Home > Education > Universities > เปิดรูทการศึกษา ‘ น้ำ ลักษณกาญจน์ ‘ การเปลี่ยนผ่านระบบการเรียนแบบอังกฤษ สู่ปริญญาโท Columbia University

ถ้าใครได้ติดตามคุณ น้ำ กัญจิกา ลักษณกาญจน์ คุณอาจจะเพิ่งเห็นเมื่อไม่นานมานี้ ว่าเธอได้ลงรูป Graduation ระดับปริญญาโท ในเครื่องแบบแสนยูนีคของ Columbia University ที่ทำเอาเหล่าเพื่อนๆ เซลเบริตี้ และครอบครัวของเธอ ต่างคอมเมนต์แสดงความดีใจกันยกใหญ่ แต่ต้องบอกว่า นั่นเป็นเพียงหนึ่งใน Achievement ทางการศึกษาของคุณน้ำ ดังนั้น HELLO! Education จึงขอมาเปิดรูทการศึกษาของเธอ และพาไปเผยประสบการณ์ของเธอ และความแตกต่างของระบบการศึกษาแบบอังกฤษ และอเมริกา

ประสบการณ์ Boarding School ณ ประเทศอังกฤษ

ตั้งแต่เธอยังเด็ก คุณ น้ำ ลักษณกาญจน์ เข้าเรียนที่ International School Bangkok (ISB) ระบบโรงเรียนนานาชาติแบบอเมริกันมาโดยตลอด จนกระทั่งวันหนึ่ง ที่เธอได้ตัดสินใจก้าวสู่ความท้าทายใหม่ๆ ด้วยตัวเอง และบอกกับครอบครัวว่า ‘เธอจะย้ายไปเรียนที่อังกฤษ’ และแอพพลายด์โรงเรียนประจำไปด้วยตนเอง จนได้รับคำตอบจากหนึ่งใน boarding school (โรงเรียนประจำ) หญิงล้วนชั้นนำ ซึ่งก็คือที่ Woldingham School นั่นเอง

น้ำ ลักษณกาญจน์
Cr : @namlaks

จากเด็กสาวตัวเล็กๆ พูดภาษาอังกฤษด้วยสำเนียงอเมริกันมาตลอดชีวิต ก็พร้อมก้าวสู่อีกโลกที่เธอไม่รู้จัก เธอได้เล่าให้เราฟังว่า “เหตุผลที่เลือกไปเรียนบอร์ดิ้ง คือน้ำนี่แหละค่ะตัดสินใจ ว่าอยากลองอะไรใหม่ เหมือนพอเราอยู่ในระบบการศึกษาแบบเดิมมา 10 กว่าปี น้ำก็คิดว่าอยากไปหาประสบการณ์ใหม่ๆ จึงตัดสินใจสมัครไปค่ะ”

คุณน้ำยังได้เล่าให้ฟังเพิ่ม ถึงความแตกต่างของระบบการเรียนทั้งสองแบบว่า “สำหรับคนที่เคยเรียนทั้งสองระบบ ส่วนตัวน้ำรู้สึกมีความสับสนกับตัวตนเราเล็กน้อย เพราะที่ ISB จะมีความเป็นอเมริกันค่อนข้างสูง แต่พอย้ายไปอังกฤษ เราจะมีความสับสนระหว่างระบบการเรียน วิธีการพูด การคิด หลายอย่างไม่เหมือนกันเลยนะคะ น้ำว่าสิ่งสำคัญคือเราควรเปิดใจ และพร้อมที่จะเรียนรู้ พร้อมที่จะรับความแตกต่าง”

เรามั่นใจเลยว่า การเรียนของทั้งสองระบบมีความแตกต่างกันอย่างมากแน่ๆ ถึงขนาดที่คุณน้ำยังเอ่ยปากแนะนำเหล่าเด็กที่อยากย้ายไปเรียนในประทเศที่ระบบแตกต่างกับที่เรียนอยู่อย่างสิ้นเชิง ว่าให้ลองคิดดีๆ ก่อนว่าสายในอนาคตที่เราวางไว้ จำเป็นในการเปลี่ยนระบบที่เรียนอยู่ไหม หรือไม่อย่างนั้นให้ลองไปเรียนซัมเมอร์ดูก่อนว่าชอบกับระบบหรือไม่ ซึ่งแน่นอนว่ามีโปรแกรมซัมเมอร์มากมาย ที่เปิดโอกาสให้เหล่านักเรียนได้ไปทดลองใช้ชีวิตในระบบการศึกษานั้นๆ ก่อน ฉะนั้น เราว่าเป็นอีกหนึ่งไอเดียดีๆ ก่อนย้ายไปนะคะ

