เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ไม่มีใครไม่พูดถึงงานวิวาห์ของของ ปอย – ตรีชฎา เพชรรัตน์ และ โอ๊ค – บรรลุ หงษ์หยก ด้วยสตอรี่ของทั้งเจ้าบ่าว-เจ้าสาว และดีเทลงานแต่งที่ถูกจัดขึ้นตามประเพณีดั้งเดิมของชาวเปอรานากัน ความวิจิตรงดงามของเครื่องแต่งกาย ข้าวของเครื่องใช้ อันเกิดขึ้นจากทั้งศิลปินรุ่นใหม่และช่างหัตถศิลป์โบราณ รวมไปถึงสถานที่ที่มีประวัติศาสตร์มายาวนานอย่างบ้านอาจ้อ ซึ่งเรื่องราวความรักของทั้งคู่ เป็นที่ทราบดีของหลายคนว่าในอดีตคุณปอยและคุณโอ๊คเคยเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องที่โรงเรียนเดียวกันมาก่อน ทว่าทั้งคู่กลับมาพบรักและสานสมพันธ์กันได้อย่างไร HELLO! นำบทสัมภาษณ์ของคุณปอยในนิตยสาร HELLO! VOL.18 NO.5 มาให้ติดตามกัน
READ: เปิดรายละเอียด พิธีแต่งงานบาบ๋า ‘ปอย-ตรีชฎา’ และ ‘โอ๊ค-บรรลุ หงษ์หยก’

“พี่โอ๊คสมัยเด็กหรือคะ จำได้เป็นภาพลางๆ มากกว่าว่า เขาตั้งใจเรียน แตกต่างจากปอยที่เป็นเด็กซน น้องชายพี่โอ๊คที่เป็นเพื่อนเราก็เป็นเด็กซน” คุณปอยเริ่มต้นเล่าถึงภาพจำตั้งแต่สมัยรู้จักกันสมัยยังเป็นนักเรียนระดับมัธยมศึกษา โรงเรียนเดียวกัน โดยคุณโอ๊คเป็นพี่ชายของเพื่อนสนิทคุณปอย และเป็นเรื่องปกติที่เด็กซนกับเด็กเรียนก็จะไม่แฮงเอาต์กันเลย ขอย้ำไม่เลย เพราะบรรยากาศมันคงไม่ต่างจากไปนั่งหาวกินดาวกินเดือนอยู่ในห้องกวดวิชา และพอคุณปอยอายุ 18 ปี เธอก็โด่งดังเป็นที่รู้จักของคนทั้งประเทศ ก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงเต็มตัว จากนั้นก็ไปมีชีวิตโลดแล่นอยู่ในวงการภาพยนตร์ของฮ่องกง ร่วมงานกับนักแสดงมีชื่ออย่าง จางเจียฮุย กู่เทียนเล่อ และหลิวชิงหวิน
กระทั่งสองปีก่อน พี่ชายคุณโอ๊คได้ติดต่อคุณปอยในนามของมูลนิธิบ้านอาจ้อเพื่อชวนเธอมาร่วมกิจกรรมส่งเสริมวัฒนธรรมเปอรานากันของจังหวัดภูเก็ตและช่วยเหลือเด็กอันเป็นปณิธานของมูลนิธิบ้านอาจ้อ เดิมทีบ้านอาจ้อเป็นบ้านของหลวงอนุภาษภูเก็ตการ ซึ่งเป็นบรรพบุรุษฝ่ายเจ้าบ่าว คุณโอ๊คเป็นทายาทรุ่นที่ 4 ของท่าน ตัวบ้านตั้งอยู่บนเนื้อที่ 80 ไร่ พร้อมขุนน้ำ สนามหญ้า และสวนมะพร้าว สร้างมาตั้งแต่ปี 1936 ปัจจุบันได้ปรับเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์กึ่ง ๆ ร้านอาหารและร้านกาแฟ (คนละหลังกับบ้านประจำตระกูลหงษ์หยกที่คู่บ่าวสาวทำพิธีไหว้ฟ้าดินและยกน้ำชา)

