‘นินจา’ สุวพรรณ วัธนเวคิน ทายาทธนาคารเกียรตินาคิน กับ เสน่ห์เกินห้ามใจของ ‘พรมเปอร์เซีย’ มูลค่ากว่า 2 แสน
หลายๆคนอาจจะเคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของเธอมาบ้าง แต่ถ้าบอกว่าเธอคนนี้คือทายาทคนสวยของ ‘ธนาคารเกียรตินาคิน’ อาจจะทำให้ร้องอ๋อ!!! … และวันนี้ HELLO! จะพามารู้จัก Young Celebrity คนล่าสุด ‘คุณนินจา’ สุวพรรณ วัธนเวคิน หญิงสาวที่เติบโตมาในครอบครัวที่ให้ความสำคัญเกี่ยวกับตัวเลขมาตลอดชีวิต

คุณนินจา-สุวพรรณ วัธนเวคิน ลูกสาวคนโตวัย 31 ปีของ ‘คุณพ่อสุพล-คุณแม่พัชนี วัธนเวคิน’ ปัจจุบันดูแลด้าน Project Developer ในส่วนของธุรกิจโรงแรมของครอบครัว และธุรกิจพรม Kustom Karpets Company ซึ่งเป็นธุรกิจส่วนตัวที่ทำร่วมกับเพื่อน
ทำไมต้องชื่อ ‘นินจา’ ??

“เพราะคุณแม่ (คุณพัชนี วัธนเวคิน) ไม่อยากให้ใครมาซ้ำ บวกกับช่วงนั้นเป็นช่วงที่ภาพยนตร์เรื่องนินจา เข้ามาฉายในประเทศไทยพอดี คุณแม่ก็เลยอยากได้ชื่อนี้เพราะมันไม่ซ้ำใครดี ในส่วนของน้องๆก็มีชื่อค่อนข้างจะธรรมดา เพราะน้องชื่อณิค (สุพัชร วัธนเวคิน) กับเนย (พรรณพัชร วัธนเวคิน) ถ้าเอาจริงๆก็คือ ‘นิคเนม’ กับ ‘เนยแข็ง’ ซึ่งทั้งคู่เลือกที่จะเรียกตัวเองแบบธรรมดาได้ จะมีแค่จาเท่านั้นที่ทราบ’
อยากจะล้อก็ล้อกันไป ล้อเสร็จแล้วยังไงก็ต้องจำได้ !!!
แรงบันดาลใจ ในการเรียนอาร์ต
“จริงๆ จาอยากเป็นแบบคุณพ่อมาก คือมีคุณพ่อเป็นไอดอล เพราะในฝั่งครอบครัวคุณพ่อก็จะทำงานเกี่ยวกับตัวเลขและเศรษฐกิจกันทั้งครอบครัวเลย และจาก็คิดมาตลอดว่า งานสายนี้คือ งานเดียวที่เราจะหาเงินได้!! เชื่อแบบนั้น ก็ลองพยายามเรียนมา แต่สรุปว่า เรียนคาบเส้นมาตลอด !!”
จากความคิดที่ว่า ‘ธุรกิจการเงิน’
คือ งานเดียวที่เราจะหาเงินได้ !!!
“พอจะเข้ามหาวิทยาลัย ก็เครียดมาก เพราะคิดว่าคงไม่มีมหาวิทยาลัยไหนรับเราแน่ๆ จนคุณแม่แนะนำว่า ‘แม่เห็นจาชอบวาดการ์ตูน แต่แม่ไม่แนะนำให้วาดการ์ตูนนะ มันดูไกลเกินไป คุณแม่เลยบอกว่าลองเป็นอินทีเรียดีไซน์ดูมั้ย แม่ชอบ…’ เพราะคุณแม่แม้จะไม่ได้เรียนมาทางสายนี้ แต่ท่านมีความสามารถด้านนี้ คือสามารถออกแบบจัดบ้านแต่งบ้านได้ โดยไม่ต้องใช้ดีไซเนอร์เลย แต่สมัยคุณแม่คือ ลูกๆทุกคนต้องเรียนบัญชีเท่านั้น จาใช้เวลาทำพอร์ตรวบร่วมผลงานประมาณ 6 เดือน จากนั้นก็ยื่นผลงานเข้าสมัครมหาวิทยาลัยอาร์ตเลย”
“พ่อคิดว่า ถ้าชอบอะไร ก็จะทำได้ดี และหาเงินได้อยู่แล้ว!!”
ผู้ชายในฝันของสาวอาร์ต

