เผยเเนวคิด ‘คุณลลิตภัทร ธรณวิกรัย’ นำทัพ SCB Private Banking และ SCB Julius Baer เดินหน้าเติบโตอย่างยั่งยืน
ทุกวันนี้มีเทรนด์ใหม่ ๆ เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา เช่นเดียวกับเทรนด์ทางสถานบันการเงิน อย่าง ธุรกิจไพรเวทแบงก์กิ้งในประเทศไทย ซึ่งเป็นตลาดที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว เเละเป็นตลาดที่มีการเเข่งขันสูงทั้งจากสถาบันในไทยเเละต่างประเทศ เนื่องจากเป็นตลาดที่มีศักยภาพ และนักลงทุนไทยส่วนใหญ่ยังคงให้ความสำคัญกับการลงทุนในประเทศ มากกว่าการลงทุนในต่างประเทศ จึงเป็นอีกหนึ่งความท้าทายของ คุณแป๋ม-ลลิตภัทร ธรณวิกรัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ จำกัด ควบคู่กับตำแหน่ง รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Private Banking ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
คุณเเป๋มเป็นผู้คร่ำหวอด ในแวดวงการเงินการธนาคารทั้งในและต่างประเทศ ที่มีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญสูง ในการบริหารความมั่งคั่งให้กับลูกค้าที่มีความมั่งคั่งระดับสูง (High Net Worth และ Ultra High Net Worth) ของประเทศมามากกว่า 20 ปี จนเป็นที่ยอมรับในระดับสากล นอกจากนี้ยังเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจ SCB PRIVATE BANKING มาตั้งแต่แรกเริ่ม ซึ่งคุณแป๋มจะดูแลลูกค้าเสมือนคนในครอบครัว เป็น Thought Partner ให้กับลูกค้าในทุกช่วงจังหวะของชีวิต เพื่อการเติบโตอย่างมั่งคั่งและยั่งยืน ทั้งทางด้านธุรกิจและพอร์ตการลงทุน
ในส่วนของ SCB PRIVATE BANKING คุณแป๋มเล่า ให้ฟังว่าเป็นแบรนด์ที่สร้างกันมานานกว่ากว่า 10 ปี โดยจะเน้นการลงทุนในประเทศเป็นหลัก ในการสร้างผลตอบแทนให้กับกลุ่มลูกค้า High Net Worth และ Ultra High Net Worth ที่มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร 50 ล้านบาทขึ้นไป พร้อมดูแลลูกค้าแบบ Exclusive ใส่ใจในทุกรายละเอียดด้านการลงทุน รวมถึงการเข้าใจความต้องการของลูกค้า เพื่อสร้างผลตอบแทนให้งอกเงย
นอกจากนี้ยังเปิดกว้างด้านการลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น เมื่อเห็นว่าเม็ดเงินของลูกค้าเติบโต จนการลงทุนในประเทศอาจไม่เพียงพอในการสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับลูกค้า จึงนำมาสู่การเกิด บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จูเลียสแบร์ โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อบริหารความมั่งคั่งให้กับกลุ่มลูกค้าที่มีความมั่งคั่งระดับสูง ที่มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร 100 ล้านบาทขึ้นไป ที่ต้องการเน้นลงทุนในต่างประเทศผ่านผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพระดับสากลจากธนาคารจูเลียส แบร์ ซึ่งการลงทุนในต่างประเทศ เป็นการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีคุณภาพให้มีความหลากหลายมากขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับพอร์ตการลงทุนในการกระจายความเสี่ยง และเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดี

