เรื่องของหลักสูตรการเรียน แน่นอนว่าต้องสำคัญที่สุดสำหรับการเลือกเข้าศึกษาต่อ แต่มีอีกอย่างหนึ่งที่หลายๆ คนก็คงอยากจะรู้เหมือนกันว่า มหาวิทยาลัยไหนบ้างที่จะสวยและน่าอยู่จริงๆ วันนี้ HELLO! Education เลยมาจัดอันดับมหาวิทยาลัยชื่อดังทั่วโลกที่สวยและน่าอยู่ที่สุดในโลก มาฝากทุกคนให้ได้รู้จักกันค่ะ

ประเทศสหรัฐอเมริกา

1. มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย (University of California, Santa Barbara)​ เมืองซานตา บาร์บารา รัฐแคลิฟอร์เนีย มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานตา บาร์บารา อยู่ติดทะเล แถมอากาศดีและมีแสงแดดตลอดเวลา เป็นข้อดีเพราะนักศึกษาสามารถออกมาแฮงค์เอาท์กับเพื่อนๆได้ ไม่ต้องอุดอู้อยู่ในห้องเพื่ออ่านหนังสืออย่างเดียว

2. มหาวิทยาลัยโคโลราโด โบลเดอร์ (University of Colorado, Boulder) เมืองโบลเดอร์ รัฐโคโลราโด มหาวิทยาลัยแห่งนี้ตั้งอยู่บนที่ราบติดกับเชิงเขาของเทือกเขาร็อกกี (Rocky Mountains) ตัวมหาวิทยาลัยนั้นกลมกลืนไปกับทัศนียภาพธรรมชาติ เพราะก่อสร้างด้วยหินทราย หินปูน และกระเบื้องสีแดง และที่สำคัญอย่าลืมไปเล่นสกีด้วยล่ะ

3. มหาวิทยาลัยชิคาโก (University of Chicago) เมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ ผู้สร้างมหาวิทยาลัยชิคาโกตั้งใจสร้างมหาวิทยาลัยแห่งนี้ให้ดูเหมือนมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด อย่างไรก็ตาม อาคารใหม่ๆของ U Chicago ก็มีความโมเดิร์น ซึ่งเติมความสมัยใหม่ให้กับแคมปัสแห่งนี้

4. มหาวิทยาลัยนอร์ทเวสเทิร์น (Northwestern University)​ เมืองอีวานส์ตัน รัฐอิลลินอยส์ มหาวิทยาลัยเก่าแก่แห่งนี้ห่างจากเมืองชิคาโกที่แสนวุ่นวายเพียงแค่ครึ่งชั่วโมง มหาวิทยาลัย-
นอร์ทเวิสเทิร์นมีทั้งธรรมชาติและสถาปัตยกรรมที่สร้างความประทับใจให้กับผู้พบเห็น

5. มหาวิทยาลัยดุ๊ค (Duke University) เมืองเดอร์แฮม รัฐนอร์ท แคโรไลน่า มหาวิทยาลัยแห่งนี้โด่งดังเพราะสถาปัตยกรรมแบบกอทิก (Gothic) นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยดุ๊คยังมีโบสถ์สูง 640 เมตรและป่าเกือบ 2 ไร่ที่นับเป็นจุดเด่นของมหาวิทยาลัย ท่านสามารถชมสวนของมหาวิทยาลัยในตอนเย็นและชมพระอาทิตย์ตกหลังโบสถ์ยามค่ำคืน

6. มหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ (Georgetown University) เมืองจอร์จทาวน์ รัฐวอชิงตัน ดี.ซี. ที่ตั้งของมหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์มีความเก่าแก่ทางประวัติศาสตร์ ตัวมหาวิทยาลัยตั้งอยู่ริมแม่น้ำโพโทแม็คที่มีต้นไม้รายล้อม มีทั้งความงดงามทางธรรมชาติและสถาปัตยกรรมที่สง่างาม ร่ำลือกันว่า ภาพยนตร์แฮร์รี่ พอตเตอร์ เกือบได้มาถ่ายทำที่นี้แล้ว

