่อเขาได้กำไรแล้วเท่านั้น เป็นลักษณะการแชริ่งกัน ทำให้ลูกค้าได้กำไรมากขึ้น ได้ประโยชน์เต็มที่ ซึ่งปัจจุบันมีตระกูลมหาเศรษฐีมากกว่ายี่สิบรายที่มาใช้บริการเรา แต่ละรายลงทุนเกินกว่าพันล้านบาท เพราะเราทำกำไรให้เขาได้จริง แม้ในภาวะขาลงจากสถานการณ์โลกแบบนี้ ลูกค้าก็ยังแฮปปี้
“นอกจากนี้ ผมเปิดบริษัท TMP ลงทุนใน EV Station (สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า) โดยมีหุ้นส่วนใหญ่ระดับท็อปทรีของโลก ที่มีสถานีชาร์จไฟฟ้านับหมื่นมาร่วมงานด้วย อีกทั้งทำธุรกิจออมทอง โดยจับมือกับร้านทอง มีหุ้นส่วนเป็นเจ้าของแพลตฟอร์มที่เป็นเกตเวย์ใหญ่ของประเทศมาซัพพอร์ต รวมทั้งเปิดธุรกิจเกี่ยวกับการพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อซัพพอร์ตทุกธุรกิจที่ลงทุน รวมถึงรับจ้างออกแบบแพลตฟอร์มต่างๆ เพื่อซัพพอร์ตกิจการต่างๆ ของบุคคลภายนอกด้วย”
ผมเปรียบตัวเองเป็นเหมือนโซ่
การจะต่อโซ่ให้ยาวได้ ต้องให้แต่ละธุรกิจประกอบกัน
แล้วทำให้โซ่เส้นนี้แข็งแรง
ใช้ชีวิตแบบเต็มแม็ก นั่งแท่นท็อปสเปนเดอร์ทุกซูเปอร์แบรนด์
“ผมชอบแต่งตัวอยู่แล้ว แต่ส่วนใหญ่ชอบแบรนด์ Minimal อย่าง Christian Dior, Hermès,
Louis Vuitton, Bottega Veneta ซื้อตามความชอบเลย แต่ถ้าชิ้นที่ชอบเป็นแรร์ไอเท็ม หรือ
ลิมิเต็ดจะรู้สึกชอบมากเป็นพิเศษ เช่น กระเป๋าสตางค์แอร์เมสบางสี หรือสีทูโทนที่ลิมิเต็ดหน่อย ถึงจะราคาเลขหกหลัก แต่ถ้าชอบผมก็ซื้อ ถ้าชอบแล้วต้องหามาให้ได้ ไม่ว่าจะอยู่ประเทศไหนก็จะไปตามหา อย่างเสื้อแจ็กเก็ตของหลุยส์ ทำจากขนมิ้งก์ย้อมสีดำที่ผมใส่ ช็อปในไทยไม่นำเข้า ผมก็ไปหาคนหิ้วจากต่างประเทศเข้ามาจนได้ หรือแจ็กเก็ตหนังจระเข้แอร์เมส ในไทยไม่ได้นำเข้า ผมก็ต้องหาเข้ามาจากต่างประเทศเหมือนกัน อย่างนาฬิกาก็เหมือนกัน ถ้าเจอเรือนและรุ่นที่ถูกใจ ผมอยากได้ ก็ต้องให้เพื่อนช่วยหาให้จนได้”

“ผมชอบนาฬิกามาตั้งแต่เด็ก ตอนเรียนมัธยมมีนาฬิกา Tag Heuer ตอนหลังเริ่มมีนาฬิกา Chanel Ceramics รุ่น J 12 จนเรียนจบคุณแม่ซื้อนาฬิกาปาเต็กให้เป็นเรือนแรก หลังจากนั้นจึงเริ่มสะสมมาตลอด จนตอนนี้มีทั้งหมดสามตู้ เพื่อเก็บแต่ละแบรนด์โปรด มีตู้หนึ่งใบสำหรับเก็บนาฬิกา Patek Philippe อย่างเดียว ตู้อีกใบเก็บนาฬิกา Audemars Piguet, Richard Mille, Rolex ส่วนตู้ใบสุดท้ายเก็บนาฬิกา Cartier, Ulysse Nardin”
คอนเซปต์การใช้ชีวิตแบบ ‘Work Hard & Play Hard’
“การทำทุกอย่างให้เต็มที่ เมื่อทำแล้วจะได้ไม่มาเสียใจภายหลัง ผมเป็นคนสุด ไม่มีตรงกลาง เพราะฉะนั้นเวลาทำอะไรจะใส่เต็มที่ทุกอย่าง หรือจะเรียก ‘Work Hard & Play Hard’ ก็ได้ อย่างตอนที่มีแพสชั่นกับการทำงานมากๆ ผมสามารถทำงานได้ตลอดเจ็ดวันโดยไม่หยุดเลย นานเกือบปี แต่ถ้าช่วงไหนที่อยากพัก ก็จะหายไปพักให้เต็มที่เลย”

‘แม็ก-ธนันท์วรุตม์ ลิ้มทรงพรต’ ในอีก 20 ปีข้างหน้า
“ที่ผ่านมา ผมค่อนข้างไม่อยู่นิ่ง มีไอเดียทำธุรกิจได้เรื่อยๆ จนคุณแม่กับพี่ชายบอกให้พักบ้างเถอะ แต่ผมสนุกที่จะคิดและทำ ขนาดทุกวันนี้ คุณแม่ผมอายุมากแล้ว แต่ท่านยังทำโน่นนี่อยู่เลย เพราะฉะนั้นถ้าวันหนึ่งที่เรารู้สึกพอ ผมก็อยากลดการทำงานให้น้อยลง เพื่อใช้ชีวิตสงบๆ มีความสุขกับครอบครัว ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญ ที่ผ่านมาไม่ว่าเราจะเจอปัญหาอะไรในชีวิต เรากลับมาได้เพราะพลังของครอบครัวทุกครั้ง ทำให้เรามีความสุขทั้งเป็นผู้ให้และผู้รับจากทุกคนในครอบครัว”
ติดตามบทสัมภาษณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ชีวิตสุดเต็มแม็กของ ‘แม็ก-ธนันท์วรุตม์ ลิ้มทรงพรต’
ได้ในนิตยสาร HELLO! ‘ฉบับเดือนพฤษภาคม 2565′ วางแผงแล้ววันนี้
? ติดต่อสั่งซื้อโทร 0 2676 8999 ต่อ 217 หรือ 084 079 5678
? สั่งซื้อออนไลน์ที่
shop.burdathailand.com หรือ Line ID: @hellomagazineth