Home > Celebrity > ผลงานระดับโลกของ ‘ วีรสิทธิ์ สินเจริญกุล ‘ ซีอีโอรุ่นใหม่ ผู้นำพา ศรีตรังกรุ๊ป สู่ผู้ผลิตและจำหน่ายยางธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุด

การที่ธุรกิจจะก้าวขึ้นเป็นอันดับโลกได้นั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ หากมีความพยายามมากพอ และด้วยความพยายามนี้ที่ คุณจูเนียร์ — วีรสิทธิ์ สินเจริญกุล ได้ผ่านมาเกือบ 10 ปี ทำให้ซีอีโอรุ่นที่ 3 ของ ‘ ศรีตังกรุ๊ป ‘ คนนี้ ปั้นธุรกิจพุ่งทะยานเป็นอันดับหนึ่งของโลก ในฐานะผู้ผลิต และจำหน่ายยางธรรมชาติครบวงจรที่ใหญ่ที่สุด สร้างบันทึกหน้าใหม่ให้กับ ‘ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน)’ ด้วยรายได้ปีละนับแสนล้าน อีกทั้งยังประสบความสำเร็จในการนำพา ‘ศรีตรังโกลฟส์’ ซึ่งเป็นผู้ผลิต และส่งออกถุงมือยางที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกอย่างที่ตั้งเป้าไว้ 

วีรสิทธิ์ สินเจริญกุล
คุณจูเนียร์ — วีรสิทธิ์ สินเจริญกุล

รับไม้ต่อในฐานะ CEO เจนเนอเรชั่นที่ 3

เมื่อมาถึงคำถามที่ว่า ว่าเขารู้ตัวและได้เตรียมตัวที่จะนั่งเก้าอี้ซีอีโอหรือไม่ เขากลับไม่เคยมีภาพของการเป็นซีอีโอในหัวมาก่อนเลย เพราะฉะนั้นช่วงวัยเรียนสนใจอะไร เขาก็เลือกเรียนสิ่งนั้น 

คุณจูเนียร์ วีรสิทธิ์ สินเจริญกุล จบปริญญาตรีด้าน Computer Science จาก The University of Reading, United Kingdom ซึ่งไม่เกี่ยวอะไรกับธุรกิจครอบครัวเลย ก่อนจะเลือกเรียนต่อปริญญาโทบริหารธุรกิจ (การเงินและการตลาด) สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เขาเล่าว่า

“พอโตขึ้นมาหน่อย ช่วงปิดเทอมบางครั้งผมก็ไปฝึกงาน ไปช่วยงานที่โรงงานบ้าง ช่วยแพคถุงมือ  หรือไม่ก็ไปทำโปรแกรมต่างๆ ช่วยออกแบบเครื่องจักรที่ใช้ในโรงงาน ได้ค่าขนมมาบ้างนิดๆ หน่อยๆ เวลาบริษัทฯจัดเลี้ยง เราก็ต้องไปพบแขกและลูกค้าของบริษัทฯบ้าง” 

วีรสิทธิ์ สินเจริญกุล

เมื่อเขาได้ใช้เวลาทั้งชีวิตคลุกคลีกับธุรกิจของครอบครัว ก็ถึงเวลาที่ทางครอบครัวจะยินดีส่งไม้ต่อให้ลูกชายคนโตของบ้าน

“ข้อดีของการเข้ามาสานต่อธุรกิจที่ครอบครัวสร้างไว้ก่อนแล้ว อย่างแรกคือผู้ใหญ่ในสองเจนเนอเรชั่น ได้ต่อสู้และฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ จนวางรากฐานที่แข็งแกร่งไว้ให้ รุ่นเราก็สามารถรับไม้ต่อได้ชัดเจนขึ้น ความที่คุณพ่อผมเป็นนักวางแผน เราจึงได้เรียนรู้จากท่านตลอดเวลา ขณะเดียวกันความท้าทายในการทำธุรกิจคือ จะพัฒนาองค์กรให้ก้าวหน้า และเติบโตไปอีกขั้นได้อย่างไร “

ด้วยสถานะซีอีโอคนล่าสุด ของศรีตรังกรุ๊ป งานของคุณจูเนียร์ทุกวันนี้ คือ การดูแลภาพรวมของบริษัททั้งหมด จำนวนกว่าสิบบริษัท แบ่งเป็นกลุ่มธุรกิจต้นน้ำ จำพวกการปลูกและดูแลสวนยาง 45,000 ไร่ ทางภาคใต้และภาคอีสาน กลุ่มธุรกิจกลางน้ำ คือ โรงงานผลิตยางแท่ง น้ำยางข้น และยางแผ่น จำนวน 36 แห่งทั้งในไทย อินโดนิเซีย และ เมียนมาร์ เพื่อป้อนวัตถุดิบส่งให้ลูกค้าต่างประเทศ และ สุดท้ายคือธุรกิจปลายน้ำ เป็นการนำยางพารามาทำเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ อาทิ ถุงมือยางจากธรรมชาติ ถุงมือยางสังเคราะห์ ท่อไฮโดรลิกส์ และธุรกิจ Service ต่างๆ ให้บริษัทในเครือ