7.มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย (University of Pennsylvania) เมืองฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย คุณจะรู้สึกเหมือนได้ย้อนยุคกลับไปในห้วงเวลาเมื่อได้มาเยี่ยมมหาวิทยาลัย UPenn แห่งนี้ ซึ่งนับเป็นโอเอซิสกลางเมืองฟิลาเดลเฟียเลยทีเดียว UPenn’s Quad คือชื่อเรียกของจตุรัสกลางมหาวิทยาลัยที่ท่านต้องไปเยือน เพราะเวลาเลิกเรียน นักเรียนและศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยจะเดินกันขวักไขว่ นับเป็นภาพที่น่ามองยิ่งนัก

8. มหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน (Princeton University) เมืองพรินซ์ตัน รัฐนิว เจอร์ซีย์ ไม่เพียงแค่มหาวิทยาลัยแห่งนี้มีสถาปัตยกรรมแบบกอทิคซึ่งงดงามมากอยู่แล้ว พรินซ์ตันยังดูโดดเด่นด้วยเถาวัลย์บนกำแพง นอกจากนี้ พรินซ์ตันมีโบสถ์ขนาดใหญ่เป็นอันดับที่สามของโลกด้วย

9. มหาวิทยาลัยคอร์เนล (Cornell University​) เมืองอีทากา รัฐนิวยอร์ค มหาวิทยาลัยคอร์เนลตั้งอยู่ในกลุ่มภูเขา Adirondack มีน้ำตกอยู่ในมหาวิทยาลัยมากถึง 8 แห่งด้วยกัน

10. มหาวิทยาลัยเยล (Yale University​)​ เมืองนิว เฮเวน รัฐคอนเนคทิคัต ท่านจะรู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลากับไปสู่ยุคกลาง (Medieval Age) เมื่อได้เดินทางถึงมหาวิทยาลัยแห่งนี้

11. มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard University) เมืองแคมบริดจ์ รัฐแมสซาชูเซตส์ ไม่น่าแปลกใจเลยที่มหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในสหรัฐอเมริกาแห่งนี้จะเป็นเลิศทั้งด้านความสามารถของนักศึกษาและความงดงามของตัวมหาวิทยาลัย แคมปัสที่ดูกระจัดกระจายมีแห่งนี้มีความผสมผสานทั้งชีวิตเมืองและชีวิตนักศึกษาวัยเรียน นับว่ามีความโดดเด่นยิ่งนักในบรรดามหาวิทยาลัยไอวี่ลีก

12. มหาวิทยาลัยสมิธ (Smith College) เมืองนอร์ทแฮมป์ตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ มหาวิทยาลัยสมิธเป็นมหาวิทยาลัยหญิงล้วนหนึ่งเดียวที่ติดลิสต์นี้ของเรา ตัวมหาวิทยาลัยมีความผสมผสานของธรรมชาติอันงดความ และสถาปัตยกรรมแบบเก่าและใหม่

ประเทศแคนาดา

1. มหาวิทยาลัยแมคกิลล์ (McGill University) เมืองมอนทรีออล ประเทศแคนาดา มหาวิทยาลัยแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็น “มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดของแคนาดา” ยิ่งพอถึงฤดูหนาวและหิมะตกแล้วยิ่งสวยงามอย่างมาก

2. มหาวิทยาลัยบริติชโคลัมเบีย (University of British Columbia) เมืองแวนคูเวอร์ ประเทศโคลัมเบีย มหาวิทยาลัยแห่งนี้มีสวนหลายแบบหลายขนาดทั่วทั่งมหาวิทยาลัย นอกจากนี้ ยังมีสวนกุหลาบที่สามารถมองเห็นท้องทะเลด้วย

ทวีปยุโรป

1.  มหาวิทยาลัยปารีส ซอร์บอนน์ (Paris-Sorbonne University) กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส มหาวิทยาลัยสัญชาติฝรั่งเศสแห่งนี้นับเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดของโลก​ มหาวิทยาลัยแห่งนี้ตั้งอยู่ในย่านละติน ควอร์เตอร์ ซึ่งเป็นที่โด่งดังในฐานะย่านที่มีมหาวิทยาลัยอยู่เยอะมากในปารีส และมีร้านสำหรับนักศึกษาหลายร้าน

