Home > Celebrity > Exclusive Interviews > ความน่ารักของสองแม่ลูกสุดเฮี้ยว ปาลาวี บุนนาค และทอแสง อิสสระ

คุณแพร์-ปาลาวี บุนนาค หญิงเก่งผู้ประสบความสำเร็จทางอาชีพ ด้วยความสามารถของตัวเอง โดยใช้เวลาเกือบ 2 ทศวรรษ มุ่งมั่นจนได้เป็นพาร์ทเนอร์บริษัทกฎหมายสากลอันดับต้นๆ ของประเทศไทย แถมพ่วงอีกหนึ่งอาชีพอย่างพิธีกร ข่าวสังคม – บันเทิงอีกด้วย แม้จะทำงานหลายอย่าง เลิกงานค่ำมืด แต่ความเหนื่อยหนักของหน้าที่ความรับผิดชอบต่างๆ ไม่ได้ทำให้เวลาที่หญิงแกร่งทุ่มเทให้ลูกสาวอย่างน้องเวฬา – ทอแสง อิสสระ น้อยลงได้เลย

คุณแพร์-ปาลาวี บุนนาค

“เห็นเวฬาแล้วเหมือนเห็นตัวเองตอนเด็กๆ” คุณแม่เอ่ยเสียงเอ็นดู แกมมันเขี้ยวลูกสาววัย 5 ขวบ  “ความสามารถของเขาคือร้องเพลง เต้น วาดรูป ค่ะ” คุณแม่แพร์พรีเซนต์ทักษะของ ‘เบบี๋’ ซึ่งฝักใฝ่ศิลปะเหมือนคุณแม่สมัยเด็กๆ แต่จะเติบโตไปเป็น นักกฎหมายเหมือนกันอีกหรือไม่ คุณแพร์บอกว่าสุดจะคาดเดา “วาฬ” ( คุณปลาวาฬ-วรสิทธิ อิสรระ คุณพ่อของเวฬา ) ก็ถามว่าหรือยูจะเป็นเชฟดี บางที “วาฬ” สามารถพาลูกทำงาน ไปกับเขาด้วยเวลาไปภูเก็ต แต่แพร์เอาลูกไปอยู่กับลูกความไม่ได้ เวฬาก็จะเห็นแม่ทำงานเลิกดึกดื่นตลอดเวลา จนเขาเคยพูดนะคะว่า ‘แม่หยุดทำงานได้แล้วได้ไหม’ หรือไม่ก็ ‘อีกละ ทำงานอีกละ’ เขาจะเห็นภาพการทำงาน ของคุณพ่อ-คุณแม่ในรูปแบบนี้ แล้วให้เขาเลือกว่าเขาจะอยากทำอะไร ในอนาคตค่ะ”

แม้จะไม่ได้มีสถานภาพสามี-ภรรยา แต่คุณแพร์ และคุณปลาวาฬยังปฏิบัติหน้าที่แม่ และพ่อของลูกสาวคนเดียวอย่างเต็มใจและอย่างทุ่มเทดังเดิม

“ตั้งแต่ตอนเป็นแฟนกัน เราสองคนไม่ได้อยู่ด้วยกันอยู่แล้ว วาฬอยู่ภูเก็ต แพร์อยู่กรุงเทพฯ พอแต่งงานลูกก็สลับไปอยู่ภูเก็ต กับกรุงเทพฯ แล้วตอนนี้เวลาคุณวาฬ มาหาลูก เขาก็อยู่ที่บ้านนี้ในห้องส่วนตัวของเขา เราเลี้ยงลูกด้วยกันเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง และดีขึ้นกว่าเก่าด้วย”

คุณแพร์-ปาลาวี บุนนาค

“แพร์คิดว่าความคาดหวัง ทำให้คู่ชีวิต-แตกแยกกันมาเยอะ แต่พอเราหย่ากัน และเข้าใจชีวิตมากขึ้น แพร์ไม่ได้คาดหวังว่า วาฬว่าจะต้องทำหน้าที่อะไรทั้งนั้น เขาไม่เคยมีกรอบ เพราะ เขาคือ ‘ปลาวาฬ อิสสระ’ (หัวเราะ) แต่ตอนนั้นเราเอากรอบไปครอบ เขาก็อึดอัด ถ้าเขาไม่ได้ไปเที่ยวสังสรรค์ เจอผู้คนมากมาย เขาคงสร้าง”ศรีพันวา” ให้เป็นที่รู้จักแบบนี้ไม่ได้ ซึ่งเมื่อเราดึงกรอบออก แล้วต่างคนต่างใช้ชีวิต อย่างที่ต้องการ เขาก็รุ่งในทางของเขา เราก็สบายใจ วันหยุดเบบี๋ไปอยู่ภูเก็ตกับพ่อ ปาลาวีก็ไปปีนเขาเข้าป่า พอเราแฮปปี้ทั้งคู่ ลูกซึ่งเป็นเด็กแฮปปี้อยู่แล้ว ก็ยิ่งแฮปปี้ที่สุดเลย”

อย่างในวันนี้ สามคนพ่อแม่ลูกอยู่กันพร้อมหน้า คุณพ่อไปรับลูกสาวกลับมาจากโรงเรียน ขณะที่คุณแม่วุ่นกับการรับแขกทีมงาน Hello!