ความต่างในการบริหาร SCB PRIVATE BANKING กับ SCB Julius Baer
เรียกได้ว่าทั้ง เอสซีบี ไพรเวทแบงก์กิ้ง เเละ เอสซีบี จูเลียส แบร์ เป็น 2 เเบรนด์สำคัญที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง มาดูกันว่าความเเตกต่างในการบริหารจะมีความต่างหรือเหมือนกันอย่างไร จาก คุณเเป๋ม-ลลิตภัทร ธรณวิกรัย ผู้อยู่เบื้องหลังทุกช่วงเวลาในการก้าวข้างหน้าไปของ เอสซีบี ไพรเวทแบงก์กิ้ง เเละ เอสซีบี จูเลียส แบร์
การจัดการจะมีความต่างกันตรงที่ SCB PRIVATE BANKING เป็นธุรกิจที่โตมาด้วยกัน 10 กว่าปีแล้ว จึงเน้นการดูเเลสำหรับการขยายฐานลูกค้า ทำอย่างไรให้ลูกค้าอยู่ด้วยแล้วจะ Happy อีกทั้งมีทีมงานที่คุ้นชินรู้จักลูกค้าเป็นอย่างดี เป็นการบริหารธุรกิจที่เริ่มเสถียร โดยการดูแลลูกค้าจะเริ่มจากการทำความเข้าใจวัตถุประสงค์ในการลงทุนของลูกค้า ตระหนักถึงความเสี่ยงที่ลูกค้ายอมรับได้ และนำมาวางแผนสร้าง Medium to Long Term Investment Portfolio ตลอดจนคัดสรร Investment Solutions ที่เหมาะสม เพื่อสร้างการเติบโตให้กับพอร์ตการลงทุนของลูกค้าอย่างต่อเนื่องในทุกช่วงเวลา
นอกจากนี้ลูกค้ายังสามารถเลือกลงทุนเพิ่ม ผ่านการลงทุนที่เพิ่มพลังเงินลงทุน(Leveraged Investment)ในสินเชื่อเพื่อการลงทุน เช่น Lombard Loan และ Property Backed Loan ซึ่งเป็นตัวช่วยที่เหมาะสม และสามารถทำให้นักลงทุนสามารถบรรลุเป้าหมายของการลงทุนได้รวดเร็วขึ้น โดยนักลงทุนสามารถนำสินทรัพย์ทางการเงินที่มีความต้องการในตลาด หรือนำอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่ดินหรือที่อยู่อาศัย ซึ่งปลอดภาระมาเป็นหลักประกันจดจำนอง เพื่อที่จะได้รับวงเงินสำหรับการลงทุนในสินทรัพย์ลงทุนหลากหลายประเภท ได้แก่ หุ้นกู้ หุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ รวมทั้งกองทุนรวมทั้งในและต่างประเทศตามความเสี่ยงที่ลูกค้ายอมรับได้ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดของทีมที่ปรึกษาการลงทุน เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับพอร์ตลงทุน
สำหรับในส่วนของ SCB Julius Baer นั้นจะเป็นกลุ่มลูกค้า High Net Worth และ Ultra High Net Worth ที่เน้นลงทุนในต่างประเทศผ่าน Julius Baer Global Platform โดยมีทีมที่ปรึกษาการลงทุนที่ดูแลเฉพาะกลุ่มลูกค้าดังกล่าว แต่ทั้งนี้ หากลูกค้า SCB PRIVATE BANKING ที่สนใจลงทุนในต่างประเทศก็สามารถลงทุนผ่าน SCB Julius Baer ได้
ดังนั้นการดูแลทั้ง 2 แบรนด์ นับเป็นการต่อยอดการบริหารเงินลงทุนให้กับกลุ่มลูกค้า High Net Worth และ Ultra High Net Worth ให้มีทางเลือกในการลงทุนเพิ่มมากขึ้นทั้งในและต่างประเทศผ่านผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารเงินระดับสากล ซึ่งนอกเหนือไปจากการดูแลในเรื่องของการลงทุนแล้ว เรายังสามารถดูแลการต่อยอดการบริหารธุรกิจของลูกค้าบนโดย Leverage บน SCB Financial Business Group ทั้งในเรื่องของ Corporate Banking และ Investment Banking Solutions


