Home > Celebrity > Exclusive Interviews > วิถีโมเดิร์นฮิปปี้ ‘เชอร์รี่ – พัชทรี ภักดีบุตร’ ใช้ ‘เรกิ’ และ ‘หินบำบัด’ เปิดรับพลังบวก

โลกหมุนเร็วขึ้นทุกวันด้วยเทคโนโลยีและข่าวสารมากมาย ผู้หญิงเก่งอย่าง ‘เชอร์รี่ – พัชทรี ภักดีบุตร’ กรรมการผู้จัดการบริษัท ปรมาลาภา จำกัด ผู้สร้างสรรค์แบรนด์สกินแคร์และเครื่องหอมไทย ‘เอิบ’ (Erb) เป็นอีกหนึ่งคนที่เชื่อในเรื่อง ‘พลังธรรมชาติ’ โดยใช้ศาสตร์ ‘เรกิ’ (Reiki) มาใช้ปรับพลังงานในร่างกาย เปิดรับพลังงานด้านบวก และกำจัดพลังงานด้านลบ เพื่อให้ชีวิตประจำวันและการทำงานเป็นไปอย่างราบรื่นมากขึ้น

‘เรกิ’ คืออะไร

คุณเชอร์รี่อธิบายคร่าว ๆ ว่า “เป็นเรื่องของการใช้พลังจักรวาลมาเยียวยารักษาหรือปรับพลังงานในร่างกายของเรา คำว่า ‘เร’ (Rei) แปลตรง ๆ หมายถึง ‘จักรวาล’ ส่วนคำว่า ‘กิ’ (Ki) แปลว่า ‘พลังงาน’ เรกิจึงคล้าย ๆ กับพลังจักรวาล แต่เป็นศาสตร์ที่เฉพาะมากกว่าพลังจักรวาลที่ค่อนข้างเป็นการเปิดรับพลังงานกว้าง ๆ เรกิเป็นการรับพลังแบบเฉพาะเจาะจงโดยใช้โค้ดในการเปิดรับพลังงานเฉพาะเรื่อง คน สถานการณ์ หรืออาการนั้น ๆ”

ปรับพลังงานในร่างกายให้พร้อมรับพลังงานด้านบวก

การนำเรกิมาใช้กับชีวิตประจำวัน คุณเชอร์รี่ เล่าว่า “เรกิมีทั้งช่วยป้องกัน ปรับพลังงาน หรือแม้แต่กำจัดพลังงานที่ไม่ดี รี่ก็จะนำมาใช้ประมาณนั้น ถ้าถามว่ามันเหมือนกับชีวิตประจำวันอย่างไร ก็เหมือนกับเราเจอคนที่พลังงานบวก แล้วเราอยากเปิดตัวเองให้รับพลังงานเหล่านั้นมา เรกิจะเป็นการกำหนดหรือส่งสัญญาณให้ร่างกายพร้อมให้เปิดรับพลังงานมากขึ้น และสามารถใช้กับการเปิดรับพลังงานทุกอย่าง เช่น เวลาไปเดินบนเขาที่มีดินซึ่งเกิดมาพร้อมโลกตั้งแต่หลายร้อยล้านปีที่แล้ว เราอยากรับพลังที่เขาสะสมเอาไว้ เราก็ใช้โค้ดจากศาสตร์เรกิเพื่อรับพลังเหล่านั้นมา คล้าย ๆ กับศาสตร์ฮวงจุ้ย แต่ถ้าเราไม่ได้เปิดพลังงานในร่างกาย พลังงานบวกก็จะเข้ามาแค่บางส่วน แต่ถ้าเราเปิดพลังงานก็จะรับมาได้เต็มที่ขึ้น

นำเรกิมาใช้ในกับแบรนด์เอิบ

ไม่เพียงแต่ใช้กับชีวิตประจำวัน คุณเชอร์รี่ยังนำเอาศาสตร์เรกิมาใช้กับแบรนด์เอิบทั้งในส่วนผลิตภัณฑ์เครื่องหอมและสปา โดยบอกว่า “การเปิดจักระด้วยหินหรือทำเรกิก่อนเป็นการเปิดรับการนวดให้ร่างกายได้รับการปรนนิบัติอย่างเต็มที่มากขึ้น บางคนมาพร้อมความขุ่นมัว แม้นอนนวดเป็นชั่วโมงก็ไม่รู้สึกผ่อนคลายลง เพราะร่างกายยังล็อกมีจักระที่ยังไม่เปิดหรือไม่เคลียร์ ต่อให้นวดอย่างไรร่างกายก็ไม่ได้รับประโยชน์ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าเคลียร์จักระด้วยหินบำบัด หรือแม้แต่เรกิก็จะทำให้ได้รับการปรนนิบัติที่เต็มที่มากขึ้น

