Home > Celebrity > Exclusive Interviews > The Young Achievers : วิศวกรหญิงแกร่ง ‘คุณเหลี่ยน-โสฬัส อมาตยกุล’ กับบทบาทสุดท้าทายในธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์กว่า 30 ปี

ในโลกธุรกิจยานยนต์ มีวิศวกรหญิงร่างเพรียวบาง โลดแล่นเจรจาธุรกิจอยู่คน เธอชื่อ ‘คุณเหลี่ยน-โสฬัส อมาตยกุล’ ครอบครัวเธอดำเนินธุรกิจปั๊มชิ้นส่วนยานยนต์มาร่วม 30 ปี มีโรงงาน 2 โรงงาน โรงหนึ่งปั๊มชิ้นส่วนรถยนต์ อีกโรงหนึ่งทำแม่พิมพ์ตัวปั๊มชิ้นส่วนยานยนต์

“เข้าโรงงานก็เป็นคนงานเลยคะ” สตรีที่เรามักจะเห็นเธออยู่ในชุดดีไซเนอร์สวยๆ บอก และพอเธอกล่าวเช่นนั้น ภาพที่เคยเห็นเธอร้องเพลง Moulin Rouge มีผู้ชาย 4 คนยกลอยกลางอากาศในคอนเสิร์ตการกุศลที่ ‘ท่านผู้หญิงวิระยา ชวกุล’ จัดขึ้นงานหนึ่งก็หายแวบไปในทันทีทันใด หรือภาพที่เพิ่งเห็นเธอหลัดๆ ในชุดราตรีสีขาว เปล่งเสียงกังวานร้องเพลงบนเวทีว่า ‘Don’t tell me not to fly, I’ve simply got to’ ท่ามกลางเซเล็บบริตี้ทั่วฟ้าเมืองไทยกว่า 500 คนในงาน HELLO H! List 2019 ก็เริ่มเป็นภาพที่สับสน

“จบมา” เธอยืนยันว่าชีวิตด้านหนึ่งของเธอต้องเข้าโรงงานและทำงานกับผู้ชาย “เหลี่ยนเข้าไปช่วยคุณแม่ที่โรงงานตั้งแต่ข้างล่างขึ้นมาถึงข้างบน เข้าไปเป็น Project Engineer ก่อน ไปตาม Project Manager เขาอีกที จากนั้นก็เริ่มดูโปรเจกต์ของตนเอง ผ่านไป 3-4 ปี ค่อยเลื่อนเป็น Project Manager แล้วขึ้นเป็นรองจีเอ็ม,รองเอ็มดี และเอ็มดี พอคุณน้า (น้องชายคุณแม่)ไม่สบาย ก็มาเป็นรองประธานให้คุณแม่คะ”

พร้อมหน้าทั้งครอบครัวในวันสบายๆ ที่ Cotswolds ประเทศอังกฤษ

ธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์

ครอบครัวเธออยู่ในธุรกิจสายยานยนต์มาตั้งแต่เธอยังเล็กๆ “คุณแม่ (ดร.ทิพย์ อมาตยกุล) ก่อนจะแต่งงานกับคุณพ่อ (คุณสมชาย จารุโกศล) เคยทำงานที่สยามกลการ ก็จะมีเพื่อนฝูงและสายสัมพันธ์กับคนที่อยู่ในธุรกิจนี้ พอแต่งงานกับคุณพ่อ ก็มาช่วยคุณพ่อดูแลบัญชี คุณพ่อและครอบครัวท่านมีธุรกิจค้าพลอยแถวมเหสักข์ และทำเหมืองพลอยที่กาญจนบุรี พรรคพวกคุณแม่ชวนกันเปิดบริษัทผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ คุณแม่เห็นว่ามีโอกาสก็ลงหุ้นไว้

“แต่พอคุณพ่อเสียตอนนั้นเหลี่ยน 8 ขวบ คุณยายเสียก่อนคะ หลังจากนั้นราว 3 เดือนคุณพ่อก็ตามไป ท่านทำงานหนัก ยุคนั้นเห็นว่า จับอะไรก็เป็นเงินไปหมด จันทร์ถึงศุกร์ คุณพ่อลุยงานที่ออฟฟิศ เสาร์อาทิตย์ ตีรถขึ้นไปดูเหมือง ขากลับแวะดูที่ เก็งกำไรที่ดิน คุณพ่อหยิบจับอะไรก็สำเร็จไปหมด พอสำเร็จ ก็ยิ่งลุย ไม่ทันนึกถึงสุขภาพ พอทรุด ตรวจพบเป็นมะเร็งตับขั้นที่ 4 ก็ไปเลย”