พุ่งชนเป้าหมายและฝ่าวิกฤติด้วย Passion และ 7 Habits
เเละเเล้วก็มาถึงหัวใจสำคัญของการเติบโตอย่างไม่หยุดยั้งของ เอสซีบี ไพรเวทแบงก์กิ้ง เเละ เอสซีบี จูเลียส แบร์ โดยคุณแป๋ม เล่าให้ฟังว่า การดำเนินธุรกิจใหม่ๆ ต้องบอกว่า Passion และ Belief เป็น 2 สิ่งที่สำคัญมาก เพราะถ้าเรามี Passion ก็จะทำให้เรามีความเชื่อในสิ่งที่เราทำและยังอาศัยหลักการแห่ง 7 habits หรืออุปนิสัยการเรียนรู้ไม่สิ้นสุด 7 ประการที่นำมาใช้ขับเคลื่อนธุรกิจ
หลักการเริ่มต้นของ 7 habits บอกไว้ว่า begin with the end in mind นั่นหมายถึง เราอยากเห็นภาพจบในแต่ละเฟสเป็นอย่างไร เพราะฉะนั้นก่อนลงมือทำอะไร เราต้องเห็นภาพของความสำเร็จ แล้ว work back กลับมาว่าต้องดำเนินการแบบไหน เพื่อไปสู่เป้าหมายนั้น อันนี้น่าจะเป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับการทำงานเพื่อบรรลุเป้าหมายของตัวเอง
ส่วนความท้าทายบนเส้นทางนักบริหารในธุรกิจไพรเวทแบงก์กิ้งที่เป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศไทยนั้น คุณแป๋มกล่าวย้ำว่าในโลกทุกวันนี้ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตลอดเวลา ทักษะการ Unlearn หรือการไม่ยึดติดกับกรอบความรู้เดิม ๆ และพร้อมที่จะ Relearn เรียนรู้สิ่งที่เราเคยเรียนรู้อยู่เเล้วด้วยมุมมองใหม่ ๆ เป็นทักษะที่สำคัญและจำเป็น
ทุกวันนี้เราทำงานกับลูกค้าที่ประสบความสำเร็จแล้วทุกคน เพราะฉะนั้น เราต้องตอบคำถามให้ได้ว่า Value Added ของเราคืออะไร ทำไมเขาต้องเชื่อในคำแนะนำของเรา ซึ่งปกติลูกค้ากลุ่มมั่งคั่งระดับสูง เขาก็จะมีการจัด Asset Allocation ของสินทรัพย์อยู่แล้ว ดังนั้น เราต้องเเสดงให้เห็นว่า ธุรกิจไพรเวทแบงก์กิ้งมีความสำคัญอย่างไร ซึ่งอาชีพของเราเป็น Specialist ด้านการบริหารเงิน ในพื้นที่นี้เรามีความรู้มากกว่าลูกค้า พร้อมที่จะเป็น Thought Partner ของลูกค้า ดังนั้น Value Creation ของเราคือ ทำอย่างไรให้ลูกค้ามีสินทรัพย์ที่เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีโครงสร้างธุรกิจที่แข็งแกร่ง และตอบโจทย์ในเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตลูกค้า ธุรกิจไพรเวทแบงก์กิ้งไม่ได้เน้นแค่การลงทุนเพียงช่วงใดช่วงหนึ่ง แต่เราเน้นการบริหารจัดการการลงทุนระยะยาวตลอด Life Stage ของลูกค้า และนั่นทำให้การอยู่ในธุรกิจนี้จะต้องไม่หยุดคิด ต้องสร้าง Value Creation ให้ลูกค้าอยู่เสมอ

และทั้งหมดนี้คือ บทบาทการเป็นแม่ทัพหญิง คุณแป๋ม-ลลิตภัทร ธรณวิกรัย ในการบริหาร Private Banking Segment ที่กำลังได้รับความนิยม ด้วยการนำทีมสร้างการเติบโตในธุรกิจบริหารความมั่งคั่งระดับสูงให้กับลูกค้าในประเทศไทย โดยมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารกว่า 9 แสนล้านบาท ที่มุ่งมั่นในการดูแลลูกค้า ตอบทุกโจทย์การลงทุนของลูกค้า เน้นการสร้างผลตอบแทนที่ดีอย่างยั่งยืน เพื่อให้ลูกค้าเติบโตไปด้วยกัน