นักเรียนมัธยม ผู้ปกครอง และเด็กจบใหม่ที่กำลังหางานดีๆทำ ไม่ว่าจะเป็นงานบริษัท หรือธุรกิจสตาร์ทอัพ HELLO! อยากแนะนำให้อ่านเรื่องราวของ ATSA นี้จนจบ แล้วจะพบว่าโอกาสดีๆยังมีอีกมากมายที่รอคอยเราอยู่
จุดเริ่มต้นของ ATSA
HELLO! ได้พูดคุยกับตัวแทนของ Association of Thai Students in The United States of America หรือ ATSA ซึ่งเป็นสมาคมนักเรียนไทยในสหรัฐอเมริกา ที่เพิ่งก่อตั้งเมื่อปี 2020
เราได้พูดคุยกับ 3 ผู้บริหารของ ATSA เริ่มด้วยคุณตั้น-กิตติกุล ตริยานนท์ ที่เพิ่งจบปริญญาตรีทางด้าน Chemical Engineering จาก UC Berkeley สดๆร้อนๆ คุณโชกุน-คชา มหาดำรงค์กุล บัณฑิต Engineering Sciences (Mechanical) จาก Yale University และคุณธัญญ่า-ปิยะมน บุญรอด หญิงไทยที่เกิดและเติบโตที่อเมริกา เธอเป็นบัณฑิตสาวจาก UC Berkeley และขณะนี้กำลังเรียนปี 1 หลักสูตร International Medical Program ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
“เป็นเพราะนโยบาย 4.0 ของรัฐบาลไทยที่ต้องการนำสมองไหลกลับบ้าน (Reverse brain drain) เนื่องจากที่ผ่านมามีนักเรียนไทยในอเมริกาจำนวนมาก ที่เมื่อหลังจบการศึกษาแล้วได้งานทำในต่างประเทศ จึงตัดสินใจอยู่ต่อไม่กลับไทย ทำให้ประเทศไทยสูญเสียทรัพยากรระดับมันสมองในแต่ละปีเป็นจำนวนมาก
“ทางสถานทูตไทยในวอชิงตันดีซีจึงจัดประชุมนักเรียนไทยในอเมริกา เพื่อให้นักเรียนไทยมารวมตัวกันเป็นประจำทุกปีตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นมา” คุณโชกุนบอกกับ HELLO!
ต่อมาในปี 2019 นักเรียนไทยจากสถาบันต่างๆในอเมริกาทั้ง 10 คนจึงช่วยกันร่าง Proposal และนำไปยื่นให้ ฯพณฯ ประยุทธ จันทร์โอชา ซึ่งขณะนั้นไปเยือนนิวยอร์ก และภายหลังได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงการต่างประเทศ โดยมีนักเรียนไทยในอเมริกาเป็นสมาชิกประมาณ 2 พันกว่าคน ซึ่งยังไม่ครอบคลุมนักเรียนไทยทั้งหมด แต่ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นอย่างเป็นทางการของสมาคมนักเรียนไทยในอเมริกาอีกครั้ง
หลังจากภารกิจของนักเรียนไทยในอเมริกาที่เคยเป็นที่กล่าวขวัญถึงในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ครั้งนั้นนักเรียนไทยในอเมริกาต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อชาติด้วยการทำงานใต้ดินในนาม ‘เสรีไทย’ เพื่อช่วยเหลือฝ่ายสัมพันธมิตร ภายใต้การนำของม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช เอกอัครราชทูตไทยในอเมริกาขณะนั้น และท่านปรีดี พนมยงค์ ที่คอยช่วยเหลืออยู่ที่ไทยอย่างลับๆ ในขณะที่ประเทศไทยถูกกองกำลังญี่ปุ่นยึดครอง
ปี 2495 AUA หรือสมาคมนักเรียนเก่าสหรัฐอเมริกาในพระบรมราชูปถัมป์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลอเมริกัน จึงถือกำเนิดขึ้น แต่ทว่าภายหลังได้กลายเป็นโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษเพียงอย่างเดียว โดยยุติบทบาทในการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวกับนักเรียนเก่าหรือนักเรียนปัจจุบันในอเมริกาไปเลย
Mission Possible
