เบื้องหลังภาพสวยราวกับเทพนิยายของ ‘แป้ง-พลอยวารินทร์ ทรงปกรณ์’ ในวินาทีที่แฟนหนุ่มคุกเข่าขอแต่งงาน
ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาได้เห็นหลายคนหนีร้อนไปเที่ยวเมืองหนาวกันเป็นแถว นอกจากรูปวิวทิวทัศน์และแฟชั่นของเหล่าเซเลบริตี้แต่ละคนแล้ว ก็เห็นจะเป็นข่าวดีของหลานสาวกระทิงแดงคนสวยที่ถูกขอแต่งงาน ณ ประเทศอิตาลีนี่เอง HELLO! จึงขอ เปิดใจ แป้ง-พลอยวารินทร์ ทรงปกรณ์ ชวนว่าที่เจ้าสาวมานั่งคุยถึงวินาทีที่แฟนหนุ่มคุกเข่าขอแต่งงานว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง

วินาทีสุดเซอร์ไพรส์
ว่าที่เจ้าสาวคนสวยของเราเผยว่าอันที่จริงแล้วโมเมนต์ที่เซอร์ไพรส์มากที่สุดไม่ใช่ตอนที่ถูกคุกเข่าขอแต่งงาน แต่ต้องย้อนกลับไปเป็นช่วงต้นปีที่คุณแป้งไปเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์กับเพื่อนๆ “ตอนนั้นตกใจมากที่สุด เพราะอยู่ๆ แฟนก็ไปหาพ่อ ไปขอแป้งกับคุณพ่อ แล้วคุณพ่อก็ไลน์มาบอกว่ามีคนมาขอลูกสาว ” เรียกว่าเป็นการทำตามธรรมเนียมที่ทำเอาคุณแป้งถึงกับตกใจพูดไม่ออกไปเลย
หลังจากสู่ขอกับผู้ใหญ่ตามประเพณีเรียบร้อย ก็เหลือแค่การคุกเข่าขอว่าที่เจ้าสาวแต่งงาน ซึ่งเป็นงานที่โหดหินที่สุดสำหรับฝ่ายชายก็ว่าได้ เพราะต้องเตรียมการเซอร์ไพรส์ให้แนบเนียนและออกมาดีที่สุด โดยคุณแป้งเล่าว่าทางฝั่งหวานใจก็คอยออกตัวอยู่ตลอดว่าจะไม่ขอแต่งงานที่ต่างประเทศ เพราะกลัวแหวนหาย
ทำให้ตัวคุณแป้งเองก็ลุ้นๆ มาตลอดว่าโมเมนต์สำคัญจะมาถึงเมื่อไหร่ ถึงขั้นที่เพื่อนๆ คาดเดากันไปต่างๆ นานาว่าอาจจะขอก่อนไปเที่ยวต่างประเทศก็ได้ งานนี้ว่าที่เจ้าสาวของเรายอมรับด้วยเสียงปนหัวเราะว่า “ช่วงก่อนไปเที่ยวแป้งแต่งตัวสวยอยู่วีคหนึ่งเลย คือปกติก็เป็นคนชอบแต่งตัวอยู่แล้ว แต่ช่วงนั้นคือใส่ใจเรื่องเสื้อผ้าเป็นพิเศษ ยิ่งทริปนี้คือคิดมาแล้วว่าสวยทุกวัน พร้อมทุกโมเมนต์”


เบื้องหลังภาพสวยชวนฝันและ 40 นาทีสุดลุ้น
สำหรับภาพโรแมนติกราวกับเทพนิยายที่บันทึกวินาทีสำคัญของทั้งคู่ไว้นั้น ต้องยกความดีความชอบให้แฟนหนุ่มของคุณแป้งเลย เพราะคุณแป้งเล่าว่ากิจกรรมวันนั้นคือการล่องเรือในทะเลสาบโคโม่ ก่อนจะขึ้นฝั่งมาเดินเล่นกันต่อ “คือพอเราลงเรือเสร็จปุ๊บก็มีช่อดอกไม้มาให้ แล้วก็มีทีมตากล้องทั้งภาพนิ่ง ทั้งวิดีโอ นั่งไปอีกลำคอยเก็บภาพเรา มีโดรนอีกต่างหาก ตอนเห็นทีมกล้องคือแป้งตกใจมาก แบบตายแล้ว มาเต็มมาก”
ความจัดเต็มของทีมกล้องในครั้งนี้นี่เองที่กลายเป็นอีกคำใบ้สำคัญ บอกให้ว่าที่เจ้าสาวของเรารู้ตัวว่าอาจจะมีการขอแต่งงานเกิดขึ้น ซึ่งคุณแป้งก็เล่าว่าตลอด 40 นาทีของการล่องเรือนั้นใจเต้นตลอด ลุ้นตลอด ไม่รู้ว่าเขาจะพูดออกมาตอนไหน แต่จนแล้วจนรอดอีกฝ่ายก็ยังไม่ปริปากขอจนกระทั่งขึ้นฝั่งนั่นเอง


