การศึกษาไม่มีคำว่า ‘ขีดจำกัด’ สำหรับผู้ที่ต้องการเปิดโลกใหม่และเรียนรู้อยู่เสมอ HELLO! Education จึงขอรวบรวม 8 อันดับ มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดสำหรับนักศึกษาต่างชาติที่เป็นโลกไร้พรมแดนอย่างแท้จริง เป็นศูนย์รวมแนวคิดและนวัตกรรมล้ำสมัย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการติดตามเทรนด์ใหม่ๆ และต้องการจะก้าวไกลในเส้นทางสายอาชีพ มีที่ไหนบ้างมาดูกันค่ะ
New York University (NYU)

จากที่ตั้งของมหาวิทยาลัย New York ไม่ว่าจะบาร์ ร้านอาหาร โรงละครบรอดเวย์ เครือข่ายอุตสาหกรรมต่างๆ หรือกระทั่งวอลล์สตรีท (Wall Street) ก็อยู่ในระยะที่เดินไปมาหาสู่ได้อย่างสบายๆ จึงมีกิจกรรมให้เลือกทำหลังเลิกเรียนอย่างหลากหลาย พร้อมทั้งโอกาสดีๆ มากมายที่ทำให้ก้าวแรกสู่ความสำเร็จอยู่ใกล้แค่เอื้อม นอกจากนี้ NYU ยังมีสถิติจำนวนนักศึกษาต่างชาติที่เข้าเรียนมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา โดยในปี 2017 มีผู้ที่ไม่ได้ถือสัญชาติอเมริกันถึง 20% ของจำนวนนักศึกษาปีหนึ่งทั้งรุ่น สมกับเป็นโลกไร้พรมแดนอย่างแท้จริง
รายละเอียดเพิ่มเติม
1.อัตราการรับเข้าศึกษาต่อ: 27%
2.จำนวนนักศึกษาต่างชาติ: 17,000 คน
3.การจัดอันดับมหาวิทยาลัยระดับโลก (โดย QS World University Ranking): 52
4.ค่าใช้จ่ายในการเล่าเรียนสำหรับนักเรียนต่างชาติ: 46,170 เหรียญสหรัฐ
Babson College

มหาวิทยาลัย Babson ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชานเมือง Boston เรียกตัวเองว่าเป็น “ผู้นำด้านการศึกษาหลักสูตรการเป็นผู้ประกอบการ (entrepreneurship education) โดยดุษณี” จากการครองที่ 1 ในการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโดย US News และ World Report ถึง 21 ปีซ้อน ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องน่าเแปลกใจแต่อย่างใด เนื่องจากหลักสูตรบริหารจัดการของ Babson เน้นการเรียนการสอนแบบบูรณาการ อีกทั้งยังมีหลักสูตรศึกษาต่อในต่างประเทศที่สามารถไปได้ไกลถึงรัสเซีย ยิ่งไปกว่านั้น ล่าสุดนิตยสาร Forbes ยังยกย่องให้ Babson เป็นมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งสำหรับนักศึกษาต่างชาติ โดยประเมินจากคุณภาพการศึกษา จำนวนนักศึกษาทั้งหมดในสถาบัน อัตราการจบการศึกษา และปริญญารวมถึงสาขาที่เปิดสอน
รายละเอียดเพิ่มเติม
1.อัตราการรับเข้าศึกษาต่อ: 24%
2.อัตราส่วนนักเรียนต่างชาติในระดับปริญญาตรี (คิดเป็นร้อยละ): 28%
3.การจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลก (โดย US News University Ranking): n/a
4.ค่าใช้จ่ายในการเล่าเรียนสำหรับนักเรียนต่างชาติ (ไม่นับรวม Financial Aid): 46,784 เหรียญสหรัฐ
University of Southern California (USC)

ในปี 2017 มีผู้สมัครเข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัย Southern California กว่า 56,000 คน โดยปัจจุบันมีนักศึกษา 44,000 คน และมีนักศึกษาต่างชาติในอัตราส่วนที่สูงถึง 25% แทนที่จะต้องทนความง่วงเหงาในเมืองหนาวอย่าง New England การวางแผนเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยอันดับต้นๆ ท่ามกลางแสงแดดสดใสใน Los Angeles ยังจะดีเสียกว่า ยิ่งไปกว่านั้น California ยังถือได้ว่าเป็นศูนย์รวมแนวคิดและนวัตกรรมล้ำสมัย จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการติดตามเทรนด์ใหม่ๆ และต้องการจะก้าวไกลในเส้นทางอาชีพอย่างยิ่ง
รายละเอียดเพิ่มเติม
1.อัตราการรับเข้าศึกษาต่อ: 16%
2.อัตราส่วนนักเรียนต่างชาติในระดับปริญญาตรี (คิดเป็นร้อยละ): 24%
3.การจัดอันดับมหาวิทยาลัยระดับโลก (โดย QS World University Ranking): 132
4.ค่าใช้จ่ายในการเล่าเรียนสำหรับนักเรียนต่างชาติ: 52,283 เหรียญสหรัฐ
Mount Holyoke College

