ทำความรู้จัก ‘โอ-ธวัตวงศ์ ศิลมานนท์’ ผู้บริหารใหญ่ Viu (วิว) กับความสำเร็จที่มาจากประสบการณ์และทักษะที่หลากหลาย
ปัจจุบันถ้าพูดถึงแพลตฟอร์มเอนเตอร์เทนเมนต์ต้องยอมรับเลยว่า เหล่าบรรดาแอปพลิเคชันสตรีมมิ่งภาพยนตร์ เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่คนส่วนใหญ่ให้ความสนใจ และในช่วงที่ผ่านมาเชื่อเลยว่าคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีกับแอปพลิเคชัน Viu (วิว) ที่มีให้บริการกว่า 16 ประเทศทั่วโลก วันนี้ HELLO! มีโอกาสได้พูดคุยกับ ‘คุณโอ-ธวัตวงศ์ ศิลมานนท์’ กรรมการผู้จัดการ Viu (วิว) ประเทศไทย ถึงกลยุทธ์ทางการตลาด แนวคิด และไลฟ์สไตล์ส่วนตัวของผู้บริหารหนุ่มไฟแรงที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จทำให้ Viu (วิว) เติบโต มีจำนวนผู้ใช้บริการสูงถึงกว่า 58.6 ล้านคนในปีที่ผ่านมาเลยทีเดียว
จุดเริ่มต้นของ Viu (วิว)
ในปัจจุบันต้องยอมรับเลยว่าคู่แข่งในธุรกิจนี้มีไม่น้อย แต่ Viu (วิว) ก็ยังถือได้ว่าเป็นตัวท็อปแถวหน้าของวงการ เนื่องจากมีให้บริการทั้งซีรีส์ไทย และต่างประเทศ โดยเฉพาะซีรีส์เกาหลีที่ได้รับความนิยมหลายเรื่อง ซีรีส์จีนที่คนไทยให้ความสนใจ เผยแพร่ให้ได้รับชมย้อนหลังแบบรวดเร็วทันใจ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุค 4.0 ที่ไม่นิยมดูสด และชอบการดูย้อนหลังผ่านแอปฯ ที่สำคัญยังโดดเด่นตรงที่มีรูปแบบการให้บริการทั้งแบบฟรี และสมัครสมาชิกรายเดือนอีกด้วย “สำหรับผมเองนับได้ว่าเริ่มต้นกับ Viu (วิว) ในประเทศไทยมาตั้งแต่แรก ซึ่งหน้าที่หลักของผมคือการวางกลยุทธ์ทางการตลาด เมื่อย้อนกลับไปก่อนที่ Viu (วิว) จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ เราเริ่มจากการโปรโมทผ่านทาง Social Media ก็เริ่มมีผู้ติดตาม พอถึงวันที่เราเปิดตัวแอปฯ ก็คือมีฐานผู้ติดตามรออยู่แล้วเกือบ 1 ล้านคน ปัจจุบันการทำงานที่ Viu (วิว) ถือว่าเป็นบทบาทที่สร้างความท้าทายให้กับชีวิตตลอดเวลา ด้วยโลกที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา”

