เซอร์เคน โรบินสัน ได้เขียน ถึง 15 โรงเรียนในฝันที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับเด็ก ผู้ปกครองและแม้แต่ครู
เซอร์เคน โรบินสัน ผู้ล่วงลับ อดีตศาสตราจารย์เกียรติคุณทางด้านการศึกษา ณ มหาวิทยาลัยวอริก สหราชอาณาจักร และเป็นผู้บรรยายใน TED Talk ที่มีผู้เข้าชมหลายล้านคนจาก 150 ประเทศ เรียกได้ว่ามากที่สุดในประวัติศาสตร์ของ TED เลยทีเดียว เซอร์เคน โรบินสัน ได้เขียน ถึงโรงเรียนในฝัน 15 แห่ง ที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับเด็ก ผู้ปกครองและแม้แต่ครู
เซอร์เคน โรบินสัน ได้เขียน ไว้อย่างน่าคิดเกี่ยวกับการเรียนรู้ว่า “มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่เกิดมาเพื่อเรียนรู้และเต็มเปี่ยมไปด้วยความสงสัยใคร่รู้ ตั้งแต่ถือกำเนิดมาบนโลก เด็กๆ มีความกระหายที่จะเรียนรู้มากเข้าขั้นถึงขนาดที่เรียกได้ว่าตะกละตะกลาม และความกระหายนี้จะเริ่มจืดจางลงเมื่อเข้าเรียนในโรงเรียน และกุญแจของการปฏิรูปการศึกษาก็คือ การหล่อเลี้ยงให้ความกระหายนี้ยังคงอยู่”
แล้วเราจะหล่อเลี้ยงความกระหายนี้ได้อย่างไร HELLO! Education ได้รวบรวมโรงเรียนในฝันที่เซอร์เคน โรบินสันเขียนว่า โรงเรียนเหล่านี้ ไว้ในหนังสือ Creative Schools. The Grassroots Revolution That’s Transforming Education ซึ่ง 15 โรงเรียนในฝันนี้จะเป็นอย่างไร มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
Smokey Road Middle School
นิวแนน จอร์เจีย สหรัฐอเมริกา

ในอดีตมากกว่า 60% ของจำนวนนักเรียนโรงเรียนนี้จัดอยู่ในกลุ่มผู้ด้อยโอกาสทางเศรษฐกิจ ครูใหญ่ลาออกไปสี่คนภายในระยะเวลาห้าปี และจุดพลิกผันที่ทำให้ Smokey Road Middle School ได้รับรางวัลโรงเรียนดีเด่นแห่งรับจอร์เจีย (Georgia Title I Distinguished School) และรางวัลโรงเรียนดาวรุ่ง (MetLife-NASSP Breakthrough School) และครูใหญ่ก็ได้รับรางวัลผู้บริหารโรงเรียนมัธยมต้นดีเด่นปี 2013
ก็เพราะครูของโรงเรียนนี้จะไม่บังคับเด็กเข้าเรียน แต่จะใช้วิธีขอความร่วมมือจากนักเรียนแทน ทำให้สถิติการเข้าเรียนสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และการรายงานความประพฤตินักเรียนก็ลดลงฮวบฮาบ หากนักเรียนคิดว่ากีฬาเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตตัวเอง ครูก็จะแสดงให้เห็นว่าเห็นด้วยกับเขา ทำให้ปัญหาทางวินัยและการเรียนลดลงอย่างเห็นได้ชัด คะแนนสอบของทุกกลุ่มย่อยเพิ่มสูงขึ้น เพราะครูจะฟังว่าอะไรคือสิ่งสำคัญสำหรับเด็กแต่ละคน
Analy High School
เซบาสโตโพล แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา

เมืองเซบาสโตโพลเป็นแหล่งกำเนิดของนิตยสาร Make ซึ่งเป็นกระบอกเสียงสำคัญของ Maker Movement ที่เป็นกลุ่มคนทำธุรกิจขนาดเล็กซึ่งผลิตสินค้าขายเอง ซึ่งนิตยสารนี้บริจาคอุปกรณ์การผลิตข้าวของต่างๆให้ Analy high School โดยมีข้อแม้ว่าจะต้องยกระดับการเรียนการสอนวิชาสายอาชีพ
“สิ่งที่น่าตื่นเต้นมากคือ การเผยให้เห็นแง่มุมการเป็นผู้ประกอบการ กิจกรรมนี้เอื้อต่อการประกอบธุรกิจในอนาคตมากกว่าการเข้าเรียนมหาวิทยาลัยเสียอีก เด็กๆ ช่วยกันออกแบบเครื่องประดับแสนเก๋ แล้วนำไปขายได้เป็นมูลค่ากว่าพันดอลลาร์” เคซีย์ เชีย ครูที่ Analy High School กล่าว
De La Salle Education Center
แคนซัสซิตี้ มิสซูรี สหรัฐอเมริกา

นักเรียนจำนวนมากของที่นี่เคยถูกไล่ออกจากโรงเรียนอื่น และมีอีกไม่น้อยที่มีอดีตไม่สวยงามนัก อดีตสถาปนิกชื่อสตีฟ รีส จึงริเริ่มโครงการ (Mentoring Program) ด้วยการจับคู่นักเรียนกับคนในแวดวงธุรกิจของแคนซัสซิตี้ ทำให้เด็กมองเห็นอนาคตของตัวเองได้อย่างชัดเจนขึ้น
ต่อมาเขายังเปิดโครงการ Minddrive เป็นองค์กรไม่แสวงหากำไร เพื่อให้เด็กนักเรียนประกอบรถยนต์ขึ้นมาจากซากรถเก่า ปัจจุบันมีนักเรียนจากต่างพื้นที่มาเข้าร่วมถึง 7 แห่ง ทำให้เด็กเรียนดีขึ้น อยากเรียนให้จบมัธยมปลาย และ 80% ของนักเรียนเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัย”
สตีฟยังบอกอีกว่า “มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง จากที่เคยสอบตกและใครๆก็ตราหน้าว่า ไม่มีอนาคต มาตอนหลังเธอติดอันดับนักเรียนดีเด่นของโรงเรียนและเข้ามหาวิทยาลัย”
North Star Self-Directed Learning for Teens
แฮดลีย์ แมสซาชูเซทท์ สหรัฐอเมริกา

ศูนย์การเรียนรู้ที่ตั้งขึ้นเพื่อช่วยให้เด็กวัยรุ่นค้นพบความหลงใหลในการเรียน แม้จะไม่ใช่โรงเรียนทั่วไป แต่ที่นี่ก็สามารถทำหน้าที่ได้ดีไม่แพ้โรงเรียนเลย (ทางศูนย์ฯ ไม่ได้รับการรับรองในฐานะโรงเรียน)
เคน แดนฟอร์ด ผู้ร่วมก่อตั้งบอกว่า “North Star ตั้งขึ้นเพื่อวัยรุ่นท่ีไม่มีความสุขในการเรียนที่โรงเรียน วัยรุ่นที่ไม่อยากไปโรงเรียน นักเรียนของเราบางคนได้เกรดเอทุกวิชา บางคนก็มีงานอดิเรกทำ ขณะที่บางคนไม่รู้แม้กระทั่งเรื่องง่ายๆ และมีปัญหาสารพัด”
North Star เข้าใจดีว่า การเรียนรู้มีได้หลากหลายรูปแบบ และเด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน ถ้าสอนเด็กด้วยวิธีการที่เอื้อกับการเรียนรู้ของเขามากที่สุด และทำให้เขาสนใจมากที่สุด ก็จะเรียนรู้ได้อย่างก้าวกระโดด ทำให้การเรียนจะต้องลองออกนอกกรอบดูบ้าง และสามารถตอบสนองความต้องการของผู้เรียนได้อย่างเหมาะสม
Everton Free School & Football College
ลิเวอร์พูล อังกฤษ

