เชื่อว่าหลายคนคงยังประทับใจในบรรยากาศของงานแต่งงานที่อบอวลไปด้วยความรักของคุณโบว์และคุณแบงค์ ที่เกิดขึ้น ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพ เมื่อปลายปีก่อน ซึ่งเรื่องราวความรักของทั้งคู่ถือได้ว่าสร้างแรงบันดาลใจให้กับหนุ่มสาวที่หวังว่าจะมีโอกาสพบรักแท้ที่มาเติมเต็มชีวิตแบบทั้งคู่บ้างเช่นกัน ชญาดา ลิ่วเฉลิมวงศ์-ร.อ.กฤชพล เศวตนันทน์
แต่กว่าจะมาถึงวันนี้หลายคนคงต้องประหลาดใจเป็นแน่ ถ้าจะบอกว่าบ่าวสาวคู่นี้รู้จักกันมา 25 ปีแล้ว!!! เพราะด้วยชื่อเสียงกิตติศัพท์ความสวยและเก่งของคุณโบสาว รร.เซนต์โยแซฟคอนแวนต์ที่ดังขจรขจายไปถึงหูคุณแบงค์ หนุ่มรุ่นพี่ รร.กรุงเทพคริสเตียน ทว่า ก็ยังไม่มีโอกาสรู้จักกัน กระทั่งคุณโบย้ายมาเรียนมัธยมปลายที่ รร.เตรียมอุดมศึกษา ส่วนคุณแบงค์มาเรียน รร.สาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน จึงได้รู้จักกัน จากนั้นพระพรหมก็ลิขิตให้ทั้งสองต่างมีทางเดินชีวิตของตัวเอง เคยเจอะเจอกันบ้างตามงานอีเวนต์ต่างๆ ก็แค่ทักทายกันตามมารยาท แล้ววันหนึ่งคุณแบมก็กลายเป็นกามเทพให้คู่นี้อย่างไม่รู้ตัว เมื่อเธอเปิดร้านอาหารออร์ เดรย์ที่ทองหล่อ คุณแบงค์ทราบข่าวก็ชวนเพื่อนๆ มาอุดหนุน นับจากนั้นทั้งคู่ต่างก็ยึดพื้นที่ในหัวใจของกันและกันอย่างไม่ทันรู้ตัว
“ตอนนั้นผมโสดมาพักใหญ่ ได้นั่งคุยกับโบวันนั้นยังแซวเขาเล่นๆ ว่ามีใครแนะนำพี่ไหม เพราะรู้สึกว่าเราเป็นพี่เป็นน้องกัน แต่คุยกันไปมาก็รู้สึกถูกคอขึ้นเรื่อยๆ ทุกอย่างเป็นธรรมชาติมาก ทำให้รู้สึกดีที่ได้คุยกัน จนชอบเขาโดยไม่รู้ตัว” หลายครั้งที่ความแตกต่างมาเติมเต็มความรักของคนสองคน ทว่าคู่นี้กลับเป็น ‘ความเหมือน’ ในไลฟ์สไตล์ที่พันผูกทั้งสองไว้ด้วยกัน
“ทุกคนมีความต้องการในชีวิตคู่แตกต่างกัน คู่เราลงตัวที่ไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่าการมีกันและกัน เดินเคียงข้างกันไป เราสองคนติดครอบครัวมาก อย่างพี่แบงค์เลิกงานก็ขอกลับบ้านไปเจอคุณแม่ก่อน ได้ทานของว่าง ได้กอดได้หอมท่านแล้วค่อยมาทานข้าวเย็นกับโบ ส่วนโบถ้าว่างเมื่อไหร่ก็จะโทร.หาที่บ้านว่าใครทำอะไรอยู่ที่ไหน ครอบครัวเราถามหากันตลอด บางทีโบกับพี่แบมก็นั่งคุยกันถึงตี 1 ตี 2 ตี 3 ก็มี คุยกันทุกเรื่องเหมือนตอนเราเป็นเด็กๆ เวลาพี่แบงค์ไปบ้านก็นั่งคุยกับคุณแม่กับน้องๆ คุยไปเรื่อยๆ ไม่รู้จบเหมือนกัน เราคบกันแต่ก็ต่างมีเวลาส่วนตัวที่ได้กลับไปใช้เวลากับครอบครัวของตัวเอง แล้วค่อยกลับมาเจอกัน โชคดีที่ครอบครัวเป็นเรื่องสำคัญในชีวิตเราเหมือนกัน เราเลยเข้าใจและไม่เคยทะเลาะกันเรื่องนี้เลย”
แต่ถ้านอกเวลาครอบครัวแล้ว คุณแบงค์ก็พร้อมมอบให้คุณโบเป็นคนสำคัญที่สุดของเขาเสมอ ครั้งหนึ่งคุณโบเปรยถึงร้านไก่ทอดเที่ยงคืนเจ้าดังที่เชียงใหม่ เพราะเธอนึกอยากทานน้ำพริกหนุ่ม ปลาทู ไข่ต้ม พอพูดจบ คุณแบงค์ก็ถามขึ้นว่า “ไปกันเลยไหม” ว่าแล้วก็เก็บสัมภาระ จากนั้นเขาก็บึ่งเฟอร์รารี่คันเก่งไปถึงเชียงใหม่ตอน 5 ทุ่ม ต้องนั่งรอร้านเปิดอีกพักหนึ่ง อิ่มอร่อยสมใจแล้ว รุ่งขึ้นแวะไหว้พระแล้วก็ขับกลับกรุงเทพฯ