“วาฬทำหน้าที่พ่อดีได้มาก ไม่เคยขาดตกบกพร่องเลย เรายังมีแฟมิลี่ทริปพ่อแม่-ลูกที่ไปเที่ยวด้วยกันทุกปี หรือเวลานั่งที่โต๊ะอาหารกัน เบบี๋จะเอามือพ่อแม่มาจับกัน ‘สองคนนี้ไม่ทะเลาะกันแล้วนะ’ วาฬก็จะแบบ (มองบน) ‘เบบี๋หยุดดราม่าได้แล้ว’ ตอนนั้นเวฬา 3 ขวบเองนะคะ

“เวฬามีความเป็นนักการทูตสูงมากค่ะ เขารู้วิธีเข้าหาและเอาใจคนเก่งมาก เช่น เวลาคุณยายและคุณย่าไปรับหลานที่โรงเรียนพร้อมกัน เวฬาจะวิ่งไปกอดคุณยาย แต่อีกมือจับคุณย่า หรือเวลาแพร์ กับ วาฬทะเลาะกันในรถ เวฬาจะเป็นกรรมการชี้ขาดค่ะ ‘พ่อหยุดพูดซ้ำได้แล้ว แล้วอันนี้แม่ก็พูดผิด’ เขาเป็นเด็กที่แปลกมาก ทุกคนรักและอยากเจอเขาตลอดเวลาค่ะ”

คุณแพร์-ปาลาวี บุนนาค

เวลานี้เวฬาอายุมาถึงครึ่งทางสมัยคุณแม่ไปเรียนที่อังกฤษตั้งแต่อายุ 13 เด็กหญิงตัวน้อยที่พูดคล่องสองภาษาทั้งไทย และอังกฤษอยู่ในขั้นเตรียมตัวจากอ้อมอกพ่อแม่ ไปผจญโลกข้ามทวีปอยู่หรือไม่

“แพร์อยากส่งลูกไปเรียนเมืองนอกตั้งแต่เด็กๆเหมือนสมัยเรานะคะ แพร์ไปอังกฤษหลังจากจบม.1 ที่นี่ แต่แพร์ก็คุยกับวาฬอยู่ในเรื่องนี้ เขาห่วงลูกและติดลูกมาก (ลากเสียงยาว) ตอนนี้เราพูดภาษาอังกฤษ กับเขาตลอดเวลาให้เขาชินหูไว้ ถ้าเขาจบจากโรงเรียนทอสี แล้วว่ากันอีกที แพร์คิดว่าการเรียนโรงเรียนไทยก่อนเป็นเรื่องดี เพราะอย่างเวลาทำงาน เจอเด็กอ่านภาษาไทยไม่ได้ก็ทำงานไม่ได้นะคะ ฉะนั้นภาษาไทยให้เป๊ะไว้ก่อน ไปไล่เรียนภาษาอังกฤษทีหลังตอนไปเรียนเมืองนอกก็ได้”

“แล้วโรงเรียนทอสีก็สอนศีลธรรม และมารยาทแบบวัฒนธรรมไทย บางวันเขากลับจากโรงเรียนก็มานวดให้พ่อแม่เฉยเลย (ยิ้ม) ก่อนหน้านี้เวฬาอยู่เนิร์สเซอร์รี่อินเตอร์ ร้องเพลงภาษาอังกฤษ แต่พอเขามาเรียนโรงเรียนที่สอนวิถีพุทธ บางทีเขานั่งทำการบ้านอยู่ ก็ร้องเพลง ‘อิติปิโส…’ คือโรงเรียนสอนให้สวดมนต์ด้วยวิธีร้องเป็นเพลง เห็นเขาชอบร้องเพลงเราก็จะสนับสนุนเขาในทางนี้ พาเขาไปเรียนร้องเพลง ถ้าเขาชอบเล่นกีฬาประเภทไหนก็พาเขาไป เหมือนที่คุณแม่ทำกับเรา เพราะแพร์มาจุดนี้ได้ก็เพราะคุณแม่”

คุณแพร์-ปาลาวี บุนนาค

ตอนที่ตัดสินใจแยกทาง อธิบายให้ลูกฟังอย่างไร

“เขาเก็ตของเขาเองค่ะ เขาเป็นเด็กฉลาดมากอยู่แล้ว เราก็ถามว่าแนนนี่ไปบอกหรือเปล่า ไล่ถามคนนั้นคนนี้ว่ามีใครไปบอกหรือเปล่า แต่ไม่มีใครบอกเวฬานะคะ เขารู้ของเขาเอง”

“ตลอดมาวาฬดูแลเราดีเหมือนเราเป็นเจ้าหญิง ทุกครั้งที่มีปัญหาอะไรก็ตาม คนแรกที่นึกถึงคือวาฬ เขาคือคนที่จะช่วยเราได้ตลอด เขาคือคนที่เราไว้ใจที่สุด แม้ว่าจะเป็นคนที่ยิงใส่เราพรุนที่สุดก็ตาม เขาเป็นคนที่รู้จักเราที่สุดว่าเราชอบอะไร ไม่ชอบอะไร แหย่เราตรงไหนแล้วจะทำให้เราประสาทได้ ซึ่งเขาชอบยั่วโมโหที่สุดในโลก อย่างที่บอกว่าเราเหมือนเป็นคู่กัดคู่กรรมกันมา เราถึงเป็นครอบครัวสมัยใหม่ ที่หย่ากันแต่ก็อยู่ร่วมกันได้ในแบบของเรา ซึ่งครอบครัวของเราสองคนก็ยังสนิทกัน ยังชักชวนกันไปทำสิ่งดีๆด้วยกัน โดยมีเวฬาเป็นจุดศูนย์กลางค่ะ”

ติดตามเรื่องราวความน่ารักและความอบอุ่นของสองแม่ลูกได้ใน นิตยสาร HELLO! ฉบับวันที่ 15 ก.พ. 2561 หรือดาว์นโหลดฉบับดิจิตอลได้ที่  www.ookbee.com หรือ www.shop.burdathailand.com

Never miss an update

Subscribe to our newsletter to get the latest updates.

No Thanks
You’re all set

Thank you for your subscription.