มีงานวิจัยพบว่า เด็กวัย 5 ขวบจะเริ่มใส่ใจและพูดถึงปัญหาเรื่องรูปร่างของตัวเอง ดังนั้นการที่พ่อแม่จะพูดคุยกับลูกเกี่ยวกับเรื่องสรีระรูปร่างจึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่ไม่เพียงแค่จะทำให้ลูกมีความเข้าใจที่ถูกต้อง แต่ยังช่วยเสริมความมั่นใจให้กับลูกอีกด้วย ซึ่งผู้เชี่ยวชาญได้อธิบายไว้ว่า พ่อแม่สามารถสอนเรื่องเหล่านี้ให้กับลูกได้ตั้งแต่เล็กๆ แม้กระทั่งวัยก่อนเข้าโรงเรียนอนุบาลด้วยซ้ำ วันนี้ HELLO! Education ขอนำเสนอ 6 บทเรียน ที่พ่อแม่สามารถนำไปสอน หรือ พูดคุยกับลูกเรื่องสรีระร่างกาย อย่างเหมาะสม
1. สอนให้รู้จักร่างกายของตัวเอง
สำหรับลูกที่อยู่ในวัยตั้งแต่ 6 เดือนจนถึงก่อนเข้าโรงเรียน พ่อแม่เริ่มจากการสอนเรียกชื่อของอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น มือ เท้า นิ้ว จมูก ตา หรือถ้าเด็กเริ่มโตขึ้นมาหน่อย วัย 1-2 ขวบ พ่อแม่อาจยืนกับลูกหน้ากระจก และฝึกให้ลูกรู้จักทั้งชื่อ และหน้าที่ของอวัยวะต่างๆ เพิ่มเข้ามา เช่น การถามคำถามว่า หูอยู่ที่ไหน? พร้อมบอกว่า หูมีหน้าที่ช่วยให้ลูกได้ยินเสียง เป็นต้น
2. สอนให้รู้จักเรื่อง “สุขภาพ” ก่อน น้ำหนัก
เมื่อพูดถึงสรีระหรือรูปร่างที่ดีควรเป็นเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพที่ดีมากกว่าเรื่องน้ำหนักและรูปลักษณ์ภายนอก ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่พ่อแม่จะสอนให้ลูกรู้ว่า “ไม่มีไซส์เสื้อ ตัวเลข หรือรูปร่างที่เฉพาะเจาะจงที่บ่งบอกว่า นั่นคือความสวย หรือรูปร่างที่ดี” แต่ให้โฟกัสกับการฝึกให้ลูกกินอาหารที่ดี ครบทุกหมวดหมู่ รวมถึงการแบ่งมื้ออาหารและขนม อย่างเหมาะสม เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เพียงพอ
3. สนับสนุนให้ลูก “แอคทีฟ”
พ่อแม่ควรสนับสนุนให้ลูกออกกำลังกาย หรือหากิจกรรมที่ใช้ร่างกายที่ลูกชอบตั้งแต่ยังเด็ก สิ่งนี้จะช่วยทำให้ลูกรู้สึกว่าการออกกำลังกายเป็นเรื่องสนุก ครอบครัวที่ปลูกฝังการออกกำลังกายตั้งแต่เด็กจะพบว่า เมื่อเด็กโตขึ้น เขาจะออกกำลังกายเป็นประจำและจะรู้สึกพึงพอใจในรูปร่างของตัวเอง
4. คุยกันด้วยความเข้าใจบนโต๊ะอาหาร
พ่อแม่ควรทำให้โต๊ะอาหารเป็นที่ปลอดภัยสำหรับการพูดคุยกัน มากกว่าจะทำให้เป็นสนามรบที่มานั่งต่อล้อต่อเถียงกัน หากลูกของคุณไม่ชอบทานอาหารบางอย่าง หน้าที่ของคุณคือ การเสิร์ฟอาหารบนโต๊ะให้ครบทั้ง 5 หมู่ และพูดคุยถึงความสำคัญของการกินอาหารเหล่านั้นให้ครบ รวมถึงผักและผลไม้เช่นกัน เพราะมันจะทำให้ลูกมีพลังงานที่จะออกไปเล่น มีอารมณ์ที่ดี และโตขึ้นอย่างแข็งแรง
หรืออีกวิธีง่ายๆวิธีหนึ่งที่จะทำให้เด็กๆ เข้าใจ คือ การจัดหมวดอาหาร แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มกินสม่ำเสมอ กลุ่มกินบ้าง และ กลุ่มนานๆกินที โดยกลุ่มกินสม่ำเสมอ คืออาหารในชีวิตประจำวัน พวกโปรตีน สลัด ผัก เป็นต้น กลุ่มกินบ้าง เช่น อาหารนอกบ้าน ส่วนกลุ่มนานๆกินที เช่น พวกขนม โดนัท ไอศครีม หรือของอร่อยแต่น้ำตาลสูง ที่ให้โทษต่อร่างกาย
5. แก้ไขความเข้าใจผิดๆของลูก
เมื่อเด็กในยุคนี้ ได้รับข้อมูลข่าวสารจากสื่อต่างๆ มากมายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะโซเชียลมีเดีย ที่ทำให้เกิดมาตรฐานความสวยขึ้นมา ดังนั้น สิ่งสำคัญคือการที่พ่อแม่ต้องช่วยแก้ไขความเข้าใจที่ผิด ทั้งในเรื่องอาหาร การออกกำลัง สรีระรูปร่าง หรือแม้กระทั่งความคิดเห็นของคนอื่น พ่อแม่ต้องทำให้ลูกรู้ว่าคนอื่นๆ ไม่ได้ตัดสินเราจากน้ำหนัก การมีรูปร่างหรือสีผิวที่ผิดแปลกไปจากภาพในโซเชียลมีเดีย
6. พ่อแม่คือตัวอย่างที่ดีที่สุดของลูก
ในฐานะพ่อแม่ สิ่งที่ดีที่สุดที่จะช่วยสอนให้ลูกรู้จักการรักตัวเองก็คือการเป็นแบบอย่างที่ดี อย่าลืมว่าเด็กๆนั้นไม่ได้เรียนรู้จากคำที่พ่อแม่สอนเพียงอย่างเดียว แต่ยังเรียนรู้จากการได้เห็นและได้ยิน ดังนั้นหน้าที่ของพ่อแม่ ไม่เพียงแค่สอนลูกเท่านั้น แต่ต้องเป็นตัวอย่างที่ทำได้จริงอีกด้วย
ที่มา
www.parents.com