ผู้บริหารหนุ่มมากความสามารถ
จากความฝันวัยเด็กที่อยากเป็นนักการทูต สู่เส้นทางของผู้บริหารแพลตฟอร์มออนไลน์ระดับแถวหน้าของ เมืองไทย “ย้อนกลับไปสมัยเด็กๆ ผมเติบโตที่ประเทศเม็กซิโก ก่อนจะกลับมาเรียนชั้นมัธยม และระดับ มหาวิทยาลัยที่ประเทศไทย ทำให้สามารถพูดได้ทั้งภาษาไทย, อังกฤษ และสเปน ความสามารถด้านภาษาที่ หลากหลายเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้รู้สึกว่า เรามีโอกาสมากขึ้น และด้วยเส้นทางการทำงานที่มีโอกาสได้คลุกคลี กับผู้คนที่หลากหลาย ไม่ว่าจะจากธุรกิจการท่องเที่ยว หรือธุรกิจสื่อ ผมเองเคยได้รับมอบหมายให้ทำโปรเจกต์ Online Travel ขณะที่ทำงานอยู่ในบริษัททัวร์ก็เท่ากับว่าอยู่ในวงการของสื่อออนไลน์อย่างเต็มตัว พอได้ลองทำก็รู้เลยว่านี่เป็นทางของเรา ลืมไปเลยเรื่องการอยากเป็นนักการทูต”
“ผมมองว่าการที่เราเติบโตในต่างประเทศ ได้เผชิญกับความแตกต่างทางด้านวัฒนธรรม และพบปะผู้คน หลากหลาย ทำให้เรามีความเข้าใจในธรรมชาติของคน ว่าแต่ละคนก็จะมีจุดเด่นและความสามารถที่แตก ต่างกัน ดังนั้นตอนก่อตั้งทีม Viu (วิว) ประเทศไทย เราจึงได้ชักชวนคนที่มีความสามารถมานั่งบริหารงาน แต่ละด้านที่เขาถนัด และคอยวางแผนวิเคราะห์การตลาดไปพร้อมๆ กัน แบบทีมเวิร์ค ประกอบกับการ Support จากทีม Regional ด้านการใช้เครื่องมือต่างๆ ในการทำ Data Mining เพื่อเอาข้อมูลวิเคราะห์แบบ Real Time จึงทำให้เรามีความเข้าใจในความต้องการของผู้บริโภค ทำให้คิดแผนออกมาได้ตรงจุด และโดนใจผู้ชมของ Viu (วิว)” คุณโอกล่าว
เสริมทักษะตนเองให้แข่งแกร่ง พร้อมทุกด้าน ชนะทุกอุปสรรค
“ผมมองว่าปัจจุบันนี้ทักษะเป็นสิ่งที่สำคัญในการใช้ชีวิต อย่างตัวผมเองเคยเรียนดำน้ำ เรียนจนถึงขั้นสอบเป็น Instructor เพราะเราไม่รู้ว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นหรือถ้าเกิดอะไรขึ้น ก็คิดแล้วว่าอย่างน้อยก็ไปอยู่เกาะและทำอาชีพสอนดำน้ำก็ได้ อย่างภาษาก็ยอมรับเลยว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากนะ ผมเคยไปเรียนภาษาเกาหลี อินโด เสริมเพิ่มเติมมากมาย ถึงแม้จะไม่ถึงขั้นพูดได้แต่ก็ทำให้เราเข้าใจวัฒนธรรมเพิ่มขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อยู่ที่จังหวะ และโอกาสที่เราจะสามารถหยิบทักษะเหล่านี้ขึ้นมาใช้งานได้อย่างเหมาะสม เรียกง่ายๆ ว่าเราต้องทำตัวเองให้พร้อมอยู่เสมอ ผมเชื่อเลยว่าเมื่อเราพร้อม เราจะผ่านพ้นทุกสถานการณ์ไปได้แน่นอน”
งานอดิเรก ที่กลายเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ภูมิใจ
เรียกว่าคุณโอ เป็นอีกหนึ่งผู้บริหารไฟแรงที่เชื่อในเรื่องของการเตรียมตัวให้พร้อม หรือที่เรียกว่า ‘มีของพร้อมใช้งาน’ แต่นอกจากหมวกของการเป็นนักการตลาดที่คอยวางแผน คิดแผนการตลาดนำพาให้ Viu (วิว) Thailand เติบโตอย่างก้าวกระโดดในทุกๆ ปีแล้ว หมวกอีกหนึ่งใบที่ทำเพราะใจรักคือ การเปิดร้านอาหารที่ชื่อว่า Eres Music & Restaurant ร้านอาหารสไตล์ฟิวชั่นในบรรยากาศที่ตกแต่งสไตล์ล็อฟท์ ชิลล์ๆ โปร่งโล่งสบาย บริเวณถนนประชาชื่น ซึ่งนับว่าเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ท้าทายมากสำหรับคุณโอ แต่มองว่าเป็นการ Diversify และเรียนรู้ไปในตัว

ความภาคภูมิใจในฐานะนักธุรกิจ

“ผมมีโอกาสได้ร่วมงานกับธุรกิจ Start Up มาหลายแบรนด์ แต่ก็เข้ามามีส่วนร่วมตอนที่ธุรกิจนั้นเติบโตแล้ว แต่ ณ วันนี้ จุดนี้แหละครับที่ผมภาคภูมิใจเราเริ่มมาจากศูนย์ ทำให้เติบโตอย่างทุกวันนี้ ด้วยทีมงานคุณภาพที่เรามี เมื่อมองย้อนกลับไปเส้นทางที่ผ่านมาเหมือนเป็นบทเรียน ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา Viu (วิว) Thailand เราเติบโตขึ้นทุกปี แม้ว่าจะมีเป้าหมายที่ต้องยอมรับว่าสูงขึ้นมากในทุกปี แต่ก็เป็นสิ่งที่ท้าทาย และเราก็สามารถนำพาไปให้ถึงได้ในทุกครั้ง จึงถือว่าเป็นสิ่งที่ภาคภูมิใจมากจริงๆ”