ถอดบทเรียนธุรกิจ ‘วีรชัย – ทิฆัมพร มั่นสินธร’ จากวันล้มละลายสู่ยอดขายปีละ 3,000 ล้านบาท
ถอดบทเรียนธุรกิจ คุณเอี๋ยม – วีรชัย มั่นสินธร หนึ่งในนักธุรกิจที่สามารถพาบริษัทผ่านวิกฤติต้มยํากุ้งสําเร็จ ซึ่งในประวัติศาสตร์ ประเทศไทย ถือกันว่าเป็นช่วงที่ยากลําบากที่สุดของคนทําธุรกิจ ฝ่าฟันหนี้กว่า 1,800 ล้านบาทด้วยความ ‘ซื่อสัตย์’ และ ‘อดทน’ จนธุรกิจกล่องกระดาษลูกฟูกในนาม บริษัท อุตสาหกรรมไทยบรรจุภัณฑ์ จํากัด (มหาชน) มียอดขายปีหนึ่งราว 3,000 ล้านบาท
หากย้อนไปเส้นทางธุรกิจของเจ้าพ่อธุรกิจกล่องกระดาษลูกฟูกผ่านวิกฤติมาถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกเกิดขึ้นขณะคุณเอี๋ยมเดินทางไปศึกษาต่อที่ประเทศญี่ปุ่น ยังไม่ทันเรียนจบอนุปริญญา ทางบ้านส่งจดหมายขอให้กลับประเทศไทยเนื่องจากไม่เงินส่ง ทว่าแทนที่จะถอดใจกลับบ้านเกิด คุณเอี๋ยมเลือกไปตื้อฝึกงานที่โรงงานเครื่องจักรในญี่ปุ่น และตลอดระยะเวลา 3 เดือนของการฝึกงานนับเป็นช่วงเวลาอันมีค่าที่ทำให้คุณเอี๋ยมเรียนรู้วิถีการทำงานแบบญี่ปุ่น จุดเริ่มต้นของการบ่มเพาะนักธุรกิจมากความสามารถในวันนี้

“คนญี่ปุ่นเขาเป็นคนตรงเวลาเป๊ะในทุกกิจกรรม และเวลาทํางานเขามีขั้นมีตอน ทุกวิธีการทํางานจะเขียนลงบนกระดาษออก มาเป็นขั้นตอน แล้วแปะให้พนักงานทุกคนได้อ่านเหมือน ๆ กัน ทุกคนจะทํางานที่ใช่ขั้นตอนเหมือน ๆ กัน ไม่ใช่ให้หัวหน้าหรือ ใครยืนเล่าสู่กันฟัง แล้วเขาก็คิดกันไปต่าง ๆ นานา พอเล่าต่อไปถึงคนที่ 2 – 3 ก็เริ่มเพี้ยน ทํามาผลลัพธ์ไม่เหมือนกัน และนี่เป็นตัวช่วยตัวหนึ่งที่ทําให้ผมกลับมาทําให้บริษัท ที่บ้านมีมาตราฐานและมีระเบียบเมื่อเทียบ กับบริษัทอื่น ๆ ในยุคนั้น” คุณเอี๋ยมเล่า
ขณะนั้นธุรกิจครอบครัวมีหนี้กว่า 8 ล้านบาท บวกดอกเบี้ย ทบต้นอีก 5 ล้านบาท เป็น 13 ล้านบาท แต่ยอดขายเดือนละ 8 แสนบาท คุณเอี๋ยมเข้ามาเพิ่มยอดขายบริษัทโดยดูแลทั้งเรื่องการผลิตและซ่อมเครื่องจักร เปรียบเสมือนเป็นผู้จัดการโรงงาน และยังเป็นผู้จัดการฝ่ายขาย รวมถึงผู้จัดการฝ่ายการเงินด้วยตัวเอง คุณเอี๋ยมบอกว่าด้วยความที่สมัยนั้นการแข่งขันไม่สูงมากเพียงแต่ต้องดูแลการผลิตและควบคุมคุณภาพให้ดี ซึ่งได้ Technical Knowhow จากญี่ปุ่นมาช่วย บวกกับตัวเองอายุยังน้อย จึงสามารถใช้หนี้หมดหลังจากใช้เวลา 5 – 6 ปี พร้อมกับมียอดขายเพิ่มปีหนึ่ง 200 ล้านบาท
ใช้หนี้หมดไปไม่ทันไรบริษัทก็เจอวิกฤติอีกครั้ง และครั้งนี้ใหญ่กว่าเดิมมาก “บริษัทช่วงนั้นเจริญเติบโตเร็วมาก ทําให้จิตใจ ฮึกเหิมครับ พอใช้หนี้หมดก็กู้เงินมาสร้างโรงงานใหม่ที่ปราจีนบุรี ตอนนั้นกู้มา 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตกเป็น เงินไทย 500 ล้านบาท เริ่มกู้ พ.ศ. 2537 พอสร้างโรงงานใกล้เสร็จ ก็เจอวิกฤติต้มยํากุ้งพอดี รัฐบาลประกาศลอยตัวค่าเงินบาท ทําให้หนี้ที่กู้มา 500 ล้านบาท กลายเป็น 1,000 ล้านบาท พยุงไปพยุงมา รวมหนี้รวมดอก รวมไปรวมมาเป็น 1,800 ล้านบาท ก็ถือว่าล้มละลายแล้วแหละ เพราะทรัพย์สินที่มีขณะนั้นไม่พอใช้หนี้” คุณเอี๋ยมเผย
ผมเป็นคนที่ดีลกับแบงก์ จะใช้ความซื่อตรงซื่อสัตย์เป็นหลัก ไม่ว่าจะต้องจ่ายดอกเบี้ยหรือ จ่ายหนี้ จะจ่ายตรงเวลา เราไม่คิดเอาเปรียบ แบงก์เล็ก ๆ น้อย ๆ แบงก์ก็เห็นประวัติเราและเห็นเจตนา”
คุณเอี๋ยม – วีรชัย มั่นสินธร
คุณเอี๋ยมใช้ความซื่อตรง ซื่อสัตย์ กัดฟันใช้หนี้ 10 กว่าปี แม้ไม่ได้ขยายบริษัทเลยในช่วงนั้น แต่หลังจากใช้หนี้หมด ธุรกิจกล่องกระดาษลูกฟูกของคุณเอี๋ยมเติบโตขึ้นเป็นลำดับ จนปัจจุบันมียอดขายปีหนึ่งราว 3,000 ล้านบาท โดยมี คุณอู๋ – ทิฆัมพร มั่นสินธร บุตรชายเข้ามาช่วยสานต่อธุรกิจเป็นระยะเวลากว่า 5 ปีแล้ว หลังจากจบปริญญาตรีด้านบริหารธุรกิจจากญี่ปุ่น ตามที่คุณพ่อส่งไปเรียน เนื่องจากมองว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศที่สอนให้คนอึดและอดทน มีความมุ่งมั่น และตรงต่อเวลา ซึ่งเป็นองค์ประกอบสู่ความสําเร็จ คุณอู๋เองก็ยอมรับว่า การไปเรียนที่ญี่ปุ่นมีผลต่อทัศนคติในการทํางาน “คนญี่ปุ่นเขา ทํางานกันเร็วมาก ขยันมาก เราก็ต้องทําตามเขาให้ทัน เราก็เลยได้ตรงนั้นกลับมาจากญี่ปุ่น”