บริหารงาน สไตล์คุณ วีรสิทธิ์ สินเจริญกุล

นำธุรกิจยาง สู่จุดยืนระดับโลก

วีรสิทธิ์ สินเจริญกุล

เป็นความจริงที่ว่า เมื่อหลายประเทศเริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ธุรกิจถุงมือยางก็ยิ่งเติบโตเป็นเงาตามตัวคนอายุยืนขึ้น ผู้สูงอายุเข้าถึงบริการสาธารณสุขเพิ่มขึ้น ความต้องการถุงมือยางเพื่อการแพทย์จึงมากขึ้นตามไปด้วย และเนื่องด้วยสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้ผู้คนล้มป่วยเป็นจำนวนมากถุงมือยาง กลายเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เป็นความต้องการของทั้งโลก

“เมื่อก่อน ในธุรกิจนี้จะสู้กันดุเดือดสุดๆ แต่เพราะกลุ่ม ศรีตรัง ของเรามีความพร้อมในหลายด้าน เราจึงมีความแข็งแกร่งที่สามารถเผชิญสถานการณ์ความผันผวนต่างๆ ได้ ช่วงเวลานี้จึงเป็นช่วงที่เราได้เปรียบ ซึ่งถ้าถามถึงแนวโน้มภาพรวมของธุรกิจยาง และ ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับยางในปีนี้ น่าจะดีกว่าสองปีที่ผ่านมาเพราะตอนนี้หลายประเทศเริ่มเปิดให้เดินทางได้แล้ว ผู้คนมีการเดินทางมากขึ้น สามารถเข้าถึงบริการด้านการแพทย์มากขึ้น ทำให้ความต้องการบริโภคยางและผลิตภัณฑ์ยางมากขึ้นตามไปด้วย”

ด้วยการบริหารถูกต้อง ทำให้ ศรีตรัง ก้าวขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ของโลกด้านการผลิตและจัดจำหน่ายยางพารา แต่ว่ากันว่าการเป็นที่ 1 ก็ยากแล้ว แต่การรักษาความเป็นที่ 1 ให้ได้ยาวนานกลับยากกว่า ซึ่งเขาเองรู้ดีว่า ธุรกิจที่เขาทำมีคู่แข่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ ดังนั้นสิ่งเดียว ที่จะผลักดันให้กลุ่ม ศรีตรัง ยืนหยัดในระดับโลกได้ยาวนาน คือ การไม่หยุดพัฒนาตัวเอง 

วีรสิทธิ์ สินเจริญกุล

“แม้ว่าธุรกิจยางธรรมชาติของกลุ่ม ศรีตรัง จะใหญ่ที่สุดในประเทศไทย แต่เรามีส่วนแบ่งตลาดแค่ 30 เปอร์เซ็นต์ ถ้าเราสามารถขยายไปที่ 50 เปอร์เซ็นต์ได้ จะถือว่าเป็นแนวโน้มที่ดี สำหรับตัวเลขส่วนแบ่งตลาดโลก เราอยู่ที่ 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น แต่ถ้าเราสามารถ ขยายเพิ่มถึง 20 เปอร์เซ็นต์ได้ จะเป็นเรื่องที่ใหญ่สำหรับกลุ่มศรีตรังทีเดียว เพราะนั่นหมายถึงว่า เราต้องมีสัดส่วนการขายเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว ส่วนความต้องการยางสำหรับทำล้อรถยนต์ก็ยังเติบโตทุกปี เรียกได้ว่าเรามีช่องทางไปได้อีกไกล แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไปกันได้อย่างสบายๆ บางครั้งอาจ ต้องอยู่บนเส้นทางที่ลำบากบ้าง แต่ผมบอกกับทีมเสมอว่า ให้เตรียมความพร้อมให้ได้มากที่สุด… มองหาความเป็นไปได้ สร้างความเป็นไปได้ เพราะผมเชื่อว่าทุกอย่างเป็นไปได้” โดย คุณ วีรสิทธิ์

Never miss an update

Subscribe to our newsletter to get the latest updates.

No Thanks
You’re all set

Thank you for your subscription.