คุณเหลี่ยนเช็กงานก๊อบปี้เหล็กหล่อบนเครื่อง CNC ที่โรงงาน

3 บุคลิกหญิงเก่งที่หล่อหลอมเธอ

คุณเหลี่ยนเติบโตมาในครอบครัวที่มีหญิงเก่ง 3 แบบ 3 ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันให้ซึมซับ ‘คุณแม่ดร.ทิพย์ อมาตยกุล’ เธอเป็นสตรีนักธุรกิจ ที่ทำงานการกุศลมาโดยตลอด ทุกครั้งที่ท่านจัดงานหรือเข้าไปช่วยงานการกุศล เป็นต้องดึงคุณเหลี่ยนไปร้องเพลง เดินแบบ และแสดงละคร เพื่อนๆ ของคุณแม่เห็นคุณเหลี่ยน ก็จะทัก ‘ลูกสาวสวย วันหลังมาช่วยเดินแบบในงานการกุศลป้าด้วยนะลูก’ คุณเหลี่ยนสมัยก่อนจึงออกงานแทบทุกเดือน

ส่วนคุณป้าของเธอเป็นภรรยาของ ‘คุณเตช บุนนาค’ อดีตเอกอัครราชทูตไทยและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ คุณป้าเพ็ญศรีเป็นโมเดลของสตรีผู้ถึงพร้อมแห่งความเป็นภรรยาและแม่ คุณเหลี่ยนถูกส่งไปอยู่กับคุณลุงคุณป้าที่สวิสและฝรั่งเศสตั้งแต่อายุ 11-17 ปี ช่วงนั้น คุณลุงเธอเป็นเอกอัครราชทูตประจำกรุงเจนีวาและกรุงปารีส

คุณน้าเธอ ‘แม่ชีรัชดา อมาตยกุล’ เป็นสตรีที่ใฝ่ธรรม ท่านบวชตั้งแต่อายุ 29 ปีเมื่อคุณเหลี่ยนได้สัก 1 ขวบ และสร้างสถานปฏิบัติธรรม ‘รัชตะธรรมสถาน’ บนเนื้อที่ 40 ไร่ที่จังหวัดลำพูน ครอบครัวไม่เพียงชอบไปทำบุญกับพระสุปฏิปันโนและสร้างวัดวาอารามที่ต่างจังหวัด แต่ช่วงปิดเทอมที่คุณเหลี่ยนกลับมาเมืองไทย คุณแม่ก็จะส่งเธอให้ไปอยู่กับคุณน้าแม่ชี

ขณะเที่ยวชมเมืองสวยบนหน้าผาริมทะเลที่ Cinque Terre ประเทศอิตาลี

“เหลี่ยนเหมือนมีคุณแม่ 3 ท่าน” เธอบอก “เรื่องระเบียบวินัยได้จากคุณป้าเยอะ กับคุณแม่ไม่ค่อยเน้นระเบียบเท่า แต่ถ้าไปทางไหนที่เห็นว่าดี คุณแม่ก็จะจัดสรรให้เราเดิน ส่วนคุณป้าจะมีความเป็นแม่ เน้นความเป็นครอบครัว กินข้าวต้องพร้อมหน้าพร้อมตา วันอาทิตย์ไปเดินพาร์ค ไปร่วมกิจกรรมโรงเรียน คุณลุงจัดงานเลี้ยงที คุณป้าสั่งซื้อไก่ 30 ตัว เราได้ซึมซับวิถีชีวิตการเป็นแม่ บทบาทของภรรยา และได้เห็นการวางตัวในฐานะตัวแทนประเทศไทย”

