Home > Celebrity > Exclusive Interviews > Exclusive ที่นี่ที่เดียว เปิดใจ ‘Tui Pranich’ อินทีเรียดีไซเนอร์ชาวไทยที่อยู่เบื้องหลังบ้านสวยของซุปตาร์ระดับโลก

ใครเลยจะรู้ว่าบ้านหรูของซูเปอร์สตาร์และนักธุรกิจชั้นนำที่ปรากฏในสื่อของอเมริกานับเป็นสิบๆ หลังนั้น ผู้อยู่เบื้องหลังคืออินทีเรียดีไซเนอร์ชาวไทยนามว่า ‘Tui Pranich’ หลังจากกลับมาเมืองไทย HELLO! เป็นสื่อแรก และสื่อเดียวที่ ‘คุณตุ้ย ประนิช’ เปิดประสบการณ์กว่า 30 ปีที่ได้ตกแต่งบ้านให้กับ Shakira, Jennifer Lopez ไปจนถึงนักธุรกิจแถวหน้าของอเมริกา ซึ่งไม่ใช่ความหรูหราหรือชื่อเสียงที่ทำให้เขาภาคภูมิใจ แต่ประสบการณ์บวกกับความสำเร็จที่เขาได้มาเพราะความสามารถต่างหาก คือบทพิสูจน์ฝีมืออินทีเรียดีไซเนอร์ชาวไทยที่แท้จริงผู้นี้

‘คุณตุ้ย ประนิช’

ประสบการณ์​เปิดโลกให้กับดีไซเนอร์ไทยในไมอามี 

ในเมืองริมทะเลอันสวยงามซึ่งเต็มไปด้วยบ้านพักตากอากาศของคนรวย นักธุรกิจ และคนในวงสังคมของอเมริกา ซึ่งผู้คน
ไฮโปรไฟล์เหล่านี้กลายเป็นจุดสร้างชื่อให้กับ Tui Pranich ในเวลาต่อมา  “ตอนทำอยู่บริษัทที่ 4 ผมเจอลูกค้าคนหนึ่ง เขามีบ้านอยู่ที่เวล โคโลราโด อยากให้ผมไปตกแต่งให้ ผมเลยลาออกมาเปิดบริษัทกับหุ้นส่วนชื่อ Pranich & Snyder ซึ่งรับทำทุกอย่างเพราะอยากได้งาน เราไม่มีคอนเน็กชั่น ปีต่อไปผมกับ Snyder เปิดร้านขายดอกไม้และอุปกรณ์ตกแต่งบ้านที่ปาล์มบีช ทั้งจัดดอกไม้ ดีไซน์สวน แต่งสวน และจัดปาร์ตี้ ขนาดส่งของให้ลูกค้าผมยังไปเอง อยากดูบ้านเขาว่าตกแต่งยังไง เพราะว่าเป็นแมนชั่นใหญ่ๆ ทั้งนั้นนะครับ บางทีลูกค้าก็ให้ทิปผม นึกว่าเป็นคนส่งของ” 

และแล้วบริษัทเล็กจิ๋วนี้ก็ไปเข้าตาลูกค้ารายใหญ่ (มาก) ‘Mrs.Gruss’ สาวสังคมจากมหานครนิวยอร์กที่ว่าจ้างให้เขาตกแต่งบ้านพักในปาล์มบีช “เขาเปิดโลกให้ผมมาก” คุณตุ้ยเล่า “เขาเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัวและพาผมไปไหนต่อไหนด้วยตลอด ไม่ว่าจะไปฟิตติ้งชุดโอต์กูตูร์ Valentino ที่มิลาน ไปซื้อผ้าปูที่นอนที่เวนิส ฉะนั้นผมทำบ้านให้เขาที่ปาล์มบีช 1 ปีก็เลยได้ประสบการณ์เยอะและได้ฝึกฝนสายตาพบเห็นของดีๆ เยอะมากครับ”  

สร้างชื่อ Tui Pranich

ทำงานตัวเป็นเกลียวอยู่ปาล์มบีชได้พักใหญ่ คุณตุ้ยก็ซื้อหุ้นบริษัทมาเป็นของตัวเอง 100% และทำงานในนาม Tui Pranich แบบฉายเดี่ยวเป็นครั้งแรก ซึ่งงานแรกก็เจองานช้างจากลูกค้าระดับแมมมอธ ‘Mrs.Grundig’ สตรีผู้มั่งคั่งที่สุดในเยอรมนียุคนั้น “ผลงานผมได้ลงนิตยสารที่อเมริกาเยอะ รวมทั้งเป็น 1 of 100 Interiors Around the World เขาเห็นผลงานผมในสื่อก็เลยติดต่อมา 

