จือ-ณัฏฐา สุนทรวิเนตร์ เธอมีศักดิ์เป็นหลานสาวของคุณวิทวัส สุนทรวิเนตร์ พิธีกรชื่อดังเบอร์ต้นๆ ของเมืองไทย แต่กระนั้นคุณจือก็ไม่ได้รู้สึกว่า การมีนามสกุลดังจะเป็นเสมือนใบเบิกทางในชีวิต เพราะเธอมุ่งมั่นที่จะไปสู่ความสำเร็จด้วยตัวเอง
“จือรู้สึกเป็นเกียรติและภูมิใจที่เกิดมาในครอบครัวนี้นะคะ แต่ก่อนหน้านั้นจือไม่ได้บอกใครเลยว่าอยู่ในครอบครัวนี้ เพราะอยากจะประสบความสำเร็จด้วยความสามารถของตัวเอง ถ้าถามว่ากดดันไหม จือไม่ถือว่าเป็นแรงกดดัน จือมองว่ามันเป็นแรงกระตุ้นด้านบวกในการดำเนินชีวิต เป็นสิ่งผลักดันให้เราทำหน้าที่ทั้งหมดและสร้างผลงานให้ออกมาดีที่สุด”
สร้างสรรค์ผลงานสะท้อนผ่านตัวตน
คุณจือได้อ่านหนังสือกราฟิกดีไซน์เล่มหนึ่งโดยบังเอิญ และเกิดเป็นแรงบันดาลใจให้คุณจือเข้าศึกษาด้านการออกแบบตกแต่งภายในจาก Raffles International College Bangkok เธอเล่าว่า “จือได้ค้นพบตัวตนในฐานะดีไซเนอร์ และหลงใหลคุณสมบัติพิเศษบนพื้นผิวในแต่ละวัสดุ ไม่ว่าจะเป็นผ้าหรือเชือก มันก็สามารถสร้างสรรค์แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานใหม่ในงานออกแบบได้ กระทั่งกลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวไปเลยค่ะ”
“คนจะติดว่าจือทำงานสไตล์หรูหรา แต่จริงๆ แล้วในฐานะอินทีเรีย ดีไซเนอร์ จือทำได้หมดนะคะ ส่วนแรงบันดาลใจในการออกแบบก็มาจากตัวเจ้าของพื้นที่นั่นแหละค่ะ อย่างเช่น จะทำบ้านให้นักธุรกิจท่านหนึ่ง ก็ต้องเข้าไปสัมผัสคนที่อยู่ในสเปซจริงๆ ว่าไลฟ์สไตล์เขาเป็นยังไงเราจะได้เอาเรื่องราวเหล่านั้นมาต่อยอดในการออกแบบตกแต่ง แต่ในทุกๆ งานมันมีความเป็นตัวเรา มีความเนี้ยบอยู่ในงานนั้นเสมอ”
ก้าวแรกที่ยิ่งใหญ่ในชีวิต
นอกจากหน้าที่อินทีเรีย ดีไซเนอร์แล้ว คุณจือคือผู้ก่อตั้งและผู้บริหารหญิงคนเก่งของบริษัท Double V Space แหล่งรวมทุกบริการงานดีไซน์ในแห่งเดียว “การเปิดบริษัท มันช่วยเปิดประตูของการทำงานอีกบานหนึ่งให้เราเข้าไปเรียนรู้อะไรใหม่ๆ เยอะมาก จือมีโอกาสได้ทำงานสเกลใหญ่ขึ้น ได้ทำงานกับคนเก่งๆ มืออาชีพทั้งทางด้านสถาปัตยกรรม วิศวกรรม และไอที รวมถึงได้เห็นงานบริหารจัดการในธุรกิจต่างๆ เช่น โรงแรมและร้านอาหาร ถือว่าเป็นประสบการณ์ชีวิตที่ครบเครื่อง ทำให้ได้พัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลาค่ะ”
