Growth Mindset กุญแจประตูสู่ความสำเร็จของลูก แท้จริงแล้วคืออะไร แล้วเราสามารถปลูกฝังสิ่งเหล่านี้ให้ลูกได้ไหม ในบทความนี้มีคำตอบ
Growth Mindset หรือ ทัศนคติแบบเติบโต ที่ช่วยกระตุ้นให้เด็กขยายขอบเขต การเรียนรู้ และ ค้นหาประสบการณ์ใหม่ ให้กับตัวเอง อย่างไร้ขีดจำกัด เป็นทัศนคติที่ว่าด้วย คนเราสามารถเติบโตขึ้นได้เรื่อย ๆ ทักษะ ความคิด และ ความสามารถต่าง ๆ สามารถพัฒนา และ เรียนรู้ขึ้นมาใหม่ได้ แบบไม่มีที่สิ้นสุด ความล้มเหลว ไม่ใช่จุดสิ้นสุดของการเรียนรู้ แต่ คือ โอกาสในการต่อยอดความคิด ให้แตกแขนงออกไป เพื่อให้เราค้นหาแนวทางสู่ความสำเร็จ ในแบบฉบับของตัวเอง หากผู้ปกครองปลูกฝัง ทัศนคติเชิงบวก นี้ให้กับเด็ก เขาจะเติบโตขึ้น เป็นคนที่มีความเข้มแข็งทางจิตใจ มีแนวคิดเชิงบวก ไม่ย่อท้อต่อปัญหา ล้มเป็นลุกไว ชอบท้าทายสิ่งใหม่ และ เปิดโอกาสให้ตัวเอง เรียนรู้สิ่งใหม่ อยู่เสมอ
วิธีการสร้าง Growth Mindset ให้กับลูก
1. ความล้มเหลว ไม่ใช่สิ่งน่ากลัว
เมื่อลูกเจอ กับ ความยากลำบาก หรือ ล้มเหลว ในสิ่งที่ตั้งใจไว้ ในขั้นตอนแรก แนะนำให้ปลอบประโลมจิตใจเขาก่อน เด็กจะเรียนรู้ว่านี่ คือ ความรู้สึกที่เรียกว่า ผิดหวัง แต่ความผิดหวัง และ ความล้มเหลวไม่ใช่เรื่องแย่ ไม่ใช่เรื่องน่าอาย สิ่งเหล่านี้ คือ บทเรียนให้ลูกเกิดการเรียนรู้ เขาสามารถนำข้อผิดพลาดนี้ไป ต่อยอด และ หาทางออกใหม่ ๆ ได้ เมื่อเขาเรียนรู้ว่า ความล้มเหลว ไม่ใช่สิ่งน่ากลัว เขาก็จะไม่กลัวล้ม และ กล้าลองทำสิ่งใหม่ ที่ท้าทายยิ่งกว่าเดิม เพื่อเดินหน้าสู่ความสำเร็จที่เขาตั้งใจไว้
2. ปลายทาง ไม่ใช่สิ่งสำคัญเพียงอย่างเดียว
ถึงแม้การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน และไปให้ถึงจะเป็นสิ่งสำคัญ แต่อีกหนึ่งสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม คือ ประสบการณ์ที่ได้ระหว่างทาง ให้เด็กสนุกไปกับการเรียนรู้ และ ทำความเข้าใจกับทางเลือกใหม่ ๆ ที่เขาเจอระหว่างเดินทางไปยังจุดหมาย อธิบายให้เขาเข้าใจว่าทางเดินไปถึงจุดหมายไม่ได้มีแค่ทางเดียว ซึ่งคุณพ่อคุณแม่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง ด้วยการชวนลูกคุยว่า ในกระบวนการคิด และ ลงมือทำต่าง ๆ ลูกเรียนรู้อะไรบ้าง ทำไมจึงคิดแบบนี้ แล้วถ้าสิ่งที่คิดไว้ไม่เป็นไปตามแผน ลูกมีวิธีรับมืออย่างไร เมื่อลูกได้รับการกระตุ้นให้เกิดกระบวนการคิดแบบต่อยอด เขาจะมีชุดความคิดไว้เลือกหยิบใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ เยอะจนนับไม่ถ้วนทีเดียว
