The Young Achievers 2023 | ‘เทพพันธ์ อัศวะธนกุล’ พลิกโฉมธุรกิจ ด้วยนวัตกรรมและการคิดนอกกรอบ
ในโลกธุรกิจยุคใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี คุณพันธ์ – เทพพันธ์ อัศวะธนกุล รองกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) คือหนึ่งในนักธุรกิจคลื่นลูกใหม่ที่ก้าวเข้ามาปฏิวัติวงการประกันภัยด้วยการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาตอบโจทย์ผู้บริโภค ปรับภาพลักษณ์องค์กรให้ทันสมัยขึ้นเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น สร้างความเติบโตอย่างก้าวกระโดดให้กับธุรกิจ พร้อมเปิดกว้างในการนำแนวคิดนอกกรอบเข้ามาพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป้าหมายในการยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยให้ดียิ่งกว่า

ในฐานะทายาทคนสุดท้องของ ‘คุณจีรพันธ์ อัศวะธนกุล’ ผู้ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) คุณพันธ์ เล่าว่า “เติบโตมากับประกันภัยไทยวิวัฒน์โดยตลอด แต่คุณพ่อไม่เคยบอกว่าจะต้องทำงานที่บริษัท ทว่าในใจลึก ๆ รู้สึกว่าสักวันอาจจะต้องมาช่วยบริหารงานที่นี่”
ด้วยความที่คุณพ่อให้อิสระในการตัดสินใจและเส้นทางชีวิตเต็มที่ คุณพันธ์จึงเลือกศึกษาในด้านการคำนวณที่ตัวเองชื่นชอบในระดับปริญญาตรีที่คณะวิศวกรรมอุตสาหการ ควบคู่ไปกับคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยนอร์ทเวสเทิร์น ในสหรัฐอเมริกา และคุณพันธ์ยังหลงใหลในกิจกรรมระหว่างเรียนอย่างหลากหลาย ทั้งด้านดนตรี การแสดง รวมถึงโปรแกรมวิเคราะห์ธุรกิจของ Kellogg ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นดั่งจิ๊กซอว์ช่วยสร้างเสริมประสบการณ์ในแง่มุมที่แตกต่างกันออกไป
หลังเรียนจบปริญญาตรี คุณพันธ์ยังเลือกที่จะฝึกงานเพื่อช่วยเหลือสังคม โดยนำความรู้ด้านวิศวกรรมศาสตร์มาวางแผนจัดระบบการรักษาคนไข้ในพื้นที่ของเมืองชิคาโก้ที่เข้าถึงการแพทย์ได้อย่างลำบาก จากนั้นเข้าทำงานในสายธุรกิจธนาคาร ก่อนตัดสินใจศึกษาต่อระดับปริญญาโท ด้านการบริหารธุรกิจ ที่ Wharton School of the University of Pennsylvania เพื่อปูพื้นฐานธุรกิจทั้งหมด และมีโอกาสได้ทำงานที่ Boston Consulting Group (BCG) โดยทำหน้าที่ให้คำปรึกษาด้านธุรกิจกับองค์กรใหญ่ ๆ ทั่วโลก
ช่วงที่ทำงานใน BCG นี้เองที่ทำให้คุณพันธ์เก็บเกี่ยวความรู้และประสบการณ์จากหลากหลายธุรกิจมากขึ้น รวมถึงมองเห็นถึงศักยภาพของธุรกิจประกันภัย ประกอบกับตอนก่อนที่จะเข้าทำงานกับ BCG เพื่อน ๆ ที่เรียน MBA ด้วยกันอยากมาเที่ยวเมืองไทย แต่มีงบไม่มาก คุณพันธ์จึงชวนเพื่อนมาฝึกงานที่บริษัทประมาณ 3 เดือน และได้ทำโปรเจกต์เกี่ยวกับความพร้อมของตลาดประเทศไทยสำหรับอีคอมเมิร์ซ ซึ่งปรากฏว่าทำแล้วรู้สึกสนุก รู้สึกว่าสิ่งที่ทำมีผลลัพธ์ตามความเป็นจริง พอคุณพ่อมีไอเดียใหม่ ๆ จึงตัดสินใจเข้ามาช่วย