“ตอนนั้นบ้านของมิสซิสกรุนดิกแพงที่สุดในปาล์มบีช และเป็นบ้านใหญ่บ้านแรกที่ผมทำในนามบริษัทของตัวเอง ราคา 30 – 40 ล้านดอลลาร์ ตอนนี้ราคาก็สูงขึ้นไปเท่าตัว เขาอยากได้บ้านสไตล์อังกฤษก็ชวนผมนั่งเครื่องบินส่วนตัวไปซื้อของแอนทีกที่อังกฤษและทั่วยุโรป เป็นงานแรกที่ผมเริ่มใช้ศิลปะคลาสสิกของยุโรปด้วยครับ” 

ต่อมาคุณตุ้ยได้พบกับตระกูล Kesslerนักธุรกิจรายใหญ่ของอเมริกา ซึ่งวางใจให้เขาตกแต่งบ้านที่แพงและกว้างขวางยิ่งกว่าบ้านของมิสซิสกรุนดิกเสียอีก “บ้านของเคสเลอร์มีพื้นที่ 4,000 ตารางเมตร เห็นวิวมหาสมุทรสวยมาก งานนี้ผมไม่ได้เป็นแค่อินทีเรียดีไซเนอร์ ผมทำเป็นคอนซัลแตนต์ด้วย ดูแลทั้งสถาปัตย์และอินทีเรียดีไซน์ และดูแลควบคุมการก่อสร้างคล้ายๆ เป็นตัวแทนเจ้าของบ้าน ตัวสามีบอกว่าจะไม่ยุ่งเลย งานนี้ไม่มีบัดเจ็ต มีเงื่อนไขเดียวคือบ้านต้องเสร็จภายใน 1 ปี ผมเลยไปช็อปปิ้งกับภรรยาเขาตลอด พอบ้านเสร็จเขาพอใจมากจนให้ผมทำบ้านให้เขาอีก 5 หลังเลยครับ” 

หลายงานเรียกว่าเป็นโจทย์ที่โดนท้าทายแต่ก็ได้บทเรียนใหม่ๆ จากลูกค้าทุกราย ดังคำคุณตุ้ยว่า “ลูกค้าไฮไปรไฟล์แบบนี้ เรื่องสำคัญคือเวลาครับ ไปเจอเขาต้องตรงเวลา ของมาส่งต้องตรงเวลา ทำงานเสร็จตรงเวลา เพราะเวลาคือสิ่งสำคัญที่สุดของเขา ไม่ใช่เรื่องเงิน มีลูกค้ารายหนึ่งชื่อ Lewis Bacon ซื้อบ้านที่บาฮามาสเพื่อจะไปฉลองคริสต์มาสกับครอบครัว ผมมีเวลาทำบ้านให้เขา 8 เดือน เขาอยากได้บ้านหลังนี้เป็น Bali Style เขาส่งผมไปซื้อของที่บาหลี เพื่อมาตกแต่งบ้าน ที่บาฮามาสไม่มีแรงงานที่จะทำงานคุณภาพระดับที่เราต้องการได้ ไม่มีดอกไม้ ไม่มีต้นคริสต์มาส ผมต้องขนช่างและข้าวของทั้งหมดบินจากไมอามีไปที่บาฮามาส สามีบอกแค่ว่ายูทำไปเลยๆ ผมก็ต้องเดารสนิยมภรรยาเขาเอาเอง” คุณตุ้ยเล่าไปก็หายใจไม่ทั่วท้องไป “วันที่ทำบ้านเสร็จ ภรรยาเขาเดินมา มองไปรอบๆ บ้าน สุดท้ายก็พูดว่า ‘We love it!’ ผมนี่สุดแสนจะโล่งใจ”  

ดีไซเนอร์ที่ซูเปอร์สตาร์ไว้วางใจ 

ไม่ใช่แค่นักธุรกิจหรือคนในวงสังคมเท่านั้นคุณตุ้ยยังอยู่เบื้องหลังบ้านสวยๆ ของบิ๊กเนมในฮอลลีวูดด้วย “ผมทำบ้านให้ Jennifer Lopez, Shakira และ Francis Ford Coppola ครับ” เขาเฉลยรายนามลูกค้า “ผมทำบ้านให้ Shakira เป็นคนแรก เขาจะมาซื้อบ้านติดกับบ้านผม แต่เขาไม่ชอบ ดันมาชอบบ้านผม (หัวเราะ) นายหน้ามาเคาะประตูบ้าน ถามผมว่าจะขายไหมบ้านนี้ แล้วขอพาชากีร่าเข้ามาดูด้วย ซึ่งเธอก็ชอบบ้านผมมากบอกว่า ‘ขอซื้อบ้าน ขอซื้อเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดแบบที่อยู่ในบ้านคุณ’ 

