Digital Transformation อาจส่งผลให้งานในปัจจุบันและงานในอนาคตต้องหายไป แต่ขณะเดียวกันก็มีอีกหลายงานอาชีพที่จะเกิดชึ้นทั้งที่วันนี้อาจจะยังไม่มี HELLO! Education จึงนำ 10 งานที่ใหม่จะรุ่งเรืองในปี 2050 มาให้เด็กรุ่นใหม่เตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับ 10 งานใหม่เหล่านี้ในอนาคต
AI Psychologist
สำหรับงานแรกใน 10 งานใหม่ที่จะรุ่งเรืองในอนาคต 2050 นี้ก็คือ งาน AI Psychologist ใครที่ชอบอ่านนิยายไซไฟ อาจคิดว่า AI หรือสมองกลอัจฉริยะ จะครองโลกอนาคต และมนุษย์จะถูกปกครองโดย AI ก็เป็นจินตนาการของนักเขียนนั่นเอง ในอนาคต AI อาจคล้ายคลึงกับมนุษย์มากขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่ใช่ผู้ร้าย และในอนาคต AI จะต้องพึ่งพาวิศวกรในการดูแลรักษาจิตใจ ไม่ต่างอะไรกับมนุษย์ที่ต้องพึ่งจิตแพทย์
ในอนาคตวิศวกรที่เชี่ยวชาญเรื่อง Machine Learning จะเพิ่มขึ้นอีกหลายสิบเท่า และจิตแพทย์ AI จะต้องมีความเข้าใจทั้งเรื่องจิตวิทยากับเทคโนโลยีไปพร้อมๆกัน เพื่อให้แน่ใจว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์มีสุขภาพจิตที่แข็งแรง
Chief Productivity Officer
งานอันดับ 2 ในจำนวน 10 งานใหม่ท่ีจะรุ่งเรืองในอนาคต 2050 เกี่ยวพันกับธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด นั่นก็คือธุรกิจที่สามารถฝึกฝนพัฒนาพนักงานให้สามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในโลกที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วได้อย่างทันท่วงที และผู้ที่จะมาช่วยอุดช่องโหว่ตรงนี้ได้ก็คือ CPO (Chief Productivity Officer)
CPO สามารถกระตุ้นกำลังการผลิตให้มีประสิทธิภาพตลอดเวลา ด้วยการดูแลบริการ IT ขององค์กร เพื่อให้แน่ใจว่าองค์กรสามารถบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจ CPO จะจัดการสร้างพัฒนาซอฟท์แวร์ และทำให้มั่นใจว่าจะใช้กระบวนการที่มีประสิทธิภาพที่สุด

Quantum Data Analyst
ความต้องการนักวิเคราะห์ข้อมูลจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และด้วยพัฒนาการของเทคโนโลยี Quantum Computing ทำให้ในอนาคตอาชีพนักวิเคราะห์ข้อมูลควอนตัมจะเป็นที่ต้องการ เพื่อประเมินข้อมูลควอนตัมและช่วยให้องค์กรมีความสามารถในการอัพเกรดระดับการเข้ารหัสควอนตัม
การเข้ารหัสควอนตัมจะมีความสำคัญ เพราะเป็นการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลที่สมบูรณ์แบบ เนื่องจากในอนาคตการเจาะระบบข้อมูลโดยแฮคเกอร์และการรั่วไหลของข้อมูลจะเพิ่มขึ้น การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์จึงเป็นความกังวลหลักของนักพัฒนาธุรกิจ ทำให้ Quantum Data Analyst เป็นหนึ่งใน 10 งานใหม่ในอนาคต 2050 ที่จะเนื้อหอมมากเป็นพิเศษ
Personal Medical Counselor
ตั้งแต่ปี 2014 เป็นต้นมา มีความต้องการบุคลากรทางการแพทย์เพิ่มมากขึ้นถึง 600% และเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ก้าวหน้าขึ้น อย่างเทคโนโลยีพันธุกรรม จะทำให้การรักษาโรคมีความเฉพาะตัวสำหรับคนไข้เป็นรายคนมากยิ่งขึ้น
การรักษาแบบรายคนนี้จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โรคที่เคยเป็นโรคร้ายแรงที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต ความก้าวหน้าทางการแพทย์จะสามารถยืดอายุผู้ป่วยได้ ผลก็คือผู้ป่วยโรคร้ายแรงจะสามารถใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพอย่างยืนยาวมากขึ้น และความต้องการที่ปรึกษาทางการแพทย์ส่วนตัวจะเพิ่มขึ้นอีกมาก เพราะในอนาคตโลกจะต้องรองรับสังคมผู้สูงอายุที่เพิ่มมากขึ้นอีกเช่นกัน
Drone Manager
มีการคาดการณ์กันว่าในปี 2050 โดรนจะเข้ามาแทนที่พาหนะที่ใช้ในการขนส่งทั่วทั้งโลก เพราะโดรนช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และช่วยลดจำนวนยวดยานพาหนะบนท้องถนนได้เป็นอย่างดี
อาชีพนักควบคุมโดรนในอนาคตจึงเป็นที่ต้องการอย่างมาก และการเป็นผู้จัดการเส้นทางบินของโดรนที่เพิ่มสูงขึ้นก็เป็นที่ต้องการมากขึ้นด้วยเช่นกัน
ในอนาคตโดรนจะสามารถขนส่งพัสดุ เรื่อยไปจนถึงขนส่งผู้โดยสาร และจะต้องมีการจัดการเส้นทางบินของโดรน เพื่อป้องกันไม่ให้โดรนชนกัน และสามารถไปถึงที่หมายได้โดยสวัสดิภาพ