“จาชอบวาดการ์ตูนมาตั้งแต่เด็ก ทำให้สเปคที่จากชอบจะต้องเหมือนพระเอกในการ์ตูน…แต่ก็ไม่เคยหาได้เลย !!! พอโตขึ้นมาเรื่อยๆ ก็ขยับมาเป็นว่าเอาแค่หน้าตาดีแบบพระเอกการ์ตูน แต่ขอนิสัยเหมือนคุณพ่อก็แล้วกัน

และปัจจุบันสามี (คุณเอ็ม-กรวิภพ มณฑารพ) ก็ทำงานธนาคาร เป็นผู้ชายที่ไร้ความอาร์ตโดยสิ้นเชิง มันเลยกลายเป็นความต่าง ที่ลงตัว”
ถึงเราเป็นคนติส แต่ถ้าแฟนติส เราไม่ชอบ!!!
การฝึกงานกับ ‘ศิลปินไอดอล’

Cr.epochtimes.com
“จริงๆ ก็ชอบหลายคน แต่ว่าคนที่ชอบมาก ชอบตลอดกาล ก็คือ ‘Tony Chi‘ เขาเป็นดีไซเนอร์ที่อยู่ที่นิวยอร์ก และจาเคยมีโอกาสได้ไปทำงานกับเขาอยู่ 1 ปี เหมือนที่มหาวิทยาลัยจะซัพพอร์ตเรื่องวีซ่าให้ 1 ปีสำหรับทำงานหรือฝึกงาน จาก็เลือกเจาะจงเลยว่า จาจะฝึกงานกับคุณโทนี่ เท่านั้น!! ตอนแรกเขาก็ไม่อยากรับ เพราะเขาเล่าว่า ‘เขาเคยรับนักศึกษาฝึกงาน แล้วเขาก็สอนงานจนเหนื่อย สอนเสร็จแล้วก็ไป ก็หมดกำลังใจ’ จาเลยบอกว่า ‘รับจาเหอะ จาสัญญาปีเดียว ครบสัญญาจาก็จะกลับกรุงเทพฯ’ พอคุณโทนี่เห็นความตั้งใจก็เลยรับและจัดโปรแกรมเทรนด์ให้”
ความอาร์ตในตัว ‘นินจา’
“จาไม่ใช่คนที่อาร์ตมาก ไม่ได้คิดว่าจะจินตนาการ สร้างอะไรที่มันแปลก แตกต่าง ก็คงไม่ใช่ แล้วจาเพิ่งมาค้นพบว่าตัวเองอยู่ตรงกลาง จะให้เลขจ๋าก็ไม่ใช่ แต่จาชอบลงไปดู ไปจัดการในทุกรายละเอียด และให้แต่ละงานมีความเกี่ยวข้องกับอาร์ต”
จุดเริ่มต้นของ ‘ธุรกิจพรม’
“เริ่มมาจากตอนที่มาทำอินทีเรีย แล้วประสบปัญหาว่า ‘หาพรมที่ดี ราคาดี ที่เข้ากับงานเราไม่ได้’ แล้วบังเอิญเป็นจังหวะที่เพื่อนเข้ามาชวนทำพอดี จาเลยรู้สึกว่า ลองดูก็ได้ โดยคิดแค่ว่า ‘ฉันจะได้เอาพรมของฉัน ไปอยู่ในดีไซน์ของตัวเอง’ แต่พอหลังๆก็รู้สึกว่าไม่อยากทำแล้วอินทีเรีย ทำพรมดีกว่า”
หาซัพพายเออร์ที่เก่ง และไว้ใจได้ โดยใช้สันชาตญาณ
เพราะจาเชื่อว่าถ้าเขาไว้ใจได้จริงๆ เขาก็จะให้ความรู้เราจริงๆ
เสน่ห์ของ ‘พรมเปอร์เซีย’

