เปิดอาณาจักรครอบครัว ‘มีนชัยนันท์’ กับ 4 หนุ่มหล่อตระกูลดังหมื่นล้าน
สิ่งที่คุณพ่อสอนพวกเราเป็นประจำคือ ต้องรู้จักคุณค่าของเงิน และที่สำคัญกว่าคือต้องรู้จักการแบ่งปัน เอื้อเฟื้อ และ เผื่อแผ่ ให้ผู้อื่น
คุณหมอเบนซ์ – นพ. ณัฐภัทร มีนชัยนันท์
ชื่อของครอบครัว ‘มีนชัยนันท์’ อยู่ในแวดวงสังคมและการเมืองมานานหลายสิบปี แต่เราเชื่อว่าหลายคนอยากรู้จักเบื้องลึกของทายาทรุ่นใหม่ให้มากขึ้น HELLO! จึงได้โอกาสดีที่จะเปิดอาณาจักรหรูย่านรามอินทรา รวมถึงเข้าไปนั่งคุยทำความรู้จักถึงตัวตนของ 4 หนุ่มหล่อผู้เป็นความภูมิใจของคุณวิสูตร์และคุณโสพิศ มีนชัยนันท์
เรานัดพบกับ 4 หนุ่มในเช้าที่อากาศชุ่มฉ่ำเย็นสบาย ประจวบกับพื้นที่รอบบ้านรายล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่เขียวชอุ่ม ทำให้เรามีเวลาเดินลัดเลาะไปตามคฤหาสน์ และสวนบนพื้นที่กว่า 30 ไร่ พร้อมทั้งได้นั่งพูดคุยเรื่องราวอดีตถึงปัจจุบัน ไลฟ์สไตล์ ทัศนคติ และรสนิยมของพวกเขาทั้งสี่คน คุณหมอเบนซ์-นพ. ณัฐภัทร, คุณแบงค์ ศุภณัฐ , คุณบอส และ คุณเบส กษิดิ์เดช มีนชัยนันท์
ฉายา ‘ตระกูลดังแห่งกรุงเทพตะวันออก’
ตระกูลมีนชัยนันท์ได้รับการขนานนามจากแวดวงคหบดีและนักสะสมที่ดินว่าเป็น‘ตระกูลดังแห่งกรุงเทพตะวันออก’ เพราะมีฐานความนิยม และความเคารพนับถือจากผู้คนในพื้นที่ รวมถึงที่ดินจำนวนมาก สะสมในมืออยู่หลายพันไร่ ชนิดที่ว่ากันว่ามีมูลค่าหลายหมื่นล้านเลยทีเดียว อีกทั้งยังชอบช่วยเหลือสังคมในรูปแบบต่างๆ มาตั้งแต่รุ่นก่อน รวมถึงยังเป็นเจ้าของธุรกิจขนาดใหญ่หลากหลายแวดวงอีกด้วย
คุณหมอคุณหมอเบนซ์ พี่ชายคนโตเป็นที่รู้จักในฐานะเจ้าของ Alpha Medical Clinic ศูนย์ความงามและเลเซอร์ชื่อดัง และคุณแบงค์ น้องชายคนที่สอง เล่าให้เราฟังว่าคุณปู่แยกตัวจากธุรกิจโรงสีขนาดใหญ่ของตระกูล และหันมาจับธุรกิจรับเหมาก่อสร้างถนนและโครงสร้างพื้นฐานกับทางกรุงเทพมหานคร และในรุ่นของคุณพ่อวิสูตร์ได้นำพาบริษัทสู่การทำงานทั่วประเทศ และต่างประเทศ
“นอกจากนี้คนในตระกูลก็มีการทำการกุศลและการเมืองด้วย ทั้งบริจาคที่ดินและปัจจัยต่างๆ รวมถึงก่อตั้งมูลนิธิกู้ภัยร่มไทร และมูลนิธิอื่นๆ ส่วนใหญ่ครอบครัวเรามักจะเป็นผู้อุปถัมภ์มูลนิธิ มากกว่าจะขอรับบริจาค โดยเฉพาะพี่ชายคุณปู่ (ดร.สุธี มีนชัยนันท์) มักจะบริจาคเงินช่วยเหลือโรงพยาบาลรัฐปีละหลายสิบล้าน จนได้เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ชั้นที่ 1 ปฐมดิเรกคุณาภรณ์” คุณหมอเบนซ์เสริม
ปัจจุบันงานหลักของมูลนิธิ จะมีคุณลุง (วิชาญ มีนชัยนันท์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข) และคุณอา (วิรัตน์ มีนชัยนันท์ ประธานสภากรุงเทพมหานคร) ของคุณหมอเป็นผู้สานต่อ
เปิดคฤหาสน์สไตล์คลาสสิก เฟอร์นิเจอร์นำเข้าจากยุโรปทุกชิ้น