Elderly Yoga Instructor
เพราะจำนวนผู้สูงอายุทั่วโลกในปี 2050 จะมีมากถึง 2.1 พันล้านคน จึงมีความต้องการครูโยคะสำหรับผู้สูงอายุ เพื่อดูแลร่างกาย ลดอาการเจ็บปวด (ถ้ามี) และช่วยให้แข็งแรง มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
เป็นไปได้ว่าเทคโนโลยีที่ดีขึ้น และหุ่นยนต์ที่ได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้นเรื่อยๆ จะช่วยให้มนุษย์ในปี 2050 จะมีเวลาว่างสำหรับกิจกรรมทางสังคมมากยิ่งขึ้น การเลือกเล่นโยคะเป็นกิจกรรมยามว่าง จึงมาเติมเต็มเวลาที่มนุษยชาติอาจมีอยู่อย่างเหลือเฟือ
Care-giving Specialist
อาชีพผู้ดูแล ไม่ว่าจะเป็นพยาบาล นักจิตวิทยาประจำบ้าน ผู้ดูแลผู้สูงอายุ และผู้ดูแลเด็ก จะเป็นที่ต้องการมาก เพราะโลกยุค 2050 จะกลายเป็นสังคมผู้สูงอายุ ซึ่งอาจทวีจำนวนมากถึง 277 ล้านคน รวมทั้งประเทศอินเดียและประเทศจีน
แม้ว่าในอดีตอาชีพผู้ดูแลนี้ จะเป็นงานที่มีแต่ผู้หญิง และได้ค่าตอบแทนต่ำ เพราะฉะนั้นจึงน่าจะมีเพิ่มค่าตอบแทนให้สูงขึ้น หรืออาจมีการให้รางวัล เพื่อให้อาชีพนี้มีแรงจูงใจให้คนอยากทำ
Sustainable Building Regulator
ปี 2050 โลกจะมีความต้องการพลังงานทางเลือก ทั้งพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์เพิ่มมากขึ้น เพราะเชื้อเพลิงฟอสซิลกำลังจะหมดไปภายในระยะเวลาเพียง 50 ปีเศษ
ในอนาคตอาชีพที่ปรึกษาพลังงานแสงอาทิตย์จะเป็นที่ต้องการมากหลายเท่าตัว และอาจจะมีความต้องการผู้ควบคุมอาคารพลังงานทางเลือก (Sustainable Building Regulator) สำหรับอาคารต่างๆ ที่ใช้พลังงานทางเลือกมากขึ้นร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยไม่ต้องพึ่งพลังงานฟอสซิลเลย

Soft Skill Consultant
ใครว่างานในอนาคตจะต้องอยู่ในแวดวงดิจิทัลเท่านั้น เพราะงานที่ต้องใช้ Soft Skills อย่างการพูด การเป็นผู้นำ และการจัดสรรเวลา จะกลายเป็นงานที่ช่วยให้มนุษย์สามารถเอาชนะ AI ได้
ถ้าหากคุณมีความเชี่ยวชาญทางด้านนี้อยู่แล้ว และสามารถให้คำแนะนำหรือสอนคนอื่นให้มีความสามารถทางด้านนี้ นี่คืองานที่เหมาะกับคุณ ในฐานะที่ปรึกษาทางด้านซอฟท์สกิลล์ (Soft Skill Consultant) เพื่อช่วยให้ลูกค้าของคุณมีความสามารถที่โดดเด่นคนหนึ่ง
Waste Engineer
งานสุดท้ายใน 10 งานใหม่ในอนาคต 2050 เป็นเรื่องการจัดการขยะที่มีอยู่มากมายบนโลก และการรีไซเคิลขยะก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการจัดการขยะ และอาชีพวิศวกรขยะ (Waste Engineer) ก็จะเป็นที่ต้องการ เพื่อมาแก้ปัญหาขยะเหล่านี้ ซึ่งต้องใช้ความสามารถทางวิศวกรรม และ STEM ในการแก้ปัญหา
วิศวกรขยะอาจจะพัฒนาวิธีแปรขยะเป็นพลังงานสะอาด หรือไม่ก็อาจแปรขยะเป็นอิฐเพื่อใช้สร้างบ้านก็เป็นได้ เพื่อทำให้ขยะมีค่ามากกว่าของเสียที่ต้องกำจัด
ที่มา : metro.co.uk