คุยกับดีไซเนอร์ฝีมือเฉียบ พลพัฒน์ อัศวะประภา ผู้ก้าวข้ามโจทย์ที่ท้าทาย ผ่าน Uniform by ASAVA
กว่า 1 ทศวรรษที่ ‘คุณหมู – พลพัฒน์ อัศวะประภา’ ดีไซเนอร์ผู้โลดแล่นอยู่ในวงการแฟชั่นไทย นับตั้งแต่การก่อตั้งแบรนด์ ASAVA เมื่อปี 2008 จากจุดเริ่มต้นของความชอบและรักในงานออกแบบ ก่อนจะต่อยอดสู่แบรนด์ต่างๆ ภายใต้ ASAVA Group มากมาย และหนึ่งในนั้นคือ ‘Uniform ASAVA’

“ทุกอย่างค่อยๆ เติบโตจากจุดเล็กๆ ด้วยความเชื่อมั่นอันเป็นปรัชญาของแบรนด์ และในปี 2010 เราอยู่ในช่วงที่ยากลำบากมากๆ เพราะสถานการณ์ความวุ่นวายของบ้านเมือง ณ เวลานั้น แต่เราก็พยายามก้าวข้ามและพัฒนาผลงานดีไซน์อย่างต่อเนื่อง จากออฟฟิศเล็กๆ กลายเป็นร้านใหญ่ที่สยามพารากอน แล้วก็ขยายสาขาแบบ exponential บวกกับความโชคดีที่ได้รับโอกาสจากสายการบินยักษ์ใหญ่ของไทยอย่าง ‘บางกอกแอร์เวย์’ ในการออกแบบยูนิฟอร์ม จึงถือกำเนิดเป็น ‘Uniform by ASAVA’ ในปีนั้น” ดีไซเนอร์ฝีมือฉกาจเปิดประเด็นของจุดเริ่มต้นให้ฟังก่อน


จากนั้นก็เล่าลงรายละเอียดต่อ “จริงๆ เราเริ่มจากการทำเป็นแผนกออกแบบยูนิฟอร์มก่อน แต่หลังจากที่ผลงานการดีไซน์ให้กับองค์กรแรกเผยแพร่ออกไป กลับได้เสียงตอบรับที่ดีมากๆ ทำให้บริษัทและองค์กรต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศติดต่อเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย จนต้องค่อยๆ ปรับกระบวนทัพให้ทุกอย่างสอดคล้องกับการทำงานที่ตอบโจทย์ในทุกๆ ด้านครับ”
แตกต่างในสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์
“เพราะเราใช้ความชำนาญด้านแฟชั่นผสมผสานกับวิธีคิด เราไม่เคยคิดว่าเราเป็นแค่ Garment Provider เพราะฉะนั้นทุกครั้งที่ทำงานร่วมกับลูกค้า เรามักจะตั้งคำถามกลับไปเสมอว่า วัตถุประสงค์ของเขาคืออะไร สอดคล้องกับพันธกิจขององค์กรหรือไม่ และมีเป้าหมายในอนาคตอย่างไร เพราะบางองค์กรไม่ได้สื่อสารกับพนักงาน และลูกค้าของเขาเพียงอย่างเดียว
“แต่เป็นการทำความรู้จักกับบุคคลภายนอก และพูดคุยกับสังคม เรียกว่าเป็น ‘Soft Power’ อย่างหนึ่ง ซึ่งยูนิฟอร์มถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสื่อสารภาพลักษณ์ขององค์กร แม้ว่าเสื้อผ้าอาจจะไม่ใช่เครื่องมือหลักที่จะสามารถวัด KPI ในการเพิ่มยอดขายหรือกำไรให้กับองค์กรนั้นๆ ได้ชัดเจน แต่แน่นอนที่สุดว่า จะเป็นการสร้างการสื่อสารที่ดี ที่นำไปสู่การสร้างความประทับใจต่อไป”

เมื่อก่อนยูนิฟอร์มถือเป็นงบประมาณก้อนสุดท้ายที่องค์กรต่างๆ ยอมควักกระเป๋าจ่ายในแต่ละปี และบางครั้งเหลือเวลาในการออกแบบพร้อมสั่งผลิตเพียง 3 เดือนเท่านั้น “เรียกว่าเป็นความท้าทายมากๆ สำหรับ Uniform by ASAVA ที่จะรังสรรค์ผลงานออกมาให้สวยและเสร็จทันตามกำหนด เพราะเราไม่ใช่แค่ออกแบบตามโจทย์ที่ลูกค้าบรีฟมา แต่ยังทำการบ้าน ด้วยการหาข้อมูล ประวัติ และพันธกิจขององค์กรนั้นๆ มาประกอบด้วย