3. ให้เขาแก้ปัญหาด้วยตัวเอง
บ่อยครั้งที่ผู้ปกครองรู้สึกอยากเข้าไปช่วยลูกแก้ปัญหาต่าง ๆ หรือบอกวิธีแก้ปัญหากับเด็กไปตรง ๆ เพื่อให้เด็กทำตามที่ตนเองบอก ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่ควรหลีกเลี่ยงเป็นอย่างมาก เพราะเด็กจะไม่เกิดการคิดแบบต่อยอด ไม่รู้จักการแก้ปัญหาด้วยตัวเอง หากเขาเจอปัญหาอีกในภายหลัง เขาก็จะรอพึ่งแต่เราจนไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตัวเอง สิ่งที่ผู้ปกครองควรทำ คือ การให้เขาแก้ปัญหาเอง เลือกทางออกด้วยตัวเอง โดยมีเราเป็นคนให้คำปรึกษา คอยไกด์ คอยถาม คอยกระตุ้น นอกจากเด็กจะได้ฝึกการแก้ปัญหาในแนวทางใหม่ที่แตกต่างแล้ว ยังช่วยสร้างความมั่นใจให้กับลูกได้อีกด้วย
4. หลีกเลี่ยงการตำหนิ
การตำหนิ ดุ หรือกล่าวโทษเมื่อเด็กทำผิดหรือทำพลาด นอกจากจะทำให้เด็กสูญเสียความมั่นใจแล้ว ยังทำให้เด็กไม่กล้าเรียนรู้สิ่งใหม่ ไม่กล้าคิดหรือลงมือทำอะไรอีกเลย เพราะกลัวจะโดนดุอีกเป็นครั้งที่สอง เมื่อเห็นว่าลูกทำผิดพลาด สิ่งที่ผู้ปกครองควรทำ คือ การพูดคุยว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนนี้ลูกรู้สึกอย่างไร ลูกเรียนรู้อะไรจากสถานการณ์นี้ ถ้ามันเกิดขึ้นอีกลูกจะรับมืออย่างไร และลูกมีอะไรอยากบอกพ่อแม่ไหม สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เด็กเรียนรู้ว่า คนเราทำผิดพลาดกันได้ สิ่งสำคัญ คือ เราต้องยอมรับผิด และ เรียนรู้จากความผิดพลาดนั้น เพื่อไม่ให้ผิดพลาดแบบเดิมอีก
5. บอกให้ลูกรู้ว่าพ่อแม่อยู่ตรงนี้เสมอ
ทุกการเรียนรู้สิ่งใหม่ นอกจากความท้าทาย แน่นอนว่าความกลัว และ ความกังวลก็ไม่น้อยไปกว่ากัน การบอกให้เขารู้ว่า พ่อแม่พร้อมอยู่เคียงข้างเขาเสมอ สงสัยหรือติดปัญหาอะไรก็มาปรึกษาได้ตลอด พวกเราพร้อมจะเติบโตไปพร้อมกัน จะช่วยให้ลูกมีความเข้มแข็งทางจิตใจเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก เขาจะพร้อมเปิดรับประสบการณ์ใหม่ด้วยความกระตือรือร้น และหัวใจที่เปี่ยมไปด้วยความสุข
อ่านเรื่องราวดี ๆ เกี่ยวกับราชวงศ์ ทั้งไทย และ ต่างประเทศ เซเลบริตี้ ข่าวสารใหม่ ๆ และ เรื่องราวเกี่ยวกับแฟชั่น สุขภาพ และความงามได้ที่ HELLO!
Feature Image by Leo Rivas/unsplash