คุณพันธ์เริ่มต้นงานในโปรเจกต์ประกันรถเปิดปิดจากไอเดียคุณพ่อ ด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในธุรกิจ สร้างทีมกลยุทธ์ของบริษัทขึ้น เพื่อทำให้บริษัทมีแนวทางด้านกลยุทธ์ที่ชัดเจน สามารถตอบโจทย์ด้านความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปทุกวันได้ตรงจุด พร้อมไอเดียใหม่ในการปรับภาพลักษณ์องค์กรให้ทันสมัยขึ้น เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคได้ทุกกลุ่ม
“คุณพ่อค่อนข้างเปิดและให้อิสระในการทำงาน ตอนนั้นเราทำมาร์เก็ตรีเสิร์จ พบว่าคนมองเรากึ่งๆ ข้าราชการ คือเชื่อถือได้ บริการดี แต่เป็นอะไรที่อยู่แบบไม่มีการเปลี่ยนแปลงมาก ก็เลยมีไอเดียที่จะปรับแบรนด์ให้มีการใช้นวัตกรรมมากขึ้น เป็นที่มาของการปรับปรุงแบรนด์ให้คนรู้จักเรามากยิ่งขึ้น มีการทำมาร์เก็ตติ้งมากกว่าเก่า ขณะเดียวกันก็มีกลยุทธ์ในการเดินหน้าโดยใช้นวัตกรรมมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์และเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างตรงจุดที่สุด”
หนึ่งในความท้าทายในการเข้ามาบริหารบริษัทซึ่งปีนี้ก้าวเข้าสู่ปีที่ 72 คือการผสมผสานระหว่างประสบการณ์ที่มีมาอย่างยาวนานและนวัตกรรมใหม่ที่เข้ามา “เราต้องการรันบริษัทให้เหมือนสตาร์ทอัพ คือไม่หยุดนิ่ง มีไอเดียใหม่เสมอ ปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว แต่ในขณะเดียวกันเรามีระบบซัพพอร์ตที่ดี ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงทุนทรัพย์การลงทุนในสิ่งใหม่ๆ หรือการเข้าถึงเครื่องมือใหม่ๆ เพื่อทำให้ไอเดียเหล่านั้นเกิดขึ้นได้จริง”
ผมมองว่าสิ่งสำคัญในการพัฒนาธุรกิจคือการเข้าใจผู้บริโภค เพราะทุกวันนี้โลกเปลี่ยนไปเร็วมาก ความต้องการต่างไปทุกวัน ซึ่งเรานำเรื่อง Design Thinking มาเป็นสูตรในการคิดนอกกรอบเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภค โดยลองมองว่าถ้าตัวเองเป็นผู้บริโภคจริง ๆ เขาจะต้องการอะไรบ้าง ผมเชื่อว่าถ้าเราเข้าใจผู้บริโภค เราก็กล้าที่จะคิดไอเดียใหม่
พันธ์ – เทพพันธ์ อัศวะธนกุล

บริหารด้านการเงินอย่างมืออาชีพ
สำหรับธุรกิจประกันภัย การบริหารด้านการเงินที่ดีถือเป็นหัวใจสำคัญ ที่ช่วยสร้างหลักประกันอันน่าเชื่อถือให้ธุรกิจ คุณพันธ์เองก็ให้ความเอาใจใส่ในเรื่องนี้ไม่น้อยไปกว่าเรื่องอื่น ๆ “จากวิกฤตของโรคระบาดที่ผ่านมา สอนเราเรื่องการดีไซน์โปรดักส์ใหม่ ๆ ว่าจะต้องคำนึงถึงข้อมูลที่เรามีเป็นสำคัญ ต้องบาลานซ์ความต้องการของผู้บริโภค และการรับความเสี่ยงที่เรารับได้ ในธุรกิจประกันเรารับเบี้ยไว้ก่อนแล้วมาจ่ายเคลมทีหลัง ระหว่างนี้เราต้องนำเงินไปลงทุนโดยต้องเลือกในสิ่งที่ให้กำไรกับเราในระยะยาวดีที่สุด แต่ในขณะเดียวกัน ต้องบาลานซ์ความเสี่ยงในการลงทุนด้วย ต้องมีความเสี่ยงที่เรารับได้ เพราะถ้าเกิดเหตุไม่คาดคิดเราต้องมีเงินทุนและกระแสเงินที่จะจ่ายค่าสินไหมออกไปได้ ซึ่งการเลือกแหล่งเงินทุนอย่างธนาคารที่มีชื่อเสียงและได้ได้รับการยอมรับมายาวนานระดับโลก ถือเป็นตัวช่วยให้อุ่นใจได้มากยิ่งขึ้นครับ”