จากการจัดอันดับโดย US News มหาวิทยาลัย Mount Holyoke อยู่ในอันดับที่ 36 ของการจัดอันดับสถาบันศิลปศาสตร์ระดับชาติ (National Liberal Arts Colleges) อันดับที่ 16 สำหรับการเรียนการสอนในหลักสูตรปริญญาตรีที่ดีที่สุด (Best Undergraduate Teaching) และอันดับที่ 50 สำหรับโรงเรียนที่ดีที่สุด (Best Value Schools) ยิ่งไปกว่านั้น นิตยสาร Forbes ยังจัดอันดับให้ Mount Holyoke เป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดอันดับ 6 ในสหรัฐอเมริกาสำหรับนักศึกษาต่างชาติอีกด้วย!
ที่สำคัญ มหาวิทยาลัย Mount Holyoke ยังมีอัตราการรับเข้าศึกษาที่สูงอย่างน่าอิจฉาถึง 55% โดยมีจำนวนนักศึกษาที่ได้เข้าไปนั่งเรียนจริง 2,255 คน ทั้งนี้ เนื่องจาก Mount Holyoke เป็นสถาบันหญิงล้วน จึงควรพิจารณาในเรื่องนี้ก่อนตัดสินใจสมัครเข้าศึกษา เพราะจะมีผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อการใช้ชีวิตในสังคมมหาวิทยาลัย ซึ่งแน่นอนว่าจะเป็นที่ที่ใช่หรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับแต่บุคคล
รายละเอียดเพิ่มเติม
1.อัตราการรับเข้าศึกษาต่อ: 55%
2.อัตราส่วนนักเรียนต่างชาติในระดับปริญญาตรี (คิดเป็นร้อยละ): 20% โดยประมาณ
3.การจัดอันดับมหาวิทยาลัยระดับโลก (โดย Times Higher Education Ranking): 80
4.ค่าใช้จ่ายในการเล่าเรียนสำหรับนักเรียนต่างชาติ (ไม่นับรวม Financial Aid): 47,740 เหรียญสหรัฐ
Harvard University

ถ้าไม่นับเรื่องคุณภาพการศึกษาที่ไร้ที่ติแล้ว เหตุผลหลักที่มหาวิทยาลัย Harvard ได้รับการยกย่องให้เป็นเป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดระดับโลก คือการเป็น 1 ในเพียง 5 มหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกาที่ยินดีมอบทุนการศึกษาเต็มจำนวนแบบ Need-Blind ให้กับนักศึกษาต่างชาติ ซึ่งหมายความว่า ไม่ว่าจะขาดแคลนทุนทรัพย์หรือไม่อย่างไร ถ้าหากมีประวัติการศึกษาและข้อมูลในใบสมัครที่ดีพอจนผ่านการพิจารณา ก็สามารถเข้าเรียนได้โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น
รายละเอียดเพิ่มเติม
1.อัตราการรับเข้าศึกษาต่อ: 5.4%
2.อัตราส่วนนักเรียนต่างชาติในระดับปริญญาตรี (คิดเป็นร้อยละ): กว่า 20%
3.การจัดอันดับมหาวิทยาลัยระดับโลก (โดย QS World University Ranking): 3
4.ค่าใช้จ่ายในการเล่าเรียนสำหรับนักเรียนต่างชาติ : 43,280 เหรียญสหรัฐ
Soka University of America