อาการหูดับที่เขาเล่าต่อกันมา
ถึงแม้จะฟังดูเหมือนว่าว่าที่เจ้าสาวรู้ตัวอยู่แล้ว พอจะจับทางได้ว่าคงจะเกิดการคุกเข่าเร็วๆ นี้ แต่พอเอาเข้าจริงถึงเวลาที่ได้เห็นอีกคนเดินถือแหวนมาหา คุณแป้งก็ยังรู้สึกตกใจและเกิดอาการหูดับเหมือนที่หลายๆ คนประสบพบเจอเช่นเดียวกัน “สิ่งที่เขาพูดออกมาคือแป้งไม่ได้ยินเลย หูดับไปเลย งงมาก ไม่รู้ต้องทำยังไงต่อ”
คุณแป้งเล่าด้วยน้ำเสียงมีความสุขถึงวินาทีที่ฝ่ายชายคุกเข่าลงขอแต่งงานว่าทางฝั่งแฟนคุณแป้งเองก็มีการซักซ้อมมาก่อนว่าจะพูดอะไรบ้าง แต่ก็อย่างที่หลายคนเคยเป็น คือเมื่อถึงวินาทีสำคัญสมองกลับนึกอะไรไม่ออกเลย “พอเขาพูดจบ แป้งเลยบอกว่าพูดอีกทีได้ไหม เมื่อกี้ไม่ได้ยินเลย เขาก็บอกว่าเขาจำไม่ได้เหมือนกัน (หัวเราะ) คือแป้งได้ยินแค่ประมาณว่าไปไหนไม่ได้แล้วนะ แล้วเขาก็เอาแหวนมาสวมนิ้วเราเลย ยังคิดอยู่เลยว่าไม่ให้เราเซย์เยสหน่อยเหรอ”
งานนี้ว่าที่เจ้าสาวยังเล่าขำๆ อีกด้วยว่าตอนที่ได้ยินคนอื่นเล่าถึงอาการ “หูดับ” ก็ไม่คิดว่ามันจะไม่ได้ยินอะไรเลยขนาดนั้น แต่พอได้ผ่านโมเมนต์นั้นมาด้วยตัวเองก็เข้าใจแล้ว เพราะไม่ได้ยินอะไรเลยจริงๆ แถมยังไม่เคยซ้อมถูกขอแต่งงานมาก่อน เลยยิ่งทำตัวไม่ถูกเข้าไปใหญ่ แต่อย่างไรก็ถือว่าภาพที่ออกมาโรแมนติกงดงามเกินบรรยายจริงๆ


ทะเลสาบโคโม่ สถานที่ในฝันของว่าที่เจ้าสาว
ใครที่ติดตามอินสตาแกรมของคุณแป้งอาจจะเคยทราบว่าเจ้าตัวชอบ ทะเลสาบโคโม่ (Lake Como) ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี เป็นอย่างมาก และถ้าถามว่าชอบมากขนาดไหน เราก็ขอบอกเลยว่าถึงขนาดที่คุณแป้งเคยคิดเล่นๆ ว่าอยากมาจัดงานแต่งงานที่ทะเลสาบแห่งนี้ ดังนั้นทะเลสาบโคโม่จึงเป็นสถานที่ที่สมบูรณ์แบบและเหมาะสมที่สุด ที่แฟนของคุณแป้งจะตัดสินใจคุกเข่าลงขอสวมแหวน

สิ่งที่เปลี่ยนไปหลังขอแต่งงาน
การขอแต่งงานเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 2 ของทริป เราเลยถามถึงความเปลี่ยนแปลงหลังจากนั้นที่อยู่เที่ยวด้วยกันต่อว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง ซึ่งคุณแป้งก็เล่าว่าโดยปกติแล้วทั้งคู่เป็นคนไม่หวาน ไม่ค่อยสวีตกัน เวลาไปเที่ยวก็จะชิลล์ๆ เหมือนเพื่อนกัน แต่พอหลังจากวินาทีที่คุกเข่าสวมแหวนกันแล้วทำให้ความรู้สึกมั่นคงและมั่นใจกับคนนี้มากขึ้น “ไม่เชิงว่าหวานขึ้น คือมันรู้สึกสงบมากขึ้น รู้สึกว่า Settle Down กับคนคนนี้แล้วล่ะ คงจะเป็นคนนี้จริงๆ”
อีกสิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนไปก็เห็นจะเป็นสถานะของทั้งคู่ที่เลื่อนขั้นจาก “แฟน” ขึ้นมาเป็น “คู่หมั้น” (Fiancé) เต็มตัว งานนี้ทำเอาทั้งคู่แอบมีเขินๆ กันบ้างกับคำเรียกใหม่ที่ต้องใช้ แต่บอกเลยว่าของแบบนี้พูดบ่อยๆ เดี๋ยวก็ชินปากเอง