คุณเอี๋ยมยังเล่าถึงบทเรียนที่ได้จากครั้งวิกฤติต้มยำกุ้งว่า “วันที่ผมเป็นหนี้ 1,800 ล้านบาท ผมอายุ ไม่มาก 30 กว่าปี ความมั่นใจสูงมาก อะไรก็ไม่กลัว เหมือนคนที่ทําแล้ว ประสบความสําเร็จมามาก ๆ ไม่ ค่อยกลัวจะเกิดเหตุการณ์อะไร ก็ไม่ค่อยระวัง”
ครั้งนั้นสอนให้รู้ว่า เวลาจะทําอะไร ต้องระวัง และคิดให้รอบคอบ และถึงจะคิดว่ารอบคอบแล้ว ก็ยังมีความเสี่ยงที่อยู่เหนือการควบคุมของเรา เหตุการณ์ต้มยํากุ้งจะว่าไป ก็โดนกันทั้งประเทศ ทั้งโลก และทั้งภูมิภาค ถึงจะไม่เป็นเพราะเรา แต่เมื่อไรที่มีความเสี่ยงก็ต้องบริหารให้ดี”
คุณเอี๋ยม – วีรชัย มั่นสินธร
นักธุรกิจมากประสบการณ์ยังบอกอีกว่า “การทําธุรกิจวันนี้ การแข่งขันสูงมาก ความท้าทายรอบด้าน สมัยก่อนธุรกิจกล่องกระดาษ เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไม่มาก ความผันผวนก็ไม่มาก แต่มาวันนี้ ความผันผวนมาทุกด้าน และมากันทุกมิติ ไม่ว่าต้นทุนนํ้ามันที่เดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลง ต้นทุนวัตถุดิบสมัยก่อน 2 – 3 ปี เปลี่ยนแปลงที เดี๋ยวนี้สามเดือนขึ้นที อีกสามเดือนลงมาละ และวัตถุดิบขึ้นที 3 – 4 เท่า ทําให้การบริหารจัดการค่อนข้างยาก เพราะมันผันผวนจนรับมือไม่ทัน แต่เราก็ปรับกระบวนการรับมือจนเดี๋ยวนี้จะ ผันผวนแค่ไหน เราก็สามารถรับมือได้ทันเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกครั้ง”

ขณะที่ ทายาทเผยถึงทิศทางการทำธุรกิจของตัวเอง “เมื่อก่อนคิดว่า บริษัทเราทํางานคนเดียวได้ เพราะมันไม่ได้โตถึงขนาดเรามองภาพไม่ออก แต่เมื่อโตมาได้ระดับนี้ เราทําคนเดียวคงใหญ่เกินตัว เราต้องมีทีมงานมาคอยช่วยในแต่ละส่วนของโรงงาน ตอนนี้คุณพ่อได้สร้างทีมที่ใช้ได้ ผมต้องรับช่วงและพาทีมที่พ่อสร้างให้ไปต่อได้อีก และสร้างทีมใหม่มารับช่วงต่อในอนาคต
ผมก็สไตล์ญี่ปุ่น พ่อก็สไตล์ญี่ปุ่น คนญี่ปุ่นคิดอยู่ในกรอบ แต่กรอบของเราจะต้องไล่เรียงลําดับความสําคัญให้ดี….”
คุณอู๋ – ทิฆัมพร มั่นสินธร
ติดตามแนวคิดการทำธุรกิจของสองพ่อ-ลูก แห่งธุรกิจกล่องกระดาษลูกฟูก ‘คุณเอี๋ยม – วีรชัย มั่นสินธร’ และ ‘คุณอู๋ – ทิฆัมพร มั่นสินธร’ แบบเต็ม ๆ ได้ในนิตยสาร HELLO! Vol.17 No.12 วางแผงแล้ววันนี้

ซื้อนิตยสาร HELLO! ได้ที่เว็บไซต์ ?shop.burdathailand.com