รวมถึงเอามาใช้กับเครื่องหอม เช่น บางคนรู้สึกหงุดหงิดเดินเข้ามาอยากได้กลิ่นที่สดชื่นสบาย ใช้แล้วรู้สึกกระฉับกระเฉงคล่องตัว แต่พอมาทำเรกิซึ่งเป็นการอ่านพลังงานปรากฏว่าต้องการความรัก ดังนั้นแทนที่จะได้กลิ่นลาเวนเดอร์ ก็อาจจะได้กลิ่นกุหลาบไปแทน เป็นต้น แต่ว่าทั้งหมดทั้งปวง เวลาเขาดมก็จะรู้สึกได้เอง

ใช้เรกิในการสะสมหิน

ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาคุณเชอร์รี่ยังเริ่มสะสมหิน โดยเจ้าตัวบอกว่า “หินเป็นสิ่งที่เกิดมาพร้อมโลกเป็นล้าน ๆ ปี มีการสะสมพลังงานไว้มากมายจนออกมาเป็นสีต่าง ๆ คนสมัยโบราณมีการนำหินเหล่านี้มาใช้ประโยชน์เมื่อนานมาแล้ว แต่ละจักระก็ต้องการหินแต่ละชนิดเพื่อเปิด เช่นใช้โรสควอตซ์เพื่อทำให้มีเมตตา มีความรักต่อคนอื่นมากขึ้น ซึ่งเป็นศาสตร์ที่มีมาแล้วหลายพันปี เป็นความรู้ที่มาจากการสั่งสมประสบการณ์จริง ๆ ของคนโบราณ เรกิก็คือการปรับพลังงาน หินก็เหมือนกัน”

หินอเมทิสต์อายุมากกว่า 30,000 ปี

คุณเชอร์รี่นำหินที่สะสมไว้ในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมาซึ่งมีหินหลากหลายชนิดและขนาด แต่ชิ้นที่ใหญ่ที่สุดคือหินอเมทิสต์ที่ส่องประกายสีม่วงน่าค้นหา คุณเชอร์รี่เล่าถึงหินชิ้นนี้ว่า “น่าจะไม่ใช่แค่ 30,000 ปี น่าจะมีอายุเท่าโลกด้วยซ้ำ รี่เริ่มสะสมหินจากอเมทิสต์เพราะมีลูกน้องเยอะ ทำงานที่ต้องเจอคนเยอะ จึงอยากได้หินที่ช่วยเคลียร์เรื่องความคิด การเติบโต การเป็นผู้นำ การยกระดับตัวเองให้สูงที่สุดทั้งร่างกายและจิตวิญญาณ ชิ้นใหญ่นี้พอได้มาแล้วก็ทำให้รู้สึกมั่นคงมากขึ้น เหมือนเป็นเพื่อนที่ดี ซึ่งรี่ได้ใช้พลังเรกิในการล้างพลังให้เขา พยายามส่งพลังงานให้กัน และรู้สึกถึงกันได้ดี อย่างที่บอกว่าหินก็น่าจะสะสมพลังงานไว้นานหลายล้านปี ๆ เราก็อยากดึงพลังตรงนั้นมาใช้ผ่านการใช้เรกิ

ทุกวันนี้โลกค่อนข้างเครียด การที่จะไปหาความสุขส่วนตัวอาจเป็นไปได้ลำบาก ดังนั้นการหาความสุขที่ใกล้ตัวที่สุดคือพลังงานจากธรรมชาติ ไม่ว่าจะดูดอกไม้ การเดินบนหญ้า การสะสมหิน หรือแม้แต่การนั่งสมาธิ สวดมนต์ หรือตอนนี้ก็มีเพลงที่ช่วยปรับพลังงานไปตาม ความถี่ของเพลง ทำให้พลังงานเสถียร ปรับสมดุล ช่วยคลายเครียด การเปิดรับพลังงานบวกกับสิ่งง่าย ๆ รอบตัวก็เปรียบเหมือนเยียวยาตัวเองเบื้องต้น” คุณเชอร์รี่กล่าวก่อนปิดท้ายว่า

“สาว ๆ สมัยนี้ รี่เรียกว่าเป็น ‘โมเดิร์นฮิปปี้’ คือนอกจากเข้าใจเทคโนโลยี ใช้ชีวิตหรือทำงานอยู่ในโลกที่รวดเร็ว ทันสมัย แต่ในขณะเดียวกันก็มีความเป็นฮิปปี้คือการไปหาศาสตร์เก่า ๆ ความเชื่อโบราณในการรักษาทางเลือกมาเยียวยาตัวเองขั้นพื้นฐานด้วย”

ติดตามบทสัมภาษณ์ ‘คุณเชอร์รี่ – พัชทรี ภักดีบุตร’ ฉบับเต็มที่จะมาไขความลับของพลัง ‘เรกิ’ และ ‘หินบำบัด’ ในนิตยสาร HELLO! ฉบับเดือนตุลาคม 2564 วางแผงแล้ววันนี้ที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ หรือสั่งซื้อออนไลน์ที่ shop.burdathailand.com

Never miss an update

Subscribe to our newsletter to get the latest updates.

No Thanks
You’re all set

Thank you for your subscription.