ลุคสวยหวานที่เพอร์เฟกต์ที่สุดสำหรับวันสำคัญ
อย่างที่คุณแป้งเล่าไปตอนแรกว่าทริปนี้จัดเต็มเรื่องเสื้อผ้าหน้าผมทุกวัน ไม่มีวันไหนที่ชุดไม่ปัง ทำให้ภาพรวมของบรรยากาศการคุกเข่าขอแต่งงานเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบและงดงาม โดยคุณแป้งสวมมินิเดรสเปิดไหล่สีชมพูจากแบรนด์ Aje อันเป็นสีโปรดของเจ้าตัว แมตช์กับรองเท้าส้นสูงสีใสประดับคริสตัลรูปริบบิ้นจาก MACH & MACH ก่อนคอมพลีตลุคให้สวยปังด้วยกระเป๋า Hermes รุ่น Kelly

ย้อนรอยเส้นทางรักของคนที่ใช่
หลายคนที่ติดตามอินสตาแกรมของเซเลบริตี้สาวสวยคนนี้ต้องเคยเห็นหวานใจหนุ่มหล่อขาวตี๋คนนี้ผ่านหน้าทามไลน์บ้างอย่างแน่นอน วันนี้เราเลยจะขอพาทุกคนไปทำความรู้จักกับหวานใจของคุณแป้งให้มากขึ้น พร้อมทั้งย้อนรอยเส้นทางรักระหว่างทั้งสองคนว่าจุดเริ่มต้นมาจากอะไร
โดยฝ่ายชายเป็นลูกครึ่งฮ่องกง-ไต้หวัน แต่เกิดและโตที่ไทย หลังจากเรียนจบจากเคมบริดจ์ก็กลับมาทำธุรกิจต่อที่ไทย และเริ่มเข้าคอร์สเรียนเดียวกับคุณแป้ง ซึ่งนี่คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ทั้งสองคนได้มารู้จักกัน โดยขณะนั้นคุณแป้งอายุได้ 25 ปี (5 ปีที่แล้ว) ส่วนฝ่ายชายนั้นอายุ 27 ปี

คุณแป้งเล่าว่าในคอร์สเรียนจะแบ่งออกเป็นกลุ่ม ซึ่งบังเอิญว่าทั้งคู่ได้อยู่กลุ่มเดียวกัน และบังเอิญว่าคุณแป้งพูดภาษาอังกฤษได้คล่อง เขาจึงเริ่มเข้ามาพูดคุยทำความรู้จัก “ตอนนั้นเราไม่ได้คิดอะไร เพราะเขาไม่ใช่สเปกขนาดนั้น คือเขาแต่งตัวดูดี สูง ขาว หน้าตาดีนะ แต่ว่าดูเรียบร้อยมาก แล้วตอนนั้นเรายังเด็กก็กำลังเปรี้ยวเลย” แต่ถึงแม้หลานสาวกระทิงแดงคนสวยจะไม่สนใจก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะอีกฝ่ายเดินหน้าจีบและดูแลเทคแคร์ตลอดเวลาไปแฮงค์เอ้าท์กับกลุ่มเพื่อน ทำให้คุณแป้งเริ่มประทับใจและเปิดใจทีละนิด
เขาเป็นคนตั้งใจทำงาน ทุ่มเทให้กับงาน แต่ก็แบ่งเวลาชีวิตได้ดี เรียนเก่ง ฉลาด เป็นคนสนุก แล้วก็เป็นคนชัดเจน ไม่มีชั้นเชิงเยอะในเรื่องความสัมพันธ์ อาจจะพูดได้ว่าเขาติ๊กถูกทุกข้อ
แป้ง-พลอยวารินทร์ ทรงปกรณ์ เล่าถึงความประทับใจในตัวว่าที่เจ้าบ่าว
ว่าที่เจ้าสาวคนสวยของเราสรุปทิ้งท้ายถึงความรักในครั้งนี้ว่า “เราอยู่ในจุดที่พร้อมหมดแล้ว ไม่มีอะไรต้องรอ และเขาคือคนที่ใช่ ที่เข้ามาในเวลาที่ใช่”
ข้อมูลและรูปภาพ : คุณแป้ง-พลอยวารินทร์ ทรงปกรณ์