เมนูข้าวต้มอาจฟังดูเป็นอาหารจานเดียวแบบง่ายๆ ที่ไม่ต้องผ่านกรรมวิธีการทำที่ซับซ้อน แต่เมนูข้าวต้มของครอบครัวลี้โกมลชัย กลับเป็นเมนูธรรมดาที่ไม่ธรรมดาเลย เพราะคัดสรรเม็ดข้าวที่นำมาปรุง ทำให้ได้ข้าวต้มที่มีกลิ่นรสหอมหวานและกลมกล่อม เป็นเมนูที่สามารถเป็นหน้าเป็นตาอวดแขกของครอบครัวได้เป็นอย่างดี
คุณหวาน-กมลา ลี้โกมลชัย แห่ง Destinare Spa พูดถึงเมนูสุดโปรดของครอบครัวนี้ว่า “ข้าวต้มเป็นเมนูประจำครอบครัวเรามานานแล้วค่ะ ทุกครั้งที่มีแขกมาเยี่ยมบ้าน โดยเฉพาะแขกต่างประเทศ เราจะทำข้าวต้มมาต้อนรับแขก และทุกคนที่ได้รับประทานเป็นต้องขอเติมทุกครั้งค่ะ”
“เราใช้ข้าวใหม่ที่เป็นสายพันธุ์ข้าวหอมมะลิจากจังหวัดสุรินทร์ หรือถ้ามีข้าวพันธุ์หอมใบเตยจากลำปาง เวลาต้มครัวจะหอมฟุ้งไปด้วยกลิ่นใบเตย ที่ต้องใช้ข้าวใหม่ก็เพราะเวลาต้มยางข้าวจะออก ทำให้ข้าวต้มมีความเหนียวหนึบ สำหรับคนที่รักสุขภาพอาจอยากใช้ข้าวกล้อง แต่ไม่แนะนำให้ใช้เพราะยางจะไม่ออก ถ้าจะให้ดีควรเลือกใช้ข้าวซ้อมมือจะดีกว่า ซึ่งนอกจากจะมียางแล้ว เวลาเคี้ยวข้าวจะกรุบๆ แบบสปาเก็ตตี้ที่ต้มแบบอัลเดนเต้”
สำหรับน้ำสต็อก ครอบครัวนี้เลือกใช้โครงไก่ออร์แกนิกเคี่ยวในน้ำเป้นเวลานานกว่า 3 ชั่วโมง เพื่อให้ได้รสหวานตามธรรมชาติจากโครงไก่ โดยไม่ต้องเติมผักและใช้เครื่องปรุงรสให้น้อยที่สุด ถ้าอยากได้รสเค็มหน่อยก็อาจเติมเกลือธรรมชาติเล็กน้อย และเพิ่มความหอมด้วยรากผักชีกระเทียมพริกไทย
ด้วยความที่ต้องรับประทานข้าวต้มตอนร้อนๆ เพื่อความเอร็ดอร่อย จึงต้องเผื่อเวลาปรุง 10-15 นาที และต้มข้าวสารในน้ำสต็อกบนไฟกลาง สามารถเลือกได้ว่าจะใส่เนื้อสัตว์อะไร
ด้วยความที่พี่สาวของคุณหวานแต่งงานกับชาวฮ่องกง บางครั้งก็อาจมีเป๋าฮื้อแห้ง หรือไม่ก็เห็ดหอมแห้ง หรือแล้วแต่วัตถุดิบที่ได้มา สำหรับครั้งนี้คุณหวานได้หอยเชลล์สดๆ จึงนำมาปรุงเป็นข้าวต้มหอยเชลล์ที่อร่อยไม่เบา โดยเสิร์ฟพร้อมกระเทียมออร์แกนิกเจียวหอมๆ มะนาวซีก น้ำปลาดีและพริกป่น สำหรับผู้ที่ชอบรสจัดก็อาจปรุงเป็นรสต้มยำจี๊ดจ๊าดได้ แค่นี้ก็ได้เมนูง่ายๆ ที่อร่อยแบบแคลอรีต่ำทว่าดีต่อสุขภาพได้
ส่วนผสม
ข้าวหอมมะลิ 150 กรัม
น้ำสต็อก 1 ลิตร
รากผักชี 2-3 ราก
หอยเชลล์ตัวใหญ่ 2 ตัว
เกลือ ปลายช้อน
วิธีทำ
ต้มน้ำสต็อกที่เตรียมไว้จนกระทั่งเดือด จึงใส่ข้าวสารลงไปต้มเป็นเวลานาน 8 นาที คอยหมั่นคนข้าวอยู่เรื่อยๆ เพื่อไม่ให้ข้าวติดก้นหม้อ เมื่อข้าวมียางออกมาแล้ว จึงใส่หอยเชลล์ลงไป จนนาทีที่ 12 จึงดับไฟ สามารถปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวหรือน้ำปลาตามชอบ
ติดตามได้ในนิตยสาร HELLO! ปีที่ 15 ฉบับที่ 06 ประจำวันพฤหัสบดีที่ 2 กรกฎาคม 2563
หรือดาว์นโหลดฉบับดิจิตอลได้ที่ www.ookbee.com , www.shop.burdathailand.com