หลายบ้านอาจจะเคยประสบปัญหาเรื่องการเกี่ยงกันทำงานบ้านของลูกๆ ไม่ว่าจะเป็นการกวาดพื้น ถูพื้น ล้างจานหรือซักผ้า ล้วนดูเป็นหน้าที่ที่ไม่มีใครอยากทำสักเท่าไหร่ ดังนั้นผู้ปกครองหลายท่านจึงตระหนักว่าการปลูกฝังให้ลูกๆช่วยทำงานบ้านตั้งแต่ยังเด็กนอกจากจะช่วยแบ่งเบาภาระให้ครอบครัวเมื่อเขาโตขึ้นแล้ว ยังเป็นการ สร้างลักษณะนิสัยความมีวินัยที่จะช่วยให้เขาเป็น เด็กที่มีความรับผิดชอบในอนาคต อีกด้วย
เทคนิคง่ายๆในการฝึกให้ลูกช่วยทำงานบ้านที่ HELLO! Education นำมาฝากจะมีอะไรบ้าง ลองมาดูกัน

1.เลือกงานบ้านให้เหมาะสมกับวัย
อย่างแรกที่คุณพ่อคุณแม่ต้องรู้คือ งานที่จะมอบหมายให้เด็กๆทำต้องเหมาะสมกับวัยของเขา โดยในวัย 3-5 ขวบ ซึ่งเป็นวัยที่เขาเริ่มเรียนรู้ในการช่วยเหลือตัวเอง คุณพ่อคุณแม่อาจเริ่มจากการสอนให้เขารู้จักช่วยเหลือตนเองให้มากที่สุดก่อน เช่น การใส่เสื้อผ้าเอง จากนั้นจึงเริ่มฝึกให้เขาหัดพับผ้า เก็บที่นอนให้เรียบร้อยหลังตื่นนอน หรือหากสังเกตว่าเขาชอบคลุกคลีกับสิ่งใดเป็นพิเศษ เช่น ชอบเล่นที่สนามหญ้า อาจลองให้เขาช่วยรดน้ำต้นไม้ในสวนก็เป็นได้
วัย 6-10 ขวบขึ้นไป คุณพ่อคุณแม่สามารถสอนให้ช่วยเหลืองานบ้านที่เป็นชิ้นเป็นอันชัดเจนขึ้นได้ เช่น การล้างจาน กวาดบ้าน หรือช่วยทำอาหาร

2.ทำให้ดูเป็นตัวอย่าง
ไม่เพียงแต่สอนปากเปล่าแต่คุณพ่อคุณแม่ต้องลงมือทำให้ลูกเห็นเป็นตัวอย่างจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด เพราะเด็กจะจำภาพและความรู้สึกในเวลาที่เกิดกิจกรรมนั้นได้ดีกว่าคำอธิบาย นอกจากนั้นการทำให้ดูไปพร้อมๆกับการค่อยๆสอนงานบ้าน จะทำให้ลูกรู้สึกว่าไม่ใช่เป็นการออกคำสั่งแต่เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่คนในครอบครัวสามารถช่วยกันทำได้ หรือหากลูกๆดูไม่สนุกกับงานบ้าน คุณพ่อคุณแม่อาจเสริมความสร้างสรรค์โดยการคิดให้เป็นเกมส์ทำงานบ้านให้รู้สึกสนุกและตื่นเต้นขึ้น เช่น ใครทำเสร็จก่อนชนะ เป็นต้น

3.มีส่วนร่วมและชื่นชมเมื่อเขาทำสำเร็จ
คุณพ่อคุณแม่ควรเข้าไปมีส่วนร่วมกับเขาให้มากในช่วงแรก เพื่อให้ลูกจะรู้สึกว่าสนุกที่ได้ทำและรู้สึกภูมิใจเมื่อทำได้สำเร็จ และที่สำคัญคืออย่าลืมที่จะชื่นชมเป็นกำลังใจให้ลูกเมื่อเขาลงมือทำ ถึงแม้อาจจะทำได้ไม่สำเร็จอย่างที่มอบหมาย แต่กำลังใจจากคุณพ่อคุณแม่จะทำให้เขาไม่ขาดความมั่นใจและอบอุ่นใจที่มีครอบครัวอยู่เคียงข้าง
เพียงเท่านี้ก็น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะทำให้ลูกๆมาสนุกกับการทำงานบ้านมากขึ้น ซึ่งการกระทำเหล่านี้จะช่วยปลูกฝังให้เขาคุ้นชินกับการช่วยเหลือผู้อื่น และเขาจะสามารถเห็นคุณค่าในตัวเอง ที่สามารถแบ่งเบางานของคุณพ่อคุณแม่ได้
Photo Credit :
Unsplash (Mathilde Langevin)
Pexels (Alex Green/ Gustavo Fring/ Polesie Toys)