ปัจจัยหลักของการศึกษาที่มีคุณภาพคือการปลูกฝังการเรียนรู้แบบไม่มีวันจบ มุ่งเน้นการพัฒนานักเรียนแบบรอบด้านทั้งความรู้ทางวิชาการและทักษะชีวิต ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้จากบุคลากรคุณภาพ เปี่ยมด้วยประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญด้านการศึกษาโดยตรง
“เมื่อเด็กมีความสุข พวกเขาก็จะเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ มีประสิทธิภาพ และมีเป้าหมาย หัวใจสำคัญของโรงเรียนในการช่วยให้นักเรียนมีความสุขคือการสร้างหลักสูตรที่ส่งเสริมความเป็นเลิศและสภาพแวดล้อมเชิงบวกให้แก่นักเรียน” มาร์ค ฮิกกินส์ รองครูใหญ่ฝ่ายสวัสดิภาพและกิจกรรมนักเรียน ที่โรงเรียนนานาชาติ ดีบีเอส เด่นหล้า บริติช สคูล (DBS Denla British School) กล่าว

กว่า 30 ปีที่คร่ำหวอดในวงการการศึกษาที่บ้านเกิดของตัวเองที่ประเทศอังกฤษ คุณมาร์คเริ่มเป็นครูที่มีความเชี่ยวชาญด้าน Physical Education จนขยับขึ้นมาเรื่อยๆเป็นหัวหน้าภาควิชาพละศึกษา หัวหน้าชั้นปี หัวหน้าฝ่าย และผู้ช่วยครูใหญ่ มาจนถึงปัจจุบันในตำแหน่งรองครูใหญ่ฝ่ายสวัสดิภาพและกิจกรรมนักเรียน ที่โรงเรียนนานาชาติ DBS Denla British School ประเทศไทย
หลักปรัชญาในวิชาชีพของคุณมาร์คคือการพัฒนาเด็กอย่างรอบด้านแบบ ‘Whole Child’ คือการพัฒนาเด็กทั้งทางด้านร่างกาย สติปัญญา สังคม และอารมณ์ ไปพร้อมๆ กัน และนั่นคือสาเหตุว่าทำไมเขาถึงตกลงบินมาเมืองไทยเพื่อรับตำแหน่งนี้ ซึ่งหน้าที่ความรับผิดชอบหลักของคุณมาร์คคือการทำให้เด็กๆ ปลอดภัยและมีความสุขเมื่ออยู่ที่โรงเรียน
ภายใต้หลักสูตรการศึกษาแบบโรงเรียนเอกชนอังกฤษ (Enhanced British Curriculum) ของโรงเรียนนานาชาติ DBS ที่เน้นการศึกษาแบบรอบด้านให้แก่นักเรียนนั้นก็เป็นไปในทางเดียวกันกับเป้าหมายของคุณมาร์ค โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่คุณมาร์คเป็นสปอร์ตแฟนตัวยงของกีฬารักบี้ หนึ่งในกีฬายอดฮิตของประเทศอังกฤษ เขาจึงมีความใฝ่ฝันที่จะผลักดันให้กีฬารักบี้ให้เป็นที่นิยมในโรงเรียนต่างๆของไทยด้วย
“รักบี้เป็นกีฬาสร้างสุภาพชน อย่างที่ชาวอังกฤษเรียกกีฬารักบี้กันว่าเป็น ‘Gentlemen’s Sport’ เพราะทั้งๆ ที่รักบี้เป็นกีฬาที่มีการปะทะสูง แต่น้อยครั้งมากที่เราจะเห็นผู้เล่นทะเลาะกันในสนาม โดยรักบี้มีกฎกติกามากมาย และช่องว่างในการเล่นตุกติกก็มีมาก แต่นักกีฬารักบี้จะยึดถือกฎไว้อย่างเคร่งครัด ผู้เล่นมีน้ำใจนักกีฬา รู้จักการทำงานเป็นทีม มีความยุติธรรม ไม่มีใครถากถางกันเมื่อแพ้ชนะ และภายในระยะเวลา 80 นาทีที่พวกเขาเล่น เราจะรู้ซึ้งในนิสัยแต่ละคนได้อย่างชัดแจ้งเลย” คุณมาร์คอธิบาย
คุณมาร์คเสริมว่ากีฬารักบี้และรวมไปถึงกีฬาชนิดอื่นๆย่อมช่วยให้เด็กๆสามารถบอกได้ว่าตัวเองชอบอะไร มีทักษะโดดเด่นเรื่องอะไร และอยากจะเติบโตอย่างไรได้เร็วตั้งแต่ยังเล็ก เพราะนอกจากรักบี้จะให้ความแข็งแกร่งทางด้านร่างกายแล้ว รักบี้ยังทำให้ผู้เล่นได้พัฒนาทางสังคมและอารมณ์ ผู้เล่นจะได้รู้สึกถึงการเป็นส่วนหนึ่งและส่วนสำคัญของทีม เป็นครอบครัวที่มีเป้าหมายไปในทางเดียวกัน
รักบี้สำหรับคุณมาร์คไม่ได้เป็นเพียงกีฬา แต่ยังเป็นพื้นที่สำหรับการมอบสิ่งดีๆให้แก่สังคมด้วย โดยทีมรักบี้ Bangkok Bangers ที่คุณมาร์คเล่นอยู่นั้นจัดโครงการการกุศลสนับสนุนมูลนิธินักสู้ (Nak Su Foundation) เพื่อช่วยเหลือเด็กกำพร้าและด้อยโอกาส มูลนิธินี้ยังทำงานร่วมกับองค์กรในชุมชนคลองเตยเพื่อเรี่ยไรเงินสนับสนุนครอบครัวผู้ยากไร้ด้วย
สำหรับโรงเรียนนานาชาติ DBS นั้น คุณมาร์คบอกว่าโรงเรียนระบุให้กีฬารักบี้เป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรวิชาพละและในชั่วโมงกิจกรรมส่งเสริมหลักสูตรด้วย (Co-curricular Activities, CCAs) นักเรียน DBS ได้ออกไปแข่งรักบี้กับโรงเรียนนานาชาติที่อื่น และนักเรียนหลายคนรวมถึงลูกๆของเขาเอง ก็เป็นสมาชิกสโมสรรักบี้ Bangkok Tigers ด้วย ซึ่งคุณมาร์คแอบบอกว่าสำหรับปีการศึกษาหน้าหรือในปลายเดือนสิงหาคมนี้ ทางโรงเรียน DBS มีแผนจะจัด DBS Rugby Academy เพื่อส่งเสริมกีฬาของโรงเรียนให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปอีก ทั้งนี้ก็เพื่อผลประโยชน์ของนักเรียนเองที่จะได้มีกิจกรรมที่หลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะกีฬายอดนิยมของอังกฤษอย่าง รักบี้