ก่อตั้งโดยสโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน บนที่ดินรกร้างในสเปลโลว์เลน โดยได้รับงบประมาณจากรัฐบาลกลาง แต่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการนอกเหนือจากกรอบที่เข้มงวดของหลักสูตรแห่งชาติ และยังมีอิสระในการกำหนดมาตรฐานที่เกี่ยวกับการกำหนดวันเรียน แนวปฏิบัติของบุคลากร และงบประมาณ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยหยิบยื่นโอกาสให้วัยรุ่น
คัลลัม เมนส์ นักเรียนของที่นี่เคยประสบปัญหาในการเรียน แต่เมื่อมาเรียนที่ Everton แล้วเขาได้คิดว่า “การมาเรียนที่นี่เหมือนคุณได้ทำงานร่วมกับครู ไม่ใช่เพื่อเอาชนะครู คุณจะรู้สึกเหมือนกับว่ามีคนสังเกตเห็นคุณ แสดงให้เห็นว่าคุณสามารถทำอะไรก็ได้ที่คุณต้องการ”
เพราะทางโรงเรียนเชื่อว่า นักเรียนทุกคนมีความสามารถที่น่าทึ่ง จึงสร้างระบบที่ยืดหยุ่นเหมาะกับความสามารถที่แท้จริงของผู้เรียนแต่ละคน
Holy Trinity C of E Primary School
ดาร์เวน แลงคาเชอร์ อังกฤษ

โรงเรียนหนึ่งในหลายแห่งที่เข้าร่วมขบวนการ Slow Education ซึ่งโรงเรียนและชุมชนพร้อมใจกันสละเวลา เพื่อทำความรู้จักนักเรียนแต่ละคนว่าเป็นใคร และสนใจเรื่องอะไร โดยไม่เน้นเกรด แต่ให้ความสำคัญกับการสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างครู นักเรียนและชุมชน ผลที่ได้คือนักเรียนรู้สึกพอใจกับประสบการณ์ที่ได้รับ
นักเรียนเรียกโรงเรียนว่าบ้านหลังที่สอง นักเรียนมีพื้นที่และเวลา ท่ีจะค้นพบความหลงใหลและจุดแข็งของตัวเอง ดังที่โจ แฮร์ริสัน หัวหอกผู้รณรงค์เรื่อง Slow Education ในสหราชอาณาจักร บอกว่า
“Slow Education เป็นเรื่องของการเรียนรู้ที่ลึกซึ้ง ได้ผลลัพธ์ที่เปี่ยมความหมาย โดยมีหัวใจคือการเข้าใจว่าคุณภาพของความสัมพันธ์ระหว่างครูกับนักเรียน สำคัญกว่าการตัดสินนักเรียนจากความสามารถของเขาและการสอบเท่านั้น”
Hobart Boulevard Elementary School
โคเรียทาวน์ ลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา

ด้วยความที่ตั้งอยู่ในเขตผู้มีรายได้น้อย และนักเรียนส่วนมากมาจากครอบครัวผู้อพยพเชื้อสายเอเชียและลาติน เมื่อสามสิบปีก่อนเด็กหลายคนสมัครเข้ามาโดยที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย แต่เมื่อพวกเขาได้เรียนกับเรฟ เอสควิธ ปรากฏว่าเด็กจำนวนไม่น้อยสามารถเข้าเรียนมหาวิทยาลัยไอวีลีก และประสบความสำเร็จในอาชีพ ศิษย์เก่าร่วมกันก่อตั้งมูลนิธิเพื่อสนับสนุนงานของเรฟ
ที่น่าทึ่งไปกว่านั้นคือเด็กเหล่านี้เรียนการละครกับเรฟ ทุกปีเขาจะเลือกบทละครของเชคสเปียร์มาให้เด็กๆ ศึกษาอย่างละเอียด ส่วนในเวลาเรียนเด็กก็อ่านหนังสือที่มีระดับความยากสูง เด็กมีความกระหายในการเรียนรู้ โดยมีคำขวัญว่า “ไม่มีทางลัด” เรฟไปโรงเรียนทุกวันเสาร์เพื่อติวนักเรียนที่เตรียมตัวสอบ SAT เรฟเป็นครูคนแรกที่ได้รับเหรียญ National Medal of Arts
ที่มา : Creative Schools. The Grassroots Revolution That’s Transforming Education หรือชื่อไทยว่า โรงเรียนบันดาลใจ เขียนโดยเซอร์เคน โรบินสัน และลู อโรนิกา วิชยา ปิดชามุก แปล