ส่วนคุณน้าแม่ชี เป็นคุณแม่ทางธรรม “คุณน้าแม่ชีจะดึงเราฝึกปฏิบัติธรรม ฟังธรรมะ ยังบอก ‘ไม่ต้องแต่งงานหรอก มาปฏิบัติธรรม’ จะได้มาเป็นผู้สืบทอด ‘รัชตะธรรมสถาน’ไงคะ” คุณเหลี่ยนเล่าแล้วหัวเราะ “แต่ที่เหลี่ยนฟังธรรม ไม่ใช่จะบวช แต่เอามาใช้ในชีวิตประจำวันให้เราอยู่ได้โดยไม่ทุกข์เยอะ ทุกข์เพราะไม่มีสติ ทุกข์เพราะไม่อยู่กับความเป็นจริง มนุษย์ทุกวันนี้ทุกข์เพราะความคิดเยอะมาก

“เหลี่ยนเคยป่วยเกือบไม่รอด ที่รอดก็เพราะคุณน้าแม่ชีตัดสินใจอุ้มเหลี่ยนย้ายโรงพยาบาล ตอนนั้นท่านยังไม่บวช เหลี่ยนอายุได้อาทิตย์เดียว เกิดท้องเสีย ลามไปเป็นปอดบวม พยาบาลฉีดยากี่เข็มๆ ร่างกายก็ไม่รับ คุณน้าแม่ชี ก็ตั้งจิตอธิษฐานว่า ‘ถ้าเข็มที่ 7 ยังไม่รับ จะอุ้มออกจากโรงพยาบาล’และท่านก็อุ้มเหลี่ยนไปสมิติเวชตอนตีสอง วันนั้นโชคดี มีเด็กอีกคนเป็นอะไรสักอย่าง หมอใหญ่ลง พอหมอใหญ่เห็นสภาพเหลี่ยน สั่งเข้า ICU และทำคัทดาวน์ เจาะเข้าหัวใจเลย อยู่ ICU เป็นเดือน เชื้อลามไปทุกอวัยวะเหลือแต่ไม่ขึ้นสมอง รอดมาได้ ท่านก็เหมือนแม่อีกคนของเหลี่ยน

“เหลี่ยนอยู่กับคุณลุงคุณป้าจนจบมัธยมปลายและกำลังเตรียมตัวไปต่อปริญญาตรีที่อังกฤษ วันดีคืนดี คุณแม่ก็บอก ‘กลับมาเถิด คิดถึง ไปเรียนเมืองนอกนานๆ กลับมาจะไม่มีเพื่อน ไม่มีรุ่น คนเราจะต้องมี connection ไม่ใช่มีแต่เพื่อนต่างชาติ ไม่รู้จักใคร เวลาทำงาน จะลำบาก’”

คุณเหลี่ยนเลยกลับมาจบปริญญาตรีคณะวิศวกรรมศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หลักสูตรนานาชาติ และไปต่อปริญญาโทด้าน Engineering Management ที่ University of Technology Sydney จบมาปลายปี 2004 ต้นปีถัดมาก็เข้าช่วยงานในโรงงานเลย

 

‘I’ve told you you’ll never win her’ 

12 ปีที่อยู่ในธุรกิจนี้ คุณเหลี่ยนผ่านการแก้ปัญหาธุรกิจมาทุกสถานการณ์ ฝึกตนเองขึ้นมาเป็นนักเจรจาต่อรองทั้งกับคนงานในองค์กรและลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ “ธุรกิจยานยนต์สมัยก่อนดีมากๆ ยิ่งช่วงที่บริษัทร่วมทุนกับต่างประเทศ งานแน่นตลอด มาเริ่มหนักจริงๆ ตั้งแต่ ‘โครงการรถคันแรก’ โครงการดูน่าจะดี แต่มันไปป่วนทั้งระบบยานยนต์ ในปีที่คนตื่นซื้อ ‘รถคันแรก’กราฟยอดขายพุ่งขึ้นเป็นแนวดิ่ง บริษัทเราตัดสินใจขยายงานจากกะเดียวเป็น 3กะ การขยายงานแต่ละครั้ง มีค่าใช้จ่ายนะคะและพอหมดโครงการ กราฟนี่ตกแบบหัวทิ่มเลย ไม่ได้ตกมาอยู่ในโซนที่จะค่อยๆ ขึ้นเมื่อเดิม แต่ตกลงมาต่ำกว่านั้นมาก คนที่ซื้อรถยนต์คันแรกไป ก็ไม่มีปัญญาผ่อนต่อ รถที่สั่งไว้ ก็ไปค้างอยู่ที่ไฟแนนซ์ กลายเป็นว่า ทุกอย่างติดขัดไปหมด รวนหมด และพอเราตัดสินใจเพิ่มทุม เพิ่มเครื่องจักร เพิ่มคน แต่ปีต่อมาทุกอย่างหยุดชะงัก การขยายกำลังการผลิตทุกครั้งมีค่าใช้จ่ายแฝงอยู่ แล้วอยู่ดีๆ ยอดผลิตหายไป และหายแบบหายไปเลย”

