‘ฟลุค วรวุฒิ – ปิ๋ม ณัฐปรี’ อัพเดตชีวิตหลังแต่งงานพร้อมตอบคำถามเรื่องทายาท

อีกหนึ่งคู่หวานที่ร่วมแบ่งปันเรื่องราวราวแห่งความรักในบทสัมถาษณ์ ‘Power of Love’ นิตยสาร HELLO! ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ 2565 คือคู่ชีวิตอย่าง ‘ฟลุค-วรวุฒิ อัจฉริยศรีพงศ์’ และ ‘ปิ๋ม-ณัฐปรี พิชัยรณรงค์สงคราม’ ที่อัพสถานะมาเป็น ‘คู่สามี-ภรรยา’ หลังเข้าพิธีหมั้นและแต่งงานกันแบบเรียบง่ายเมื่อปี 2563 แม้ด้วยสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ยังไม่ได้จัดงานฉลอง แต่ความหวานของทั้งคู่ทำให้ HELLO! ไม่พลาดอัพเดตชีวิตหลังแต่งงานและนำหลักการครองชีวิตคู่มาให้แฟน ๆ ติดตาม

จาก ‘คนรัก’ และวันนี้กลายเป็น ‘คู่สามีภรรยา’ คุณฟลุคบอกว่า “สำหรับตัวเองไม่ได้มีความรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงจากวันแรกที่เรารู้จักกัน เป็นแฟนกัน จนมาแต่งงานกัน เพราะเรายังคงมีกันและกันสองคน ดูแล เอาใจใส่กันเหมือนเดิม อีกอย่างเราสองคนเป็นตัวของตัวเองกันตั้งแรกแรก จึงไม่ได้มีอะไรแตกต่างมากนัก แต่วันหนึ่งถ้าเรามีลูก ผมคิดว่าความเปลี่ยนแปลงน่าจะเกิดขึ้น ด้วยความรับผิดชอบต่าง ๆ ที่มากขึ้น”

ขณะที่คุณภรรยาขอเพิ่มเติมสิ่งที่แตกต่างหนึ่งอย่าง คือทั้งคู่ทำตัวสบาย ๆ กันมากขึ้น จากเมื่อก่อนตอนเป็นแฟน เวลาเลิกงานกันเสร็จต้องไปเจอกัน ไปกินข้าวด้วยกัน กว่าจะกลับบ้านก็ดึกดื่น “ถือเป็นช่วงเวลาที่เรามีความสุขกันมากเลยนะคะ แต่แค่รู้สึกเหนื่อย เพราะต่างคนต่างกันทำงานหนักมาทั้งวันแล้ว พอตอนนี้เราย้ายมาอยู่ที่บ้านด้วยกัน เลิกงานเสร็จ ก็ตรงกลับบ้านกันเลย ไปใช้เวลาอยู่ที่บ้าน กินข้าว ดูหนัง ฟังเพลง และก็พักผ่อน สร้างเวลาที่มีคุณภาพร่วมกัน เป็นการใช้ชีวิตคู่ด้วยกันจริง ๆ ค่ะ”

เมื่อถามถึงการมีทายาท ทั้งคู่บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า “ไม่ใช่เรื่องที่พวกเราซีเรียสกันเลย เพราะคิดว่าทุกอย่างจะมีจังหวะของมันเอง ฉะนั้นจึงปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติที่สุด และช่วงนี้ก็ใช้ชีวิตในแบบคู่ชีวิตสองคนกันไป ดูแลกันไป แต่เมื่อไหร่ที่พร้อมมีทายาท ก็ถือเป็นของขวัญพิเศษให้กับเราสองคน”

คุณฟลุคบอกว่า “ด้วยความที่เราได้ใช้เวลาในการศึกษาและเรียนรู้กันมาในระยะหนึ่ง เราจึงได้รู้ว่าเขาเป็นคนแบบไหน นิสัยเป็นยังไง ชอบหรือไม่ชอบอะไร แล้วเราก็พยายามเปิดใจรับฟังซึ่งกันและกัน มองทุกอย่างให้เป็นชีวิตจริง คู่ชีวิตที่เราตัดสินจะใช้ชีวิตร่วมกัน ต้องมีอะไรคล้ายๆกัน เพราะบางครั้งถ้าคนสองคนแตกต่างกันมากๆ อาจจะต้องใช้เวลาในการปรับจูนเข้าหากันมากพอสมควร แต่สำหรับคู่ของเราที่ไม่ค่อยได้ต่างกันมากนัก ทุกอย่างจึงดูเข้ากันได้ง่าย”

เช่นเดียวกับคุณปิ๋มที่บอกว่า “เมื่อก่อนที่เรายังไม่มีใคร เราอาจจะใช้ชีวิตเพื่อตัวเราเอง เพื่อครอบครัวเรา แต่พอแต่งงาน มาใช้ชีวิตคู่ เราก็ต้องไม่คิดถึงแค่ตัวเองอย่างเดียวแล้ว เราต้องคิดถึงคู่ชีวิตของเราด้วย แคร์ความรู้สึกของกันและกัน ดูแลใส่ใจกันมากขึ้น แม้แต่จะกินอะไร ก็ต้องคิดว่า เขาได้กินอะไรหรือยัง จะหิวไหม ซึ่งหลายคนอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับปิ๋มคิดว่าเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจกัน แม้จะเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ส่วนปัญหาอะไรที่ปล่อยผ่านได้ ก็จะพยายามไม่เก็บมาใส่ใจ เมื่อเทียบกลับสมัยก่อนปิ๋มอาจจะหงุดหงิดง่าย พอมาอยู่กับพี่ฟลุ้คก็ใจเย็นขึ้น

“ทุกครั้งที่โกรธหรือโมโหกับเรื่องใด ๆ ก็ตาม ปิ๋มจะถามตัวเองเสมอว่า ‘ถ้าเราเป็นเขา เราจะรู้สึกอย่างไร’ คือควรเอาใจเขามาใส่ใจเราให้มาก ๆ ทำให้เราไม่ค่อยทะเลาะกันเลย อีกอย่างพี่ฟลุคชวนปิ๋มเข้าสู่โลกของธรรมะ ได้เริ่มนำมาปฏิบัติกับชีวิตประจำวันบ้าง ยิ่งทำให้ปิ๋มมีสติยั้งคิดมากกว่าเดิมด้วยค่ะ”

_{คุณปิ๋มเล่า}

นับเป็นอีกหนึ่งคู่ที่น้อมนำหลักธรรมะมาปรับใช้ในการครองชีวิตคู่ แต่เรื่องราวความรักระหว่าง ‘ฟลุค-วรวุฒิ อัจฉริยศรีพงศ์’ และ ‘ปิ๋ม-ณัฐปรี พิชัยรณรงค์สงคราม’ ตั้งแต่จุดเริ่มต้นจะเป็นอย่างรไ สามารถติดตามแบบเต็ม ๆ ได้ในนิตยสาร HELLO! ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ 2565 วางแผงแล้ววันนี้! หรือสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ shop.burdathailand.com