“ส่วนตัวผมเองเลือกใช้บริการ UOB Privilege Banking เพราะทุกวันนี้ผมเองไม่มีเวลามาดูแลการลงทุนตลอดเวลา การที่ผมมีตัวช่วยที่มีทั้งผลิตภัณฑ์และทีมงานที่ไว้ใจได้ ก็ช่วยให้ผมมีชีวิตที่อิสระมากยิ่งขึ้น โฟกัสงานได้เต็มที่ ในขณะเดียวกันก็อุ่นใจว่ารายได้หรือผลตอบแทนที่อยู่กับผู้ดูแล ที่มีความสามารถในการนำไปสู่เป้าหมายที่ผมต้องการ ในรูปแบบความเสี่ยงที่ผมรับได้ นอกจากนั้น UOB Privilege Banking ยังมีโปรแกรมต่าง ๆ มากมายให้ผมได้เรียนรู้ด้วยว่า ปัจจุบันโลกเปลี่ยนไปในทิศทางไหน มีผู้เชี่ยวชาญคอยแนะนำให้ความรู้เรา มีกิจกรรมต่างๆ ให้ผมได้เจอกับเพื่อนในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เพื่อเปิดโลกธุรกิจให้กว้างมากกว่าเดิมด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญและตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผมได้มากเช่นเดียวกัน”

การทำงานอย่างมีความสุขคือความสำเร็จ
นับตั้งแต่คุณพันธ์ก้าวเข้ามาทำงานจนถึงปัจจุบัน บริษัทมีการเติบโตสูงกว่าเท่าตัว รายได้เติบโตกว่า 100% เทียบกับในตลาดคือเติบโตสูงที่สุดในอันดับท็อป 10 ของบริษัทประกันภัยในไทย ชื่อของบริษัทกลายเป็นที่รู้จักของคนทุกกลุ่มตามที่ได้ตั้งใจไว้ แน่นอนว่าคำถามที่คุณพันธ์มักจะได้ยินอยู่บ่อย ๆ คือวิธีการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จต้องเป็นอย่างไร
“ผมเป็นคนหนึ่งที่เชื่อว่าถ้าทำงานอย่างมีความสุขผลจะออกมาดี ฉะนั้นสิ่งที่สำคัญกับผมมาก สิ่งแรกคือความหลงใหลในการทำงาน ผมจะถามตัวเองหรือเพื่อนร่วมงานตลอดเวลา ว่ารู้มั้ยว่าตอนนี้ทำเพื่ออะไรอยู่ ทุกๆ อย่างจะต้องมีแรงบันดาลใจเสมอว่าเราทำไปแล้วเพิ่มคุณค่าจริงมั้ย มีประโยชน์จริงหรือเปล่า ถ้าไม่มีก็สามารถเปลี่ยนได้เลย หรือนำเสนอไอเดียใหม่ได้ เรื่องที่สองคือต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจน ผมมองว่าถ้าเรามีเป้าว่าทำโปรเจกต์นี้ไปเพื่ออะไร หรือใน 1 ปี 3 ปี เราต้องการเป็นยังไง ถ้าเราเชื่อมั่นว่าเป้าที่ตั้งไว้ทำได้จริง เราก็จะไปถึงมันให้ได้ ฉะนั้นผมมองว่าถ้ามี Passion และ Goal เราก็จะไปสู่ความสำเร็จได้ และประสบความสำเร็จอย่างมีความสุขด้วย“
ส่วนเป้าหมายในอนาคต ผมมองว่าทุกอย่างไม่หยุดนิ่ง เราต้องมี Mindset เป็นน้ำไม่เต็มแก้ว เราต้องไม่หยุดที่จะพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นเรื่อยๆ คิดเผื่อผู้บริโภคในทุกด้าน ส่วนความสำเร็จจะวัดยังไงผมมองว่าในมุมหนึ่งคือเรื่องของ Financial Performance เราต้องการเป็นแถวหน้าด้านประกันภัย และเป็นประกันในดวงใจของคนไทย แต่อีกมุมผมอยากให้ตัวเองและคนในองค์กรรู้สึกว่าเราทำแล้วมีประโยชน์และมีคุณค่าด้วย ถ้าเรามีความสุขและเติมเต็ม ก็ถือว่าประสบความสำเร็จในการทำงานครับ”
สำหรับนักธุรกิจที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ทุกนาทีคือการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่แตกต่าง แต่คุณพันธ์ก็แบ่งเวลาเพื่อการพักผ่อนและออกกำลังกายอยู่เสมอ ซึ่งบ่อยครั้งก็มีไอเดียความคิดใหม่ ๆ เกิดขึ้นในช่วงเวลาพักผ่อน หรือแม้แต่ตอนเล่นกับสุนัข ซึ่งคุณพันธ์เลี้ยงไว้มากถึง 14 ตัว.
ติดตามบทสัมภาษณ์แบบเต็ม ๆ ได้ในนิตยสาร HELLO! VOL.18 NO.6 วางแผงแล้ววันนี้