เมื่อคุณปอยตอบตกลงที่จะช่วยงานมูลนิธิบ้านอาจ้อ “ปอยก็เล่าให้เพื่อนปอยฟัง เพื่อนบอก ‘รู้จักพี่โอ๊คไหม พี่โอ๊คน่ารักมากเลยนะ’ ‘รู้จัก แต่ไม่เคยสัมผัสได้ในความน่ารัก ปอยไม่สนิท’ ปอยรู้มีผู้ชายคนนี้อยู่ในจังหวัดภูเก็ต และเราเป็นเพื่อนกันในเฟสบุ๊กด้วย แต่เมื่อไรและทำไมจำไม่ได้”
“วันนั้น เลยเปิดดูเฟสบุ๊กพี่โอ๊ค” เสียงคุณปอยหัวเราะปนเขิน “นั่งดูไป ก็รู้สึกว่า ผู้ชายคนนี้ติดดินและเป็นธรรมชาติ”
และนั่นเตือนเธอให้นึกถึงการใช้ชีวิตที่เรียบง่าย ซึ่งเธอคิดมาสักพักแล้ว “ปอยยอมรับว่า เคยเป็นคนที่ complicated มากในอดีต คือเยอะไปหมดทั้งไลฟ์สไตล์ ชีวิตทางสังคม ต่าง ๆ นานา และในวันหนึ่งที่ได้มีเพื่อนและมีสังคมที่ไม่ได้เป็น somebody ทุกคนเป็น nobody ก็ทำให้เรารู้สึกว่า ชีวิตมันง่ายกว่าที่เราคิดเยอะ”
“และปอยเองก็คงถึงจุดอิ่มตัวของการทำงานในวงการบันเทิง เราเคยเป็นคนที่อยู่ในสปอตไลต์และ extrovert ออกสังคม เพื่อนเยอะ เราใช้ชีวิตอยู่บนความคาดหวังของคนทั่วไปบนโซเชียลมีเดีย รู้สึกเหนื่อย เราเริ่มไม่อยากใช้ชีวิตอยู่บนความคาดหวัง และต้องยอมรับว่า คนที่คบก่อนหน้าคุณโอ๊คก็เป็น somebody การที่ใครคนใดคนหนึ่งเป็นบุคคลที่คนรู้จัก มันจะมีภาระบางอย่างเกิดขึ้นมาโดยที่เราไม่รู้ตัวปอยเปลี่ยนมาเป็นคนที่ introvert โหยหาความเรียบง่ายมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว มารู้ตัวก็ตอนทำแบบทดสอบบุคลิกภาพเมื่อ 4 ปีก่อน”