เมื่อก้าวเท้าเข้ามาใน ‘อาณาจักรมีนชัยนันท์’ ครอบคลุมพื้นที่กว้างใหญ่ มีอาคาร 5 หลัง เป็นโซนที่อยู่อาศัย และสโมสรส่วนตัว ที่ครบครันตั้งแต่ห้องบอลรูมจัดงานเลี้ยง ห้องสนุ๊กเกอร์ ห้องปิงปอง ห้องเต้นรำ สระว่ายน้ำมาตราฐาน ห้องซาวน่า ห้องพักรับรองแขกและพนักงาน นอกจากนี้ภายในสวน ยังมีกรีนพัตต์กอล์ฟรูปประเทศไทยจำลอง
ไม่เพียงแต่คฤหาสน์หรูแห่งนี้จะโอ่โถ่งกว้างขวางและครบครันเท่านั้น เพราะเจ้าของบ้านทุกคนยังประณีตและพิถีพิถันในรายละเอียดไม่แพ้กัน ทำให้เราได้เห็นว่าภายในตัวบ้านทุกหลังล้วนตกแต่งด้วยไม้สักแผ่นใหญ่และหนาอย่างดี ขณะที่เฟอร์นิเจอร์นั้นเป็นของนำเข้าแทบทั้งสิ้น โดยบางชิ้นได้มาจากการประมูล Christie’s ส่วนบางชิ้นเป็นไพรเวทคอลเล็กเตอร์จากยุโรป โดยเฉพาะเหล่าเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากหินมาลาไคต์สีเขียวรอบๆ ห้องโถงรับแขกที่สอง มีสีสันสวยสดใส ทำให้มีชีวิตชีวา
“หมอเบนซ์ชอบแชนเดอเลียร์ Baccarat สีดำ ซึ่งเป็นสีที่แพงมาก เรียกว่าราคาโคมไฟสีดำชิ้นนี้ สามารถซื้อโคมไฟแบบสีใสได้ถึง 2 โคมเลยทีเดียว แต่หมอเบนซ์บอกว่า ต้องสีดำเท่านั้น ซึ่งพอนำมาติดตั้งที่โถงเปียโน หรือห้องโถงที่สามของบ้าน ช่วยให้ดูเท่และลงตัวมาก ส่วนวอลเปเปอร์รอบโถงบันได เป็นผ้าไหมทองวาดมือทีละแผ่นจากอังกฤษ ลวดลายทั้งหมดเป็นศิลปะ chinoiserie ผสมฝรั่งเศสยุคศตวรรษที่ 17 ราคาแผ่นละหลายแสนบาท กว่าจะติดได้รอบห้องต้องใช้หลายสิบแผ่นทีเดียว ใช้แสงไฟกิ่งติดกำแพงสีดำจาก Baccarat คู่ละล้าน ทำให้มีมิติมากขึ้น” คุณแบงค์เล่าพลางชี้ให้ดูวอลเปเปอร์ที่เอ่ยถึง ซึ่งเป็นลวดลายสวนจักรพรรดิ์จีน ดูอ่อนช้อย มีนกเกาะกิ่งไม้ ให้ความหวานละมุน
ส่วนโถงสุดท้ายที่อยู่ด้านหลังบันไดโค้ง ตกแต่งด้วยกระจก stained glass ตรงกลางมีตัวอักษร M เป็นกระจกเผาสีธรรมชาติ ซึ่งเป็นอักษรเริ่มต้นของนามสกุลมีนชัยนันท์ มีโซฟาสีม่วง และกระดานหมากรุกจาก Hermes ทำให้บริเวณนี้เป็นมุมไฮไลท์ที่น่าสนใจอีกมุมหนึ่ง
นี่ยังไม่นับรวมห้องเก็บไวน์ขนาดใหญ่บนชั้นสอง ซึ่งล้วนแต่เก็บไวน์ที่ได้ชื่อว่าเป็น ‘5 อรหันต์บอร์กโดซ์’ รวมถึง Petrus, Romanée Conti และคอนยัค Louis XIII รวมกันเกือบ 1,000 ขวด สะสมมามากกว่า 30-40 ปี โดยห้องเก็บไวน์แห่งนี้ถูกออกแบบเป็นพิเศษ ให้สามารถสามารถเข้าไปสูบซิการ์และนั่งเล่นกันได้ทั้งครอบครัว
ทุ่มกว่า 200 ล้านเพื่อการศึกษาที่ดีที่สุด
คุณแบงค์เล่าถึงสิ่งที่คุณพ่อและคุณแม่ให้ความสำคัญมากที่สุดว่าคือการศึกษา “ส่วนตัวผมคิดว่าคุณพ่อ-คุณแม่คาดหวังเรื่องการศึกษามาก เฉพาะค่าเรียนต่างๆ ของผมที่อังกฤษก็ราวๆ 3 ล้านบาทต่อปีแล้ว ของพวกน้องๆ เองก็ไม่ต่างกัน เพราะฉะนั้นตลอด 10 ปีของการเรียนตั้งแต่ชั้น High School จนถึงมหาวิทยาลัย ผมจึงตั้งเป้าว่าจะต้องเรียนมหาวิทยาลัยระดับโลกให้ได้ ซึ่งผมก็ทำได้สำเร็จ น้องชายคนที่สามและสี่ ก็คิดไม่ต่างกัน ส่วน หมอเบนซ์ เป็นคนมีวินัยมาก เพราะเขาสามารถสอบจนได้รับ American Board เฉพาะทางจากอเมริกาถึง 3 สาขา และ จบ Fellow ที่ดูไบอีกด้วย ผมว่าเราทุกคนค่อนข้างรับผิดชอบการเรียนของตัวเองนะ”