“ในระหว่างที่เปิดบริษัท ก็มีช่วงหนึ่งจือมีความคิดอยากไปเรียนต่อปริญญาโท เลยลองทำงานส่งประกวดจนได้ทุนอันดับหนึ่งสาขา Living Design ของสถาบัน Domus อิตาลี แต่พอดีช่วงนั้นมีโปรเจกต์โรงแรมที่ต้องดูแลสองแห่ง เวลานั้นตัดสินใจยากมาก แต่สุดท้ายจือก็ต้องขอสละสิทธิ์ไปค่ะ เพราะที่สุดแล้ว จือมองว่าประสบการณ์ในสนามการทำงานจริงสำคัญ และไม่น่าเชื่อว่า 1 ในโรงแรมที่จือและทีมงานออกแบบ The Chiang Mai Old Town ก็ชนะ Luxury Hotel Award (Country Winner สาขา Luxury Cultural Hotel) เมื่อปลายปีที่แล้ว สำหรับเราถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกที่สุด ที่เรายืนหยัดที่จะลงมือทำจริงอยู่ที่นี่ ทุกวันนี้จือก็ไม่หยุดเรียนรู้นะคะ พยายามอ่านหนังสือ เข้าสัมมนาและ Short Course ดีๆ และสังเกตวิธีการทำงานของคนเก่งๆ อยู่ตลอดเวลา แล้วนำมาปรับใช้กับการทำงานของตัวเอง”
สร้างความสำเร็จจากความเข้าใจ
หากถามถึงคติประจำใจของคุณจือ เธอบอกกับเราว่า “ทุกวันนี้จือทำงานด้วยความเข้าใจ เข้าใจตัวเอง เข้าใจทีม เข้าใจลูกค้า และเข้าใจธรรมชาติของงาน เราทำงานเกี่ยวกับบ้าน บ้านขึ้นอยู่กับคน และคนไม่มีความแน่นอน ถ้าเราเข้าใจสัจธรรมเหล่านี้ได้ เราก็จะทำงานอย่างมีความสุข แล้วสุดท้ายงานของเราก็จะออกมาดีในที่สุด”
“เราต้องมีความสามารถในการสร้างสมดุล ทั้งในเรื่องการวางแผน การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และการเป็นนักฟังที่ดี เพราะมันไม่ใช่พื้นที่สำหรับไว้แสดงผลงานของตัวเอง เราต้องฟังให้ลึกที่สุดว่าเจ้าของต้องการอะไร แล้วส่งมอบสิ่งนั้นออกมาให้ชัดเจน และตอบโจทย์ลูกค้า ถ้าเจ้าของบ้านอยู่แล้วมีความสุข มีคนชมว่าบ้านสวย จือจะดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสานความฝันของคนคนหนึ่งให้เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือธุรกิจที่ลูกค้าตื่นมาแล้วรู้สึกภูมิใจ แล้วผลพลอยได้ที่ตามมาคือ ลูกค้าเห็นเราเป็นพี่เป็นน้อง เป็นครอบครัว มันทำให้จือรู้สึกว่าแต่ละวันมันอิ่มอยู่ข้างใน”
บทสรุปความสุขของผู้หญิงทำงานยุคใหม่
คุณจือสรุปสั้นๆ ง่ายๆ ถึงความสุขของการทำงานให้เราฟังว่า “ในฐานะผู้หญิงทำงาน เราไม่ได้บอกว่าเราทัดเทียมหรือเปล่า เราบอกว่างานนี้เราภูมิใจหรือเปล่ามากกว่า เราต้องไม่อนุญาตให้คนอื่นมาทำร้าย ถ้าหากมีคนมาตัดสินเรา เราต้องมีเมตตากับตัวเองมากๆ เลือกรับแต่สิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงให้เราดีขึ้น สิ่งสำคัญคือเราต้องภูมิใจในตัวเองทุกๆ วัน และขอบคุณกับความสำเร็จเล็กๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน”
ติดตามได้ในนิตยสาร HELLO! ปีที่ 15 ฉบับที่ 03 ประจำวันพฤหัสบดีที่ 5 มีนาคม 2563
หรือดาว์นโหลดฉบับดิจิตอลได้ที่ www.ookbee.com , www.shop.burdathailand.com