2. มหาวิทยาลัยลูแว็ง (University of Leuven) เมืองลูแว็ง ประเทศเบลเยี่ยม อาคารหลักของมหาวิทยาลัยเหล่านี้มีสถาปัตยกรรมที่ทั้งละเอียดละอ่อนและโอ่โถง ท่านคงไม่แปลกใจเลยที่รู้ว่ามหาวิทยาลัยนี้เคยเป็นปราสาทมาก่อน

3.  มหาวิทยาลัยกลาสโกว์ (University of Glasgow) เมืองกลาสโกว์ ประเทศสก็อตแลนด์มหาวิทยาลัยกลาสโกว์แห่งเมืองสกอตแลนด์มีทางเดินมีหลังคาเป็นรูปโค้งที่โอ่โถง ไม่น่าแปลกใจเลยที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้เคยเป็นศูนย์กลางของยุคเรืองปัญญาของสก็อตแลนด์​

4.มหาวิทยาลัยควีนส์แห่งเบลฟาสต์ (The Queen’s University of Belfast) เมืองเบลฟาสต์ ประเทศไอร์แลนด์ มหาวิทยาลัยแห่งนี้มีอาคารเก่าแก่มากกว่า 300 อาคาร ซึ่งแต่ละอาคารล้วนมีความงดงามในแบบของมัน

5.มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ (Cambridge University)​ เมืองเคมบริดจ์ สหราชอาณาจักร มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์มีสถาปัตยกรรมแนวกอทิคที่จูงใจให้นักศึกษาทั่วโลกต่างอยากสมัครเรียนเข้าที่นี้ แม้จะเป็นเพียงแค่การแลกเปลี่ยนก็ตาม นอกจากนี้ เคมบริดจ์ยังเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลกด้วย

6.รอยัล​ ฮอลโลเวย์ มหาวิทยาลัยลอนดอน (Royal Holloway, University of London) สหราชอาณาจักร มหาวิทยาลัยมีอาคารหนึ่งรูปร่างเหมือนปราสาท ชื่อเดียวกับผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัย และเป็นสถานที่ถ่ายทำละครเรื่องดัง Downton Abbey!

ทวีปเอเชีย

1. มหาวิทยาลัยปักกิ่ง (Peking University, Beijing China) เมืองปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน มหาวิทยาลัยปักกิ่งนับเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของจีน แคมปัสที่นี่มีสถาปัตยกรรมแบบเก่าแก่ นอกจากนี้ สวนหนึ่งในมหาวิทยาลัยยังเคยเป็นสวนของจักรพรรดิจีนด้วย

2. มหาวิทยาลัยยอนเซ (Yonsei University) กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ มหาวิทยาลัยยอนเซเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่และมีการแข่งขันสูงที่สุดของเกาหลีใต้ นอกจากนี้ ยังมีสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่และทัศนียภาพที่เขียวขจี

3.  มหาวิทยาลัยชิงหวา (Tsinghua University) เมืองปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน มหาวิทยาลัยชิงหวามีสถาปัตยกรรมทั้งแบบจีน และตะวันตก นับว่ามีความผสมผสานทั้งเก่าและใหม่เลยทีเดียว

4. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีหนานหยาง (Nanyang Technological University) สิงคโปร์  มหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นหนึ่งในด้านนวัตกรรม รูปทรงการตกแต่งอาคารมีความโมเดิร์น นอกจากนี้ ยังมีหลายอาคารเรียนที่หลังคาปกคลุมด้วยหญ้าสีเขียว เพื่อให้นักศึกษาได้ชม เพิ่มความเขียวเพลินตาให้กับผู้มอง

5. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (Chulalongkorn University) กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมีพื้นที่สีเขียวกว้างใหญ่แม้จะอยู่ใจกลางเมือง​​ นับเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่สอบเข้ายากที่สุดของประเทศไทย นอกจากนี้มีโรงอาหารที่อร่อยด้วย

————————————————————————————-

เครดิต: บริษัท คริมสัน เอ็ดดูเคชั่น https://www.crimsoneducation.org/th-en