แม้ว่ามหาวิทยาลัย Soka จะตั้งขึ้นโดยมีพื้นฐานตามหลักศาสนาพุทธ ในปัจจุบันกลับไม่มีนัยยะแฝงทางศาสนาแต่อย่างใด อีกทั้งยังเปิดรับนักศึกษาชั้นนำจากทั่วโลกอย่างไม่กีดกันสัญชาติและความเชื่อ โดยสถิติการรับนักศึกษาต่างชาติเข้าศึกษาต่อถือเป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่ง เนื่องจากมีนักศึกษาที่ไม่ได้อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกาสูงถึง 43% ซึ่งนับว่าสูงที่สุดในประเทศเลยทีเดียว
ทั้งนี้ หลักสูตรปริญญาตรีที่ทางมหาวิทยาลัยเปิดสอนมีเพียงหลักสูตรศิลปศาสตร์ หรือ Liberal Arts เท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นนักศึกษาก็สามารถเลือกลงวิชาเรียนได้อย่างหลากหลาย ตั้งแต่วิชาสายสิ่งแวดล้อมศึกษา (Environmental Studies) มนุษยวิทยา (Humanities) วิชาที่ว่าด้วยการศึกษาระหว่างประเทศ (International Studies) หรือ สังคมศาสตร์และพฤติกรรมศาสตร์ (Social and Behavioral Sciences)
รายละเอียดเพิ่มเติม
1.อัตราการรับเข้าศึกษาต่อ: 38%
2.อัตราส่วนนักเรียนต่างชาติในระดับปริญญาตรี (คิดเป็นร้อยละ): 43%
3.การจัดอันดับมหาวิทยาลัยระดับโลก (โดย QS World University Ranking): n/a
4.ค่าใช้จ่ายในการเล่าเรียนสำหรับนักเรียนต่างชาติ (ไม่นับรวม Financial Aid): 30,642 เหรียญสหรัฐ
University of Michigan

เชื่อหรือไม่ว่า ทั้ง CEO ของ Google และบรรดาผู้ก่อตั้ง Nest, Groupon และ Craigslist ต่างก็เป็นศิษย์เก่าจากมหาวิทยาลัย Michigan ทั้งนั้น จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่มหาวิทยาลัยจะมีบรรยากาศและกลิ่นอายของเทคโนโลยีสมัยใหม่อยู่ทั่วทุกมุม ดังนั้น สำหรับผู้ที่กำลังมองหาใบเบิกทางเข้าสู่ Silicon Valley มหาวิทยาลัย Michigan อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ใช่ก็เป็นได้
อย่างไรก็ตาม มาตรฐานการศึกษาของมหาวิทยาลัย Michigan นับว่าสูงมาก โดยเกรดเฉลี่ยของผู้สมัครเข้าศึกษาต่อนั้นสูงถึง 3.83 จาก 4.00 เลยทีเดียว
รายละเอียดเพิ่มเติม
1.อัตราการรับเข้าศึกษาต่อ: 28.6%
2.อัตราส่วนนักเรียนต่างชาติในระดับปริญญาตรี (คิดเป็นร้อยละ): 18%
3.การจัดอันดับมหาวิทยาลัยระดับโลก (โดย QS World University Ranking): 21
4.ค่าใช้จ่ายในการเล่าเรียนสำหรับนักเรียนต่างชาติ (ไม่นับรวม Financial Aid): 59,784 เหรียญสหรัฐ
Columbia University

แม้ว่า Columbia จะมีจำนวนนักศึกษาต่างชาติมากที่สุดเป็นอันดับสี่ของมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา แต่อัตราการรับเข้าศึกษาต่อกลับอยู่ที่ 6% เท่านั้น จึงต้องใช้พยายามอย่างหนักเป็นพิเศษเพื่อให้ได้รับการตอบรับ แต่แน่นอนว่าหลังจากที่ได้เข้าไปแล้ว ผลตอบแทนย่อมคุ้มค่ากับความพยายามอย่างไม่ต้องสงสัย สำหรับนักเรียนที่สมัคร (และได้รับ) Financial Aid ยังมีสิทธิ์รับทุนการศึกษาเป็นมูลค่าโดยเฉลี่ยถึง 57,727 เหรียญสหรัฐอีกด้วย นอกจาก NYU แล้ว มหาวิทยาลัย Columbia ก็ตั้งอยู่ในมหานครนิวยอร์ก (New York City) ซึ่งถือเป็นถิ่นที่มั่นของผู้อพยพย้ายถิ่นฐานในอเมริกาแต่ดั้งเดิมเช่นกัน การเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของสังคมเมืองที่หล่อหลอมขึ้นมาจากวัฒนธรรมอันหลากหลายในระหว่างการเรียนจึงนับว่าเป็นความคิดที่ดีมิใช่น้อย
รายละเอียดเพิ่มเติม
1.อัตราการรับเข้าศึกษาต่อ: 6%
2.อัตราส่วนนักเรียนต่างชาติในระดับปริญญาตรี (คิดเป็นร้อยละ): 19%
3.การจัดอันดับมหาวิทยาลัยระดับโลก (โดย QS World University Ranking): 18
4.ค่าใช้จ่ายในการเล่าเรียนสำหรับนักเรียนต่างชาติ (ไม่นับรวม Financial Aid): 55,161 เหรียญสหรัฐ
——————————————————————————————————-
เครดิต: บริษัท คริมสัน เอ็ดดูเคชั่น https://www.crimsoneducation.org/th-en