“เนื่องจากอเมริกาเป็นประเทศที่กว้างใหญ่มาก แค่แคลิฟอร์เนียรัฐเดียวก็มีเนื้อที่เท่ากับประเทศไทยแล้วครับ การจะให้นักเรียนมาเจอกันแต่ละครั้งจึงเป็นเรื่องที่ยากมาก เราอยากให้นักเรียนแต่ละมหาวิทยาลัยใกล้กันมากขึ้น ด้วยการสร้างกิจกรรมหลายอย่างให้ช่วยกันทำ ถ้าสำเร็จก็จะเป็นการสานต่อวิสัยทัศน์นี้ต่อไป แล้วจะเริ่มด้วยอะไรดี
“ก็เลยคิดกันว่ามาจัดงานที่ไทยดีกว่า โดยเริ่มจากภารกิจแรกของ ATSA คือ Sports Day การแข่งกีฬาเพื่อกระชับสัมพันธ์ระหว่างนักเรียนไทยในอเมริกาทั้งศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบัน จำนวน 250 คน โดยแบ่งเป็น 7-8 ทีม มีทั้งแข่งชักเย่อ แชร์บอล และดอดจ์บอล ที่ Concordian International School
“แต่กระนั้นเราก็ยังต้องเจอโจทย์สำคัญคือ การสร้างโอกาสทางอาชีพให้กับนักเรียนไทยในอเมริกา ก็เลยคิดว่าถ้าอย่างนั้นเราจัดเป็น Expo เลยดีกว่า” คุณตั้นซึ่งเป็นตัวตั้วตัวตีในการจัดงานต่างๆ ของ ATSA กล่าว
The Next Chapter
กิจกรรมต่อมาซึ่งเป็นไฮไลต์ที่นักเรียนมัธยม ผู้ปกครอง และคนที่สนใจอยากไปเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกา รวมทั้งนักเรียนไทยในอเมริกาที่อยากได้งานทำที่ไทยควรเข้าร่วม ชื่องานว่า ATSA EXPO 2023 The Next Chapter Powered by True ในวันเสาร์ที่ 1 กรกฎาคมที่จะถึงนี้เพียงวันเดียว ชั้น 3 True Digital Park สถานีปุณวิถี เริ่มตั้งแต่ 10.00-18.00 น.
“งานนี้จะเป็นการผสมผสานระหว่าง University Fair กับ Career Fair ซึ่งปกติจะมีฝ่าย Admission จากมหาวิทยาลัยต่างๆมาออกบูธเพื่อให้รายละเอียดเกี่ยวกับสถาบัน แต่สู้ให้นักเรียนไทยที่กำลังเรียนอยู่มาออกบูธแทนไม่ดีกว่าหรือ ซึ่งจะได้มุมมองที่แตกต่างและเป็นประสบการณ์ตรง
“ส่วน Career Fair เราเชิญบริษัทไทยหรือสตาร์ทอัพไทยมาออกบูธ เพื่อหา Talent จากบรรดาเด็กไทยที่จบจากอมริกา หรือประเทศอื่นๆ ไปทำงานด้วย เราอยากสร้างแพลตฟอร์มให้บริษัทกับเด็กมาเจอกันง่ายขึ้น” คุณตั้นอธิบาย
งานนี้จะมีมหาวิทยาลัยในอเมริกา 28 บูธ และมหาวิทยาลัย Ivy League อีก 5-6 แห่ง และมหาวิทยาลัยอื่นที่ไม่ได้มาออกบูธ ก็จะมาพูดใน Panel ของงาน รวมแล้วเกือบ 40 แห่ง สำหรับบริษัทไทยที่มารับสมัครพนักงานถึงที่นั้นมีทั้ง True, CP, SCB, KTB, Job Top Gun, ไทยยูเนี่ยน, น้ำมันพืชปทุม และสตาร์ทอัพ รวมแล้วเกือบ 20 แห่ง
ช่วงเช้าจะเป็น Panel ที่นักเรียนไทยจากมหาวิทยาลัยชื่อดังต่างๆในอเมริกา จะมาเล่าว่ามีทุนการศึกษาอะไรบ้าง และร่วมแบ่งปันประสบการณ์การเรียนให้ผู้ชมฟัง ไม่ว่าจะเป็น Ivy League, หรือมหาวิทยาลัยในตระกูล University of California นอกจากนี้ยังแบ่งเป็นสาขาวิชาอย่าง Business School, Economic School, Engineering School หรือ Art School
ช่วงบ่ายเป็น Forum ที่มีผู้แทนบริษัทมาพูดถึงเทรนด์งานในอนาคต เทคโนโลยี และบิสสิเนสโมเดล ภายใต้คอนเสปท์ The Next Chapter (บทใหม่ของชีวิต)
คุณธัญญ่าเสริมว่า งาน ATSA EXPO 2023 นี้เข้าฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งคณะผู้จัดตั้งเป้าไว้ว่าน่าจะมีคนมาชมราว 500-600 คน
สำหรับใครที่ไม่ว่างและไม่อยากพลาดโอกาสดีๆแบบนี้ สามารถติดตามความเคลื่อนไหว ต่อๆไปได้ที่เว็บไซต์ athaisa.org และ IG: athai.sa