คุณภู่-วชิระมณฑ์ คุณะเกษมธนาวัฒน์ กล่าวว่าเขาจะอยู่หน้าสื่อก็ต่อเมื่อมีเรื่องจะพูด และกับ HELLO! เขาก็มีเรื่องมากมายจะพูดถึงมารดาหรือ ‘มณี’ ของบ้านซึ่งคนรู้จักกันทั้งบ้านทั้งเมืองว่าคือคุณสุมณี คุณะเกษม
“ผมอยากให้คุณแม่เห็นผมเป็นเด็กเล็กๆ ในสายตาเสมอ คุณแม่จะได้รักและเป็นห่วงผมตลอดไป” ประโยคสุดประทับใจที่เขาบอกให้เราฟัง
“คุณแม่ดิฉัน (คุณหญิงสุภัทรา จงเจริญ) เป็นลูกสาวคนเดียว ดิฉันก็เป็นลูกสาวคนเดียว ภู่ก็เป็นลูกคนเดียวอีก” คุณสุมณีนึกแล้วก็เห็นขำที่ครอบครัวของเธอประวัติศาสตร์ซ้ำรอยมา 3 ชั่วอายุคน “จริงๆ แล้วดิฉันกับคุณประชาอยากได้ลูกสาว ตอนภู่เกิดพอพื้นดิฉันถามพยาบาลว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย พอบอก ‘ชาย’ ดิฉันร้อง ‘ว้า!’ (หัวเราะ) แล้วสลบต่อ ภู่เขาก็รู้ค่ะ
“ตอนเด็กๆ ภู่น่ารัก รูปหล่อด้วย ตอนที่ดิฉันจะหมั้น จอมพล ถนอมกับท่านผู้หญิงจงกล กิตติขจรมาเป็นเถ้าแก่ฝ่ายคุณประชา พระองค์เจ้าธานีนิวัตทรงเป็นเถ้าแก่ฝ่ายหญิง ตอนภู่เกิดท่านผู้หญิงเลยมาเยี่ยม พอเห็นภู่ท่าน ก็ร้องเฮ้ย! ทำไมหน้าเป็นเด็กฝรั่ง ผมก็ สีอ่อน ตาก็ดูเป็นสีฟ้าๆ ด้วย คุณประชาชักจะหันมามองหน้าแปลกๆ”
คุณภู่เล่าวีรกรรมด้านอาหารของมารดาอย่างปลื้มๆ ว่า “ตั้งแต่เด็กๆ ผมไม่เคยทานอาหารขวดสำเร็จรูป คุณแม่แบ่งเวลาทำอาหารให้ผมทุกมื้อ ท่านกลัวว่าอาหารสำเร็จจะไม่สะอาด กลัวจะได้กินอาหารที่ไม่ได้ทำให้สุขภาพดี คุณแม่เป็นคนแนะนำให้ผมรู้จักอาหาร ออร์แกนิกตั้งแต่ผมอยู่นิวยอร์ก ก็เท่ากับ 30 – 40 ปีก่อนนู้นเลย เรายังเด็กก็ไม่เข้าใจว่านี่มันอาหารอะไร เหม็นเขียว หน้าตาเหมือนอาหารนก ส่วนคุณพ่อพูดว่า ‘อะไรเนี่ยเธอ เอาอะไรมาให้กิน’ พอโตมานี่สิ โอ้โฮ คุณแม่เราล้ำมาก”
คุณภู่ดูจะพอใจที่เห็นมารดามีงานให้ทำล้นมือ ยิ่งกว่าสมัยคุณแม่ยังสาวเสียอีก “ผมพยายามจะช่วยงานคุณแม่ไม่มาก (ยิ้ม) เพราะอยากให้คุณแม่แอ็กทีฟ ถ้าผู้ใหญ่ยังทำงานแอ็กทีฟอยู่ก็จะแข็งแรง ทุกวันนี้คุณแม่ก็เลยยังทำงานเหมือนเดิม”
“ลูกบ้านอื่นมักจะพูดว่าพ่อแม่อายุมากแล้ว อยากให้วางมือ นั่นคือคิดผิดมาก คนเรา ต้องแอ็กทีฟครับ ยิ่งถ้าใครรู้สึกหมดคุณค่าจะหมดพลังชีวิตไปเลย แต่คุณแม่ยังมีคนมาพบ ได้ทำงาน มีงานอดิเรก ไปเต้นรำ
“เวลามองคุณแม่ ท่านมีอะไรมาเซอร์ไพรส์ผมเรื่อย คุณแม่เป็นสายครีเอทีฟ เป็นศิลปิน ตอนเด็กๆ ผมไม่เข้าใจ ทำไมคุณแม่จุกจิกจัง แต่เรื่องรายละเอียดนี่แหละคือสิ่งสำคัญ ผมเลยชื่นชมกับความเป็นคุณแม่มาก อีกเรื่องที่รู้สึกขอบคุณมากคือ ตอนผมอายุ 10 ขวบ คุณแม่มาชักชวนให้ผมเรียนเทควันโด ผมก็ไปเรียนจนได้สายดำในรุ่นเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ซึ่งก็ได้ใช้จริงๆ เด็กมันเกเรครับ เขาเข้ามาจะทำร้าย ก็ตามชื่อครับ ศิลปะป้องกันตัว เราก็ป้องกันตัว ทุกวันนี้ผมเห็นญาติๆ ที่มีลูก ยังบอกเลยว่านี่ไม่คิดจะให้ลูกเรียนศิลปะป้องกันตัวกันบ้างหรือ ยุคนี้น่ากลัวยิ่งกว่ายุคฉันอีก”
และเมื่อถามว่าตอนนี้คุณสุมณีห่วงอะไรในตัวลูกชายมากที่สุด เธอบอกว่า “ตอนนี้เป็นห่วงสุขภาพภู่ที่สุด นี่คือห่วงเดียวในชีวิตนี่ยังห่วงอยู่ อย่างอื่นดิฉันไม่ห่วงแล้วค่ะ”
ติดตามได้ในนิตยสาร HELLO! ปีที่ 15 ฉบับที่ 07 ประจำวันพฤหัสบดีที่ 6 สิงหาคม 2563
หรือดาว์นโหลดฉบับดิจิตอลได้ที่ www.ookbee.com , www.shop.burdathailand.com