“ยกตัวอย่างการออกแบบยูนิฟอร์มให้กับ โรงแรมโซฟิเทล หัวหิน ที่เราตีความจากความรุ่งเรืองในอดีตของหัวหิน ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 7 ผู้คนจากเมืองกรุงนิยมเดินทางไปใช้ชีวิตที่บ้านพักตากอากาศ โดยหยิบเอาลายกระเบื้องของพระราชวังมฤคทายวันมาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบ และใช้ผ้าโขมพัสตร์ซึ่งเป็นผ้าทอท้องถิ่นของชาวหัวหินในการตัดเย็บด้วย ซึ่งเราพยายามให้ความสำคัญกับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ จนกลายเป็นความโดดเด่นที่สร้างความแตกต่างให้กับแบรนด์”
แตกต่างในสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์
และนอกจากจะใส่ใจกับการออกแบบแล้ว ดีไซเนอร์คนเก่งแห่ง Uniform by ASAVA ยังเล็งเห็นถึงความสะดวกสบายของผู้สวมใส่เป็นสำคัญอีกด้วย โดยได้ทำงานร่วมกับสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ ช่วยกันพัฒนาและคิดค้นการผลิตผ้าชนิดใหม่ๆ ขึ้น เช่น ผ้านาโน ผ้าโคโม่ และผ้า Numbers 5 ที่ได้รางวัลจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เพราะเป็นผ้าที่เหมาะกับการใช้ตัดเย็บยูนิฟอร์ม ด้วยเนื้อผ้าที่ให้ความรู้สึกสวมใส่สบาย ระบายอากาศได้ดี รีดง่าย และประหยัดไฟ

อีกทั้ง ขนาดต้องพอดีกับผู้สวมใส่ ด้วยความที่เป็นแบรนด์แฟชั่นความสวยงามต้องควบคู่ไปกับการใช้งานที่คล่องตัว “เมื่อก่อนเวลาทำยูนิฟอร์มให้แต่ละองค์กร เราจะส่งทีมไปวัดตัวแบบละเอียดทุกสัดส่วน แต่ปัจจุบันเราได้พัฒนาสร้างระบบในการวัดไซส์ต่างๆ ผ่านทางออนไลน์ ซึ่งมีให้เลือกมากกว่า 300 ไซส์ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถสั่งตัดยูนิฟอร์มในขนาดที่พอดีตัวได้ และระบบดังกล่าวมีความแม่นยำถึง 99 เปอร์เซ็นเลยทีเดียว”
ณ วันนี้ ในฐานะดีไซเนอร์ที่ก้าวผ่านอุปสรรคและความท้าทายต่างๆ มามากมาย คุณหมูบอกว่า จากวันที่เริ่มฝันว่าอยากจะทำเสื้อผ้า คิดแค่อยากทำเสื้อผ้าให้เหล่าคนดังสวมใส่ อยากให้เสื้อผ้าที่ออกแบบโดนก๊อปปี้ แต่พอเวลาผ่านมา 10 กว่าปี รู้สึกว่าการทำงานมีคุณค่ากับสังคม
“ส่วนตัวไม่ได้มองตัวเองว่า เราเป็นดีไซเนอร์เสื้อผ้า แต่มองตัวเองว่าเป็นนักคิดนักฝันที่สามารถสร้างประโยชน์ให้ผู้อื่นได้ ทุกครั้งเวลาขึ้นเครื่องบิน ไปทำธุรกรรมที่ธนาคาร ไปโรงพยาบาลเห็นคุณหมอ พยาบาล หรือไปเดินห้าง แล้วเจอพนักงานต่างๆ สวมใส่เสื้อผ้าที่เราออกแบบ เหมือนฝันที่เป็นจริงเลยนะครับ”

แม้จะอยู่ในจุดที่ทุกคนต่างบอกว่า ‘เป็นแบรนด์ไทยดีไซเนอร์ที่ประสบความสำเร็จมากๆ ’ แต่ดีไซเนอร์แห่ง ASAVA Group ยืนยันว่า “เรายังต้องพัฒนาตัวเองอยู่เรื่อยๆ ให้วิธีคิดชัดเจนมากขึ้นและสามารถต่อยอดให้กลายเป็นสิ่งที่มีคุณค่ากับคนในสังคมต่อไปอีก ซึ่งเป็นความฝันที่ไม่มีวันจบ เพราะตัวเองไม่เคยหยุดฝันได้เลยจริงๆ ”
ด้วยเหตุนี้ จึงไม่แปลกที่ ‘Uniform by ASAVA’ จะได้รับความไว้วางใจจากองค์กรต่างๆ ในการออกแบบเครื่องแต่งกายให้ ไม่ว่าจะเป็น แสนสิริ, เมืองไทยประกันชีวิต, โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ (Sindhorn Kempinski Hotel Bangkok), ดีแทค (Dtac), ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารไทยพาณิชย์, Singha, Andaz Pattaya และล่าสุดกับผลงานการออกแบบยูนิฟอร์มของพนักงานศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ที่ถ่ายทอดแรงบันดาลใจภายใต้แนวคิด “สืบสาน รักษา ต่อยอด”

ยิ่งไปกว่านั้น สำนักพิมพ์ Condé Nast Traveler ยังได้ยกย่องให้ Uniform by ASAVA เป็นหนึ่งในยูนิฟอร์มระดับโลกเคียงคู่ไปกับผลงานจาก Yves Saint Laurent และ Christain LaCroix ในบทความชื่อ “7 Flight Attendant Uniforms That Make Fashion Statements” โดยคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 7 ชุดพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินที่มีความสวยงามและโดดเด่นมากที่สุดอีกด้วย