“ต่อมาคือ Jennifer Lopez และ Marc Anthony ตอนนั้นเขาเป็นสามีภรรยากัน สองคนนี้รสนิยมไม่เหมือนกัน แต่เวลาตกแต่งให้เขาแล้ว ทั้งสองคนก็พอใจ ส่วน Francis Ford Coppola (ผู้กำกับรุ่นใหญ่เจ้าของ 5 ออสการ์ซึ่งทำหนังระดับตำนาน เช่น The Godfather และ Apocalypse Now) เขาซื้ออพาร์ตเมนต์ขนาดไม่ใหญ่มากอยู่ตรงโอเชียน ที่ไมอามี สามคนนี้สไตล์ไม่เหมือนกันเลย แต่ผมก็ทำบ้านที่เขาพอใจได้ เพราะผมชอบทุกสไตล์อยู่แล้วครับ อย่างชากีร่าชอบสไตล์โมเดิร์น ผมก็ใช้เฟอร์นิเจอร์ยุคมิดเซ็นจูรีจากยุค 1950s – 1960s ที่เด่นเรื่องการใช้งานได้จริงแบบ Form Follows Function ส่วนเจนนิเฟอร์ชอบสไตล์ผสมผสานคล้ายๆ ผม และฟรานซิส ฟอร์ดจะเป็นแนว Eclectic ใช้เฟอร์นิเจอร์แอนทีกผสมกับของโมเดิร์น”  

ถามว่าเจอลูกค้าไฮโปรไฟล์มามาก รับมือยาก-ง่ายอย่างไร คุณตุ้ยกลั่นกรองประสบการณ์ 30 ปีมาตอบว่า “เขาต้องชอบรสนิยมหรือสไตล์เรา เขาถึงมาจ้างเรานะครับ ผมถือว่าเขาจ้างเราในฐานะมืออาชีพ เราก็ควรจะให้ไอเดียที่ดีที่สุดกับเขา อะไรที่ผมมองว่าไม่ดี ไม่เหมาะกับเขา ผมก็จะพูดตรงๆ จะไม่อวยหรือตามใจ แล้วเขาจะไว้ใจเรา ลูกค้าเลยให้ผมทำบ้านหลังอื่นๆ ต่อไปเลยครับ อย่างตระกูล Schuster จากบอสตัน เขาจ้างผมทำบ้านให้ 5 หลัง ทั้งบ้านที่บอสตัน ปาล์มบีช เคปค็อด ไปจนถึงบ้านลูกชายและออฟฟิศเขาด้วย”

ฝากถึงคนไทยที่อยากทำงานระดับโลก

ถามว่าคนไทยที่อยากทำงานระดับอินเตอร์ได้ต้องทำยังไง เขาทวนคำถามช้าๆ แล้วตอบเร็วๆ ว่า “เปิดดูแมกกาซีนเมืองนอกเยอะๆ เดินดูร้านต่างๆว่าเขาออกแบบตกแต่งยังไง แม้แต่ไปร้านอาหาร ผมยังสนใจดูว่าเขาจัดของยังไง เดินห้างก็ดูร้านต่างๆ ร้านนี้ตกแต่งอย่างไร ร้านนั้นไฟมืดไป ดีไซน์อยู่รอบตัวเลยครับ ผมก็ยังเรียนรู้อยู่ต่อให้ทำงานมานาน เพราะคนเราถ้าหยุดเรียนรู้ ชีวิตก็น่าเบื่อ ไม่มีข้ออ้างหรอกว่าเราเก่งไม่ได้เพราะไม่เคยไปเมืองนอก ไม่เคยเดินทางไปไหน เพราะว่ายุคนี้อิทธิพลจากต่างประเทศก็เข้ามาในเมืองไทยแล้ว ทั้งในแฟชั่น รถ ดีไซน์ โรงแรมอะไรต่างๆ ขอให้มีความอยากจะเรียนรู้เถอะ 

“ชีวิตคือการแข่งขัน ถ้าคุณไม่เรียนรู้ก็จะแข่งขันกับใครไม่ได้ สุดท้ายคุณก็จะไม่ประสบความสำเร็จ ฉะนั้นชีวิตต้องไม่หยุดเรียนรู้ครับ”

ติดตามบทสัมภาษณ์เพิ่มเติบ พร้อมชมบ้านพักส่วนตัวของ Tui Pranich ในปนะเทศไทยแบบเอ็กซ์คลูซีฟได้ใน

นิตยสาร HELLO! ฉบับเดือนพฤษภาคม 2564 วาง แผงแล้ววันนี้!
? ติดต่อสั่งซื้อโทร 0 2676 8999 ต่อ 217 หรือ 084 079 5678
? สั่งซื้อออนไลน์ที่
shop.burdathailand.com หรือ Line ID: @hellomagazineth

Never miss an update

Subscribe to our newsletter to get the latest updates.

No Thanks
You’re all set

Thank you for your subscription.