Home > Education > Universities > สมัครมหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกาอย่างไรให้…ได้เรียน

       

เป็นความฝันของเด็กไทยหลายคนที่อยากเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา ซึ่งต้องผ่านการแข่งขันสูง เพราะต้องแข่งกับนักเรียนมัธยมปลายทั่วทั้งโลก 

มหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา 

ในช่วงปีแรกของการศึกษาในมหาวิทยาลัยที่สหรัฐอเมริกา นักเรียนจะต้องเรียน Liberal Arts หรือบางคนอาจเรียนหลักสูตรวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ เพื่อให้นักเรียนมีโอกาสเลือกเรียนสาขาวิชาต่างๆ ที่ครอบคลุมและหลากหลายตลอด 4 ปีของเวลาเรียน และจะเปิดโอกาสให้เลือกเรียนเมเจอร์หลังจบปี 2 

มหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา มุ่งให้นักเรียนพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ และการใช้เหตุผลอย่างมีอิสระ Liberal Arts เป็นหลักสูตรสหวิทยาที่ครอบคลุมหลายสาขาวิชา เป็นการเพิ่มพูนความรู้ให้แก่นักเรียน เกี่ยวกับสาขาวิชาที่พวกเขาสนใจ และค้นพบความชอบที่ซ่อนอยู่ ก่อนตัดสินใจเลือกเรียนเมเจอร์ 

Photo: Pexels

นอกจากนี้นักเรียนยังสามารถเรียนไมเนอร์ หรือ Diploma ในสาขาวิชาอื่น เพื่อเสริมเมเจอร์ และเพิ่มพูนการเรียนรู้ให้มีความหลากหลายขึ้น ในช่วงสองปีสุดท้ายในมหาวิทยาลัย 

มหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักร

เนื่องจากมหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักร ให้ความสำคัญกับการเรียนรู้วิชาเฉพาะอย่างลึกซึ้ง จึงมองหาสิ่งที่แสดงถึงความปรารถนาและความมุ่งมั่นของนักเรียน ว่าสิ่งสำคัญสำหรับพวกเขาคืออะไร เพราะอะไรสิ่งนั้นจึงสำคัญ และพวกเขาตั้งใจทำความปรารถนาให้เป็นจริงอย่างไร เพื่อสร้างความก้าวหน้าทางวิชาการให้กับมหาวิทยาลัยได้บ้าง

โดยผ่านการรวบรวมคำตอบของคำถามใน Personal Statement การขอจดหมายรับรอง และการสัมภาษณ์ผู้สมัคร ข้อสำคัญที่นักเรียนควรตระหนักก็คือ การแสดงคุณสมบัติของ ‘ความเป็นมนุษย์’ ในตัวผู้สมัคร นอกเหนือจากจะแข่งขันทางวิชาการ 

Photo: Pexels

โดยเฉพาะอย่างย่ิงการเข้าเรียนใน University of Oxford และ Cambridge University ที่หลักสูตรการเรียนการสอนล้วนส่งเสริมการเรียนวิชาเฉพาะให้กับนักเรียนแต่ละคนได้เยี่ยมมาก ในห้องเรียนแต่ละสัปดาห์เป็นห้องเรียนขนาดเล็ก ที่มีอาจารย์หนึ่งคนต่อนักเรียนสามหรือสี่คนเท่านั้น นักเรียนจึงมีโอกาสวิเคราะห์ สอบถาม ร่วมกับการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับบุคคลชั้นแนวหน้าของโลกในสาขาวิชาที่พวกเขาสนใจ 

ขั้นตอนการสมัครมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา 

มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ (มากกว่า 750 แห่ง) ใช้ Common Application เป็นการสมัครออนไลน์ ข้อมูลส่วนใหญ่ในนี้จะถูกส่งไปยังมหาวิทยาลัยที่พวกเขาสมัคร นอกจากนี้แล้วยังอนุญาตให้มหาวิทยาลัยระบุข้อมูลเฉพาะที่ต้องการ รวมทั้งเรียงความเพิ่มเติม จดหมายรับรองและเอกสารอื่นๆที่เกี่ยวข้องด้วย 