“เริ่มขึ้นจากน้องเนยอยากไปประเทศอิหร่าน แล้วอิหร่านเป็นประเทศต้นกำเนิดของพรมเปอร์เซียมากว่า 2,500 ปี จาก็บอกกับไกด์เลยว่า จะต้องพาไปในที่ ที่มีพรมเยอะๆ และพอไปถึงจาก็มีโอกาสได้เจอกับ ‘Mr.Babak Alaei’ ปัจจุบันก็เป็นพาร์ทเนอร์กัน ซึ่งครั้งแรกที่เห็นคือ พรมเขาสวยมาก ลวดลายแปลกๆ ก็เลยเริ่มคุยติดต่อกัน ตามอินสตราแกรมเขา แล้วพอเห็นชิ้นไหนสวย จาก็จะถามเขาว่าอันนี้คืออะไร เขาก็จะเล่าเรื่องราว ประวัติความเป็นมา ลายนี้มายังไง ใครเป็นคนคิด…จนวันนึง จาบอกเพื่อนว่า ‘จาอยากทำอีเว้นท์!!!’ โดยใช้เวลาเตรียมงาน 2 เดือน”

“ตามจริงแล้วคนอิหร่านจะใช้สำหรับนั่งสวดมนต์เวลาไปวัด หรือไปปิกนิคที่สวนสาธารณะ เรียกว่าเป็นพรมประจำตัวเลยก็ว่าได้ เหมือนพรมเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน

อย่างผืนนี้จะมีลวดลายที่แปลก และละเอียดมาก เป็นลายที่ได้มาจากสถาปัตยกรรมของอิหร่าน และมีสีสันที่สดใส ซึ่งเป็นสีธรรมชาติ 100% ดูได้จากการที่เรามองแล้วเราไม่แสบตา ด้วยโทนสีน่ารักหวานๆ ซึ่งปกติแล้วพรมเปอร์เซียจะมีโทนสีเข้มออกไปทางโทนแดง และสามารถแขวนโชว์ได้ทั้งในแนวตั้งและแนวนอน ส่วนความประณีตในการถักทอ ใช้น็อตที่สูง ทำให้มีความละเอียดมากที่สุด เท่าที่ปัจจุบันสามารถทำได้ ที่สำคัญคือใช้วัสดุเป็น ซิลค์ ออน ซิลค์ ซึ่งเป็นวัสดุที่ดีที่สุด ทำให้ได้เนื้อสัมผัสที่นุ่มมาก และมีลายปักที่เป็นลายเซ็นต์ของเจ้าของผลงานที่ค่อนข้างมีชื่อเสียง ทำให้พรมผืนนี้ยิ่งมีความพิเศษมากขึ้นไปอีก”
“พรมเปอร์เซีย เป็นสมบัติที่สามารถส่งต่อรุ่นสู่รุ่นได้
หากอาร์ติสคนนี้เสียชีวิต ด้วยชื่อเสียงที่สั่งสมมา
จากพรมราคาหลักแสน อาจจะกลายเป็นหลักล้านได้”
เทคนิคการดูแลรักษาพรมผืนโปรด
“การดูแลทำความสะอาดพรมอย่างผืนนี้ดูแลไม่ยาก ใช้เครื่องดูดฝุ่นอย่างเดียวเลยค่ะ แต่ต้องเบาๆหน่อย หรือจะแค่นำมาสบัดก็ได้ เพราะด้วยน็อตที่สูงมากๆ ทำให้เมื่อฝุ่นร่วงลงไป มันจะลอยอยู่ด้านบน”

เพราะบทเรียนทางธุรกิจ : ความต่างของอายุ คือ ‘โอกาส’
“คนที่อายุมากกว่าเขาจะรู้อะไรมากกว่า จาชอบฟัง จาว่ามันคือโอกาส เพราะจาจะฟัง และของความรู้จากเขา ถ้าสิ่งที่ได้มามันแตกต่างจากที่เราเคยรับรู้ เราก็จะนำมาเปรียบเทียบ และหาข้อมูลเพิ่มเติม และพูดในสิ่งที่เรามั่นใจ”
บทสรุปของสาวสวยคนเก่ง จากเด็กที่เคยเรียนได้คะแนนแบบคาบเส้น…สู่ความสำเร็จในธุรกิจพรม
……………………………….
Cr.Photos : Supol , Suwapan Wattanavekin