เมื่อร่วมงานกับมูลนิธิบ้านอาจ้อ คุณปอยก็มีโอกาสเจอคุณโอ๊ค เธอบอก “เหมือน Love at first sight คนเราพอรู้สึกชอบกัน เวลาเจอกันมันจะรู้สึกกันได้เลยค่ะ โดยที่ยังไม่ต้องบอก และคุณโอ๊คก็ไม่ใช่คนที่เยอะ เขาก็จะไม่เล่นเกมส์อะไรกับปอย เวลาเขาชอบเรา เขาก็แสดงออกเลยว่า เขาชอบเรา ในการแสดงความตั้งใจที่จะคบกัน ก็ดูลึกซึ้งและจริงใจในแบบที่ปอยไม่เคยพบเจอ”
ไม่นานคุณโอ๊คก็สารภาพว่า “เขารู้สึกอินกับความสัมพันธ์นี้” คุณปอยเล่า “เขามีความกลัวและเกรงใจปอยว่า จะรับเขาได้ไหม ในความที่เขาเป็นคนเรียบง่าย เราดูอยู่กันคนละไลฟ์สไตล์กับเขา พอเขายิงคำถามปลายเปิดแบบนี้ ปอยก็เตรียมน้ำดื่ม 2 ลิตร นั่งคุยกับเขาที่ระเบียงคอนโดเกือบ 2 ชั่วโมง ปอยตอบคำถามเขาทุกข้อ และบอกเขาตรง ๆ ว่า ถ้าเขาคบกับปอย เขาจะเจอเหตุการณ์แย่ ๆ อะไรได้บ้าง พูดถึงสิ่งแย่ ๆ ที่ต้องเผชิญถ้าคบกัน และถ้าเขาไม่คิดจะคบปอยจริงจัง มันไม่ง่ายนะ และปอยเองก็ไม่พร้อมที่จะมีความสัมพันธ์ที่ไม่จริงจัง คุณโอ๊คยืนยันว่า เขาจริงจัง”
และสิ่งหนึ่งที่คุยกันบนระเบียงคอนโด “ปอยไม่เชื่อว่า จะมีอะไรที่มั่นคงถาวรหรือ last long และนี่เป็นความจริงที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ เป็นสัจธรรมของชีวิตที่ใช้ได้กับทุกอย่าง ไม่ใช่แค่เรื่องความสัมพันธ์แม้แต่ในเรื่องการทำธุรกิจ อาชีพ หรืออะไรก็แล้วแต่ทุกอย่างมีขึ้นมีลง ไม่มีอะไร last long ซึ่งคุณโอ๊คก็เห็นด้วย เขารู้ว่า ไม่มีอะไร last long แต่เราสามารถบริหารจัดการและทำให้มันดีถึงจะไม่ดีที่สุด ใครพูดคำว่า ดีที่สุด นั่นคือประมาทแล้ว แต่ให้ทุกอย่างเบนเข็มไปในทางฝั่งดี ก็โอเคแล้วไหม ซึ่งปอยก็โอเคเหมือนกัน”
“ในอนาคต เราตอบไม่ได้ว่า เราจะเป็นอย่างไร แต่ในวันนี้ เรามีทางเดิน 2 ทาง คือปฏิเสธ หรือเดินไปด้วยกันต่อ ถ้าเราปฏิเสธ เราคงยังรักกันไม่มากพอหรือมีความพยายามไม่มากพอ และถ้าเรารักไม่มากพอ ความพยายามก็จะไม่เกิดขึ้น ความพยายามที่จะรับฟัง และช่วยกันบริหารจัดการความสัมพันธ์ให้ไปด้วยกัน ไม่ว่าปอยยกเหตุการณ์แย่ๆ อะไรขึ้นมาคุยในวันนั้น วิธีการจัดการปัญหาของเขาจะเรียบง่าย แก้ปัญหาได้จริง และจับต้องได้ ตอบโจทย์อยู่บนความเป็นจริง ปอยรู้สึกดีใจ มันเหมือนเส้นผมบังภูเขา เราเป็นคนที่มองโลกในแง่ร้าย และคิดแทนคนอื่นตลอดเวลา ทั้งที่จริงแล้ว ถ้าเราจับมือกัน และเรามีความมั่นคงทางด้านจิตใจ ไม่มีวาระซ่อนเร้นอะไรใด ๆ คนที่จับมือกับเรา เขาจะไม่กลัวที่จะก้าวไปเจออะไรพร้อมกับเรา”

แล้วคุณโอ๊คก็แสดงให้คุณปอยเห็นว่า ‘เขาไม่กลัวที่จะก้าวไปเจออะไรพร้อมกับเรา’ ก็เมื่อเธอติดโควิด
“พี่โอ๊คดูแลปอยอย่างดี เขาบอก เขายอมติดโควิดพร้อมปอย จะได้ดูแลกันครั้งเดียว ไม่ต้องแยกกันเป็นหลายครั้ง ปอยมีเพื่อนที่เป็นคุณแม่ ลูกสาวเขา 4 ขวบติดโควิด แม่ยอมติดด้วยเพื่อจะได้อยู่กับลูกมันเป็นความรักที่….” คุณปอยเงียบไป ก่อนบอกว่า “วันนั้นถามปอย ปอยยังไม่รู้ว่าทำได้อย่างพี่โอ๊คไหม”
พี่โอ๊คเป็นคนที่ปอยมองหาเกือบทุกอย่างค่ะ”
ปอย – ตรีชฎา เพชรรัตน์

แม้ว่าต่างคนต่างแน่ชัดในความรู้สึก แต่ใช่ว่าไม่ต้องปรับตัวเข้าหากัน ติดตามการปรับตัวเข้าหากันของ ‘สาวไลม์ไลต์กับหนุ่มดีไอวาย’ พร้อมซูมดีเทลงานแต่งแบบเอ็กซ์คลูซีฟได้ในนิตยสาร HELLO! VOL.18 NO.5 วางแผงแล้ววันนี้!