นักเรียนจะต้องให้ข้อมูลส่วนตัวเกี่ยวกับครอบครัว การศึกษา ผลสอบ กิจกรรมนอกหลักสูตร (และรายละเอียดกิจกรรมความเป็นผู้นำ) จดหมายรับรองจากอาจารย์ และเรียงความหรือจดหมายแนะนำตัว 

มหาวิทยาลัยแต่ละแห่งอาจถามคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับสาขาวิชาท่ีต้องการเรียน (ถ้าทราบ) นักเรียนสามารถอัพโหลดเรียงความเพิ่มเติม และการตอบคำถามสั้นๆ ของมหาวิทยาลัยที่ต้องการด้วย 

Photo:Pexels

แต่ทั้งนี้มีบางมหาวิทยาลัยอย่าง MIT และ The Georgetown University เปิดรับสมัครทางเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยเอง

สำหรับการสมัครมี 2 รอบให้เลือก รอบ Early Action หรือ Early Decision นักเรียนสมัครมหาวิทยาลัยได้เพียง 1 แห่ง และต้องสมัครก่อนวันที่ 1 พฤศจิกายน ซึ่งประกาศผลกลางเดือนธันวาคม) 

รอบ Regular Decision นักเรียนสามารถสมัครมหาวิทยาลัยได้ตามจำนวนที่ต้องการ และต้องสมัครภายในวันที่ 1 มกราคม ประกาศผลปลายเดือนมีนาคมหรือต้นเดือนเมษายน 

ในการสมัครจำเป็นจะต้องส่งผลสอบ SAT หรือ ACT พร้อมผลสอบ SAT II Subject Tests (อย่างน้อยสองวิชาหรือมากกว่า) ด้วย

นักเรียนที่ผ่านการคัดเลือก จะได้พูดคุยสัมภาษณ์กับศิษย์เก่าที่อยู่ในประเทศเดียวกับนักเรียน นับเป็นโอกาสให้ศิษย์เก่าได้สอบถามว่าที่ศิษย์ใหม่ และว่าที่ศิษย์ใหม่ก็สามารถถามเรื่องประสบการณ์ในมหาวิทยาลัยจากศิษย์เก่าได้ด้วย 

ขั้นตอนการสมัครมหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักร

การสมัครมหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักรจะสมัครทางออนไลน์ เรียกว่า UCAS (Universities and Colleges Admission Service) นักเรียนต้องกรอกข้อมูลส่วนบุคคล หลักสูตรที่เลือก เรียงความส่วนตัว รวมทั้งจดหมายรับรองจากอาจารย์ 

Photo: Pexels

ระบบของสหราชอาณาจักรกำหนดให้ ผู้สมัครต้องระบุมหาวิทยาลัย และสาขาวิชา ในการนี้อนุญาตให้ผู้สมัครเลือกได้ไม่เกิน 5 สาขาวิชา/มหาวิทยาลัย โดยสาขาวิชาส่วนใหญ่หมดเขตรับสมัครกลางเดือนมกราคม 

University of Oxford และ Cambridge University นักเรียนจะต้องเลือกสมัครได้เพียงแห่งใดแห่งหนึ่งเท่านั้น และต้องสอบข้อสอบที่เกี่ยวข้องกับสาขาวิชาที่เลือก และเมื่อผ่านการคัดเลือกรอบแรกแล้ว จะต้องสัมภาษณ์กับสาขาวิชาของมหาวิทยาลัยอีกครั้ง การรับสมัครของมหาวิทยาลัยสองแห่งนี้ จะอยู่ในช่วงกลางเดือนตุลาคม และประกาศผลการสมัครก่อนสิ้นเดือนมกราคม

ทั้งนี้ทั้งนั้นสิ่งที่ต้องตระหนักในการสมัครมหาวิทยาลัยไม่ว่าที่ไหนก็ตาม นั่นก็คือ มหาวิทยาลัยเหล่านี้มุ่งหานักเรียนที่มีความสามารถเฉพาะตัว และมีความกระตือรือร้น เพื่อช่วยพัฒนาศักยภาพของมหาวิทยาลัยในอนาคตด้วย  

ที่มา : Crimson Education 

Never miss an update

Subscribe to our newsletter to get the latest updates.

No Thanks
You’re all set

Thank you for your subscription.