เป็นช่วงที่เต็มไปด้วยความปลื้มปริ่มใจ ของคุณแม่ยังสาว คุณบิ๋ง – นันทมาลี ภิรมย์ภักดี หญิงเก่งแห่งวงการ Motoring MD หญิงคนแรกและคนเดียวในเอเชียของเฟอร์รารี่ กับ คุณจ๊ะ – วรวุฒิ ภิรมย์ภักดี กรรมการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่จำกัด ที่ล่าสุด ลูกชายนักแข่งรถ เจม – นันทวุฒิ ภิรมย์ภักดี เพิ่งจะได้โทฟี่อันดับ 2 ในการแข่งขันเอซีซีอาร์ เชก ฟอร์มูล่า ที่เรดบูลล์ริงประเทศออสเตรีย ไปหมาด ๆ ช่วงปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

ส่วนน้องสาวฝาแฝด บีม – วรณัน ภิรมย์ภักดี สาวน้อยที่รักการร้องเพลงที่ได้สร้างชื่อเสียงร้องเพลงรับรางวัลระดับโลกมาแล้ว และตอนนี้อยู่ในช่วงกำลังทำผลงานกับค่ายเพลงในประเทศไทย ที่อีกไม่นานจะออกมาให้ได้ชม
เห็นเป็นเด็กมุ่งมั่นในการทำกิจกรรมขนาดนี้ HELLO! Education ชวนมาค้นหาเบื้องหลังของแรงพลักดันจากครอบครัว จากคุณแม่คนเก่งที่เป็นคุณแม่ซัพพอร์ตสิ่งที่ลูกชอบ

คุณบิ๋ง เล่าให้ฟังว่า น้อง ๆ อายุ 17 ปีในเดือนมิถุนายนนี้ เป็นช่วงวัยรุ่นที่มุ่งมั่นในสิ่งที่ตัวเองชื่นชอบ จะเห็นว่าน้องเจมและน้องบีมมีกิจกรรมในแบบของตัวเอง แต่ในเรื่องการเรียนก็ต้องไปอย่างควบคู่กันด้วยเช่นกัน
ปัจจุบัน ทั้งสองคนเรียนชั้นเยียร์ 11 โรงเรียนนานาชาติบางกอกพัฒนา (Bangkok Patana School : BPS) Bangkok Patana School ถือเป็นโรงเรียนนานาชาติใช้หลักสูตรของสหราชอาณาจักรที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งเป็นช่วงที่ใกล้จะเรียนจบและจะต้องเตรียมค้นหาตัวเองเพื่อไปศึกษาต่อ
“น้องบีมเรียนที่บางกอกพัฒนา เมื่อจบการศึกษา ทางคุณพ่อ (จ๊ะวรวุฒิ ภิรมย์ภักดี) อยากให้เข้ามหาวิทยาลัยที่ประเทศไทย แล้วค่อยไปต่อปริญญาโทที่เมืองนอก เพราะว่าน้องบีมอยู่ระหว่างการเข้าค่ายเพื่อทำผลงานเพลงในประเทศไทย ซึ่งเป็นช่วงที่อยู่มัธยมปลายและมหาวิทยาลัย จากนั้นหากว่าน้องบีมอยากไปต่อที่ประเทศไหน ให้น้องเป็นคนตัดสินเอง ว่าขณะนั้นอยากจะทำงานก่อนหรือไปเรียนต่อ” คุณบิ๋ง กล่าวถึงแผนการศึกษาของลูกสาว พร้อมบอกด้วยว่า หากเป็นที่ประเทศอังกฤษ จะดีมาก เพราะปริญญาโทจะเร็วกว่าอเมริกา แต่ก็ต้องดูว่าวิชาที่เค้าถนัด หรือชื่นชอบในด้านไหนเป็นพิเศษด้วย
ขณะที่ “น้องเจม ตอนนี้เรียนควบคู่ไปกับออนไลน์ เพราะน้องเจมแข่งรถอย่างจริงจัง ต้องเรียนไปในลักษณะที่โรงเรียนเข้าใจ และสามารถยืดหยุ่นได้ ในเรื่องของการสอบ ที่ตรงกับช่วงเวลาแข่งก็ต้องเลื่อนตารางสอบออกไป เมื่อแข่งเสร็จต้องกลับมาติวเตอร์ เพื่อให้เรียนทันเพื่อน”