“ต่อจากนั้น เกิดน้ำท่วม โรงงานเราโชคดี น้ำไม่ท่วม แต่โรงงานลูกค้าน้ำท่วม มีค่าเท่ากันค่ะ ทุกอย่างหยุดชะงัก ผ่านวิกฤติน้ำท่วม ญี่ปุ่นเจอสึนามิ กระทบอีก หลังจากนั้น ประเทศไทยเราปิดสนามบินเล่นกีฬาสี ลุยมาหมดแล้วคะ ก็ประคองผ่านร้อนผ่านหนาวกันมา เพิ่งจะมาดีขึ้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเอง แต่พอดีขึ้น การจะรับโปรเจกต์ที 200-300 ล้าน ก็ต้องคิดวางแผนให้ดี หา Connection หา Partner เพื่อแชร์ Resource ต้องรู้จักบริหารจัดการกับโอกาสที่เข้ามาไม่ให้มีผลกระทบ และก็ไม่ให้ช้าจนบริษัทเราตกขบวนรถไฟ คนอื่นแย่งไปกินหมด

“ผ่านมาถึงวันนี้ เหลี่ยนก็ไม่ได้รู้สึกว่าตนเองเก่ง ถามตนเองเสมอว่า ‘น่าจะมีทางออกที่ดีกว่านี้หรือเปล่า ทำได้แค่นี้ เพราะความสามารถเราแค่นี้หรือเปล่า ถ้าเราเก่งกว่านี้ จะผ่านมาได้ดีกว่านี้ไหมจะประหยัดเงินได้มากกว่านี้หรือเปล่าในการเจอมรสุมแต่ละครั้ง”

เมื่อถามถึงความภูมิใจตลอด 12 ปีที่ทำงานมา เธอตอบติดตลกเล็กๆ ว่า “ที่ภูมิใจจริงๆ ไม่เกี่ยวกับการคัต cost บริษัทหรืออะไร เหลี่ยนต้องรับรองลูกค้าต่างประเทศ และเรารับงานจากอินเดียเยอะ ก็จะมีการต่อรองผลประโยชน์กับลูกค้าอินเดียเยอะมาก เจอมาทุกทริก มีอยู่ครั้ง ลูกค้าเจรจากันจนเย็นจนค่ำ สุดท้ายเค้ายอมให้เหลี่ยน และเพื่อนเขาก็พูดขึ้น ‘I’ve told you you’ll never win her’(ฉันบอกยูแล้ว ยูไม่มีทางชนะหล่อน) ที่ภูมิใจก็ตรงนี้

“สิ่งที่เหลี่ยนอยากทำตอนนี้ ไม่ใช่ไปเริ่มธุรกิจใหม่ แต่อยากจะ investให้กับตนเองด้านการเรียนรู้ ที่มองไว้ ก็เรื่อง Design Thinking และจิตวิทยาที่จะช่วยพัฒนาระบบการคิดของเราและให้เข้าใจบุคลิกนิสัยแต่ละประเภท เพื่อเวลาเจรจากับคนแต่ละบุคลิกให้ได้ผลไปในแนวทางที่เราต้องการค่ะ” นั่นหมายถึงเธอจะยังไม่หยุดที่จะพัฒนาตนเอง

 

ติดตามได้ในนิตยสาร HELLO! ปีที่ 14 ฉบับที่ 12  ประจำวันพฤหัสบดีที่ 5 กันยายน 2562

หรือดาว์นโหลดฉบับดิจิตอลได้ที่  www.ookbee.com www.shop.burdathailand.com

 

…………………………………..
Makeup Artist: @opalfaye_makeupartist
Hair Stylist: พิชชานันท์ เวียนสันเทียะ
Never miss an update

Subscribe to our newsletter to get the latest updates.

No Thanks
You’re all set

Thank you for your subscription.