“ตลอดระยะเวลาที่คบกัน สิ่งที่พี่แบงค์แสดงออกเป็นคำตอบให้กับความรู้สึกกล้าๆ กลัวๆ ในใจโบทุกอย่างว่าพี่แบงค์คือคนที่ใช่ เขาพิสูจน์ให้โบเห็นหลายอย่าง ตั้งแต่การดูแลเอาใจใส่เราสองคนแม่ลูก ก่อนที่เขาจะแยกกลับบ้านตัวเอง จะต้องดูแลให้โบกับน้องอชิเข้านอนเรียบร้อย ปิดไฟให้ คอยล็อกบ้านและดูแลความปลอดภัยให้ทุกคืน เพราะเขารู้ว่าเราอยู่บ้านกันสองคน พี่แบงค์ทำอย่างนี้มาตลอดตั้งแต่เราคบกัน จะไปเที่ยวไหน ทำอะไร เขาจะคอยดูแลโบกับน้องอชิตลอด นอกจากฐานะคนรักแล้ว พี่แบงค์ยังเป็นผู้ปกครองให้น้องอชิในพาร์ทของผู้ชายด้วย”
“ผมไม่เคยแต่งงานและไม่ได้วาดฝันเรื่องครอบครัวไว้ แต่เมื่อคบกับโบ ผมอยากแต่งงานตั้งแต่สัปดาห์แรกที่เราคบกัน คิดว่าเจอแล้วผู้หญิงที่จะเป็นคู่ชีวิตผม ผมเคยคิดว่าถ้าได้คู่ชีวิตที่เหมือนคุณแม่ที่ใส่ใจดูแลผมกับน้องๆ มาโดยตลอด ท่านใจดี เสียสละ และทุ่มเทให้ลูกๆ จริงๆ แม้ผมจะโตแล้วแต่คุณแม่ก็ยังปฏิบัติกับผมเหมือนเดิม ไม่ว่าจะไปต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ ท่านก็ยังอยากจัดกระเป๋าให้ ผมเลยหวังไว้ว่าถ้าเจอคู่ชีวิตที่ได้สักครึ่งหนึ่งของคุณแม่ก็คงจะดี แต่ผมโชคดีกว่านั้นที่โบเหมือนคุณแม่ผมเกือบ 100%” สายตาคุณแบงค์ที่ทอดมองคุณโบขณะที่พูดแสดงถึงความชื่นชมและความภูมิใจในตัวคุณโบไม่น้อย “วันนี้ได้มาเจอเขา ผมอยากแต่งงาน อยากใช้ชีวิตคู่ อนาคตจะเป็นยังไงไม่รู้ ผมคิดแต่เพียงว่าเราต้องจูงมือไปด้วยกันต่อไป แต่เวลากว่า 3 ปีที่ผ่านมา ช่วยให้เราได้เรียนรู้กันมากขึ้นและได้พิสูจน์สิ่งที่ผมคิดไว้ว่าผมเลือกภรรยาได้ถูกคน”
เมื่อความรักลงตัว ทั้งสองใช้เวลาร่วม 2 เดือนในการเตรียมงานฉลองสมรสในธีมวินเทจสไตล์ฝรั่งเศส งานนี้คุณโบใส่ใจในชุดเจ้าสาวเป็นพิเศษด้วยอยากให้เข้ากับชุดราตรีสโมสรทหารบกเต็มยศของคุณแบงค์ โดยมีสองดีไซเนอร์ดูโอดังแห่งวงการเวดดิ้งอย่างคุณวทิต วิรัชพันธุ์และคุณอิทธิ เมทะนี ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Vatit Itthi ช่วยเนรมิตชุดในฝันคุณโบให้เป็นจริงด้วยการวาดลวดลายลงบนเสื้อแล้วจึงปักด้วยมืออย่างประณีต รวมถึงเนื้อผ้าสีพิเศษที่สั่งตรงจากอิตาลี เบ็ดเสร็จแล้วใช้เวลาร่วม 6 เดือนกว่าจึงสมบูรณ์
ในงานแต่งงานของทั้งสองไม่ว่าจะเหลียวมองทางไหนก็มีแต่พรรคพวกเพื่อนฝูงของบ่าวสาว แม้จะเป็นวันแห่งความสุขแต่ทั้งสองก็ไม่เคยลืมน้องอชิ ในงานจึงมีมุมเด็กสำหรับแขกตัวน้อยได้สนุกสนานกันเองระหว่างที่ผู้ใหญ่สังสรรค์กัน ทางด้านคุณบุรินทร์ บุญวิสุทธิ์ นักร้องคนโปรดของทั้งคู่ ก็ให้เกียรติร้องเพลงพร้อมเปิดโอกาสให้เจ้าบ่าวได้ร่วมร้องเพลง “หยุด” คุณแบงค์จึงเรียกเสียงกรี๊ดจากแขกทั้งงานเมื่อแปลงเนื้อเพลงท่อนจบว่า “จะหยุดอยู่ที่โบคนเดียว”
“ชีวิตโบมีทุกอย่างที่ต้องการแล้ว พี่แบงค์มาให้คุณค่าในตัวเรา ทำให้ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งรู้สึกมีความหมายสมบูรณ์มากขึ้น เพียงเท่านี้ชีวิตเราก็เกินพอแล้ว”
………………………………………………………………..
PHOTOS: JAKAWIN PHOTOGRAPHY