บาลานซ์กิจกรรม การเรียน
เราต้องเป็นพ่อแม่สมัยใหม่ ยุคนี้ต้องปรับตัวให้เร็วไวต่อยุคสมัยเพื่อให้สามารถทำกิจกรรมได้อย่างเต็มที่ อย่างการแข่งรถ ที่ต้องแข่งในระดับโลก เด็กที่ต่างประเทศที่เขาแข่งฟอร์มูลา 4 เค้าเลิกเรียนหนังสือตั้งแต่อายุ 15 ปี และมุ่งมั่นศึกษาในเรื่องของการแข่งรถเท่านั้นแต่เราคนไทย จะไม่ทิ้งเรื่องการเรียน ต้องบาลานซ์ให้ได้ เพราะต้องกลับมาช่วยธุรกิจครอบครัว เราคงไม่ได้เป็นเหมือนฝรั่งที่จะไปสุดโต่งในเรื่องนั้นๆ

สิ่งที่คุณแม่คาดหวัง
เราอยากให้เขาสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ สร้าวตัวตนที่มาจากความสามารถ และต้องเรียนควบคู่ แล้วกลับมาสานต่อธุรกิจครอบครัว ซึ่งทำให้เส้นทางชีวิตค่อนข้างหนัก เพราะเด็กๆ จะไม่ได้โฟกัสเรื่องเดียว ในครอบครัว เราจะคุยกันว่า ถ้าจะทำกิจกรรมเรื่องเรียนก็ขอให้ผ่านให้ได้ และถ้าเค้าเรียนได้ดีด้วย ก็เป็นสิ่งดีขึ้นไปอีกครอบครัวเราให้ความสำคัญกับทาเล้นท์ โดยเฉพาะในช่วงที่เป็นวัยรุ่น หากเขาสามารถมีเป็าหมาย มีจุดมุ่งมั่น ก็จะทำให้เป็นวัยรุ่นที่เป็นระบบระเบียบ ที่มีความรับผิดชอบ ซึ่งพ่อแม่เองก็ไม่ต้องห่วงเยอะเพราะเขาจะรู้ว่าเวลาไหนต้องเรียนหนังสือ เวลาไหนต้องไปฝึกฝน ทั้งเรื่องการแข่งรถของเจม และการถ่ายทำมิวสิก ของน้องบีม ลูกๆ จะมีตารางของตัวเอง ซึ่งนอกจากกิจกรรมที่ชอบ และการเรียน จะแบ่งเวลาไปเจอกับเพื่อนๆ

สิ่งที่ลูกสนใจ
ลูกทั้ง 2 คนอยากศึกษาต่อระดับปริญญาในด้านของธุรกิจการตลาด ซึ่งเป็นสกิลในยุคปัจจุบันที่ลูกๆ ให้ความสนใจ เพราะปัจจุบันเราต้องโปรโมตตัวเองเป็น ต้องใช้โซเชียลเป็น อนาคตถ้าเรามีชื่อเสียงเราจะสามารถต่อยอดได้ และพื้นฐานเหล่านี้ก็สามารถต่อยอดในเรื่องของธุรกิจด้วยเช่นกัน

สิ่งที่ได้จากลูก
เราคิดว่าเราได้วัยรุ่นที่มีคุณภาพ ตามที่เราวางแผนไว้ และเขาได้เติมเต็มให้กับตัวเอง ภาคภูมิใจในผลงานที่ทำ ในอายุเท่านั้น ซึ่งล่าสุด น้องเจม เพิ่งได้รางวัลอันดับที่ 2 ในฟอร์มูลา 4 ในการแข่งขันเอซีซีอาร์ เชก ฟอร์มูล่า ที่เรดบูลล์ริง ประเทศออสเตรีย ซึ่งปลื้มมากเพราะเมื่อขึ้นโพเดี่ยมจะมีธงชาติไทยขึ้นไปบนนั้นด้วย และเป็นถ้วยที่มีความหมายมากๆ จากความพยามยามฝึกฝนของน้องเจม และน้องบีมเคยคว้าแชมป์บนเวทีระดับโลก และได้ไปร้องเพลงที่นิวยอร์ค ซึ่งช่วงนี้กำลังจะมีผลงานในช่องยูทูบ “Beam Voranan” โคฟเวอร์งานเพลงและมีออกเพลงของตัวเองออกมาให้ติดตามในเดือนมิถุนายนนี้ด้วย
เรียกได้ว่า “คุณบิ๋ง-นันทมาลี ภิรมย์ภักดี” เป็นซูเปอร์มัมยุคใหม่ที่บาลานซ์เรื่องงานและการดูแลครอบครัว ให้สมบูรณ์แบบในแบบฉบับของตัวเองได้อย่างดีเยี่ยม.