ทางด้านคุณบอส น้องคนสามของบ้าน มีนชัยนันท์ เล่าถึงคุณแบงค์พร้อมรอยยิ้มว่า “คุณแบงค์จบปริญญาตรี สาขา ProjectManagement มหาวิทยาลัย UCL ที่เดียวกับผม นอกจากเขาได้เกียรตินิยมอันดับ1 แล้ว ยังได้ที่ 1 ของรุ่นด้วย หลังจากนั้นก็เรียนต่อปริญญาโทสาขา Real Estate Finance มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ซึ่งปัจจุบันเป็นพี่น้องคนเดียวที่เข้ามาช่วยธุรกิจก่อสร้างทั้งในและต่างประเทศของครอบครัวและ ดูแลบริษัทอื่นๆอีก 6 บริษัท”
ขณะที่คุณบอส นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และเจ้าของ Chelsea Golf Club สนามกอล์ฟในกรุงลอนดอน ที่มีเพื่อนสนิทอย่าง รัชทายาทลำดับที่2 ของมาเลเซีย ดารา Hollywood เจ้าของทีมฟุตบอลอังกฤษ และนักธุรกิจตระกูลดังหลายคน เป็นสมาชิก ก็ไม่น้อยหน้า เพราะเจ้าตัวโดดเด่นทั้งการเรียนและกิจกรรม โดยสมัยเรียนมัธยม โรงเรียนเก่าแก่กว่า 500 ปีที่อังกฤษ เขาได้รับเลือกให้เป็นประธานนักเรียนและได้รับเชิญจาก สมุหพระราชวังเพื่อร่วมโต๊ะเสวยกับเจ้าชายวิลเลี่ยม ดยุคแห่งเคมบริดจ์ ที่พระราชวังเวสมินเตอร์ ในงาน Diamond Jubilee ของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 คุณบอสจบปริญญาตรี ด้านผังเมืองและอสังหาริมทรัพย์ และปริญญาโท ด้านเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัย UCL ปัจจุบันคุณบอสใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ที่บ้านย่าน Chelsea ประเทศอังกฤษ กับน้อง Bella สุนัขหายากพันธุ์ Pomsky เป็นเพื่อน
ส่วนน้องเล็กอย่างคุณเบส เพิ่งจบปริญญาตรีมาไม่นาน สาขา Global Business Management จากมหาวิทยาลัยดังในลอนดอน ซึ่งคุณเบสพูดอย่างถ่อมตัวด้านการทำงานว่า “คงต้องกลับไปสานต่อธุรกิจก่อสร้างของที่บ้านกับคุณพ่อครับ”
ทัศนคติและรสนิยมของ 4 หนุ่ม บ้านมีนชัยนันท์
นอกจากทัศนคติที่ทำอะไรก็ต้องจริงจัง พิถีพิถันและดีที่สุดแล้ว เรื่องรสนิยมและไลฟ์สไตล์ก็เช่นเดียวกัน โดยทั้งสี่ ชอบความเนียบ และการใส่เสื้อผ้าพอดีตัว ซึ่งส่วนใหญ่เสื้อผ้าจะสั่งตัดพิเศษจากร้านดังในกรุงลอนดอน ทั้ง Henry Poole & Co, Turnbull & Asser, Corthay และร้านอื่นๆบนถนน Savile Row ต่างก็เคยให้บริการสี่หนุ่มมาแล้วทั้งสิ้น
จากนั้นคุณหมอเบนซ์ปิดท้ายว่า “สิ่งที่คุณพ่อสอนพวกเราเป็นประจำคือ ต้องรู้จักคุณค่าของเงิน และที่สำคัญกว่าคือต้องรู้จักการแบ่งปัน เอื้อเฟื้อ และ เผื่อแผ่ ให้ผู้อื่น” ทั้งสี่พี่น้องจึงพร้อมใจกันพยักหน้ารับ ต่างคนต่างอมยิ้มให้กันอย่างมีความสุข