แต่กระนั้น ในทุกความเปลี่ยนแปลงย่อมมีข้อดีเสมอ เฉกเช่นที่คุณน้ำได้กล่าวว่า “น้ำว่าข้อดีมากๆ คือเราได้มีโอกาสเรียนรู้วัฒนธรรมของแต่ละที่ และได้ลองใช้ชีวิตในรูปแบบที่แตกต่างกัน ซึ่งช่วยทำให้น้ำเป็นคนที่สามารถปรับตัวกับสถานการณ์ต่างๆได้ดีขึ้นไม่ว่าจะอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบไหนค่ะ”

น้ำ ลักษณกาญจน์
คุณ น้ำ ลักษณกาญจน์ จบการศึกษาระดับปริญญาตรี ที่ Univeristy of Manchester ประเทศอังกฤษ
Cr: @namlaks

แต่นั่นก็ทำให้คุณน้ำได้อยู่ในระบบการเรียนแบอังกฤษไปพักใหญ่ ตอนกลับมาเรียนที่ไทย เธอก็ได้ศึกษาต่อที่โรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์ กรุงเทพ จนเข้ารับการศึกษาระดับปริญญาตรี ที่ University of Manchester ที่อังกฤษ และหลังจากที่จบปริญญาตรี เธอก็เรียนต่อปริญญาโทที่ Columbia University ที่นิวยอร์ก ซึ่งเป็นการที่เธอกลับมาอยู่ในระบบอเมริกาอีกครั้ง

เราก็อยากรู้เช่นกันว่า ถ้าในระบบมัธยมแตกต่าง แล้วระบบของมหาวิทลัย จะมีความแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน ซึ่งคุณน้ำก้ได้เล่าให้ฟังว่า “สำหรับน้ำ พอเป็นการเรียนตรีที่อังกฤษ แล้วโทที่อเมริกาเนี่ย ไม่ค่อยต่างกันมากนะคะ” คุณน้ำกล่าว

“ที่มหาวิทยาลัยที่อังกฤษตอนปริญญาตรี เขาจะมีความปล่อยเป็นอิสระ ไม่ได้กำหนดว่าต้องเข้าร่วมกิจกรรมอะไร แค่เรียนตามหลักสูตรให้ครบ ซึ่งจะคล้ายกับการเรียนโทที่อเมริกา แต่น้ำก็ไปคุยกับเพื่อนที่เค้าเรียนตรีที่อเมริกา ซึ่งที่นั่นจะค่อนข้าง assessment – based และเน้นการเข้าร่วมกิจกรรมมากๆค่ะ”

แล้วนอกจากระบบการเรียน ในเรื่องของสังคมล่ะ มีความแตกต่างกันมากมาน้อยแค่ไหน คุณน้ำจึงเหล่าต่อว่า “สำหรับเรื่องวัฒนธรรมและวีถีการดำรงชีวิต น้ำว่าที่อเมริกา คนจะคุยเก่งกว่า ชอบแชร์เรื่องราว ส่วนคนอังกฤษจะเน้นความ มีระเบียบ มีวินัย และมีขั้นตอนในการใช้ชีวต ทั้งสองประเทศมีความเป็นมิตรเหมือนกัน น้ำชอบทั้งคู่เลยค่ะ”

น้ำ ลักษณกาญจน์
พิธีจบการศึกษา ณ Columbia University
Cr: @namlaks

คุณน้ำได้เข้าเรียนปริญญาโท ที่ Columbia University ในสาขา Clinical & Counseling Psychology ซึ่งแน่นอนว่า HELLO! เองก็แถบจะไม่เคยเห็นคนไทยเรียนในสาขาบ่อยนัก จึงทำให้เราเองก็สนใจมากๆ ว่าเป็นสาขาที่เรียนเกี่ยวกับอะไร

โดยคุณน้ำก็อธิบายถึงการตัดสินใจเลือกเรียนที่นี่ว่า “ที่น้ำเลือก major ในสาขาของ Clinical & Counseling Psychology เพราะจริงๆ เราเป็นคนชอบเรื่องจิตวิทยาอยู่แล้ว พอเป็นโท เราก็อยากหาอะไรที่เฉพาะทางด้วยค่ะ” เธอกล่าว

“น้ำคิดว่าถ้าเราเรียนในด้านนี้อาจจะช่วยเรื่องธุรกิจที่บ้านได้ และอีกอย่าง เพราะเรื่อง Mental Health กำลังเป็นเรื่องสำคัญด้วยค่ะ น้ำคิดว่าถ้าเราเรียนในด้านนี้ อาจจะช่วยเรื่องในด้านนี้ และช่วยตัวเราเองด้วยในวิธีคิด วิธีจัดระบบ และดูแลสุขภาพจิตเราเองด้วย น้ำว่ามันเหมาะกับคนที่อยากเป็น Therapist มากๆ เลย”

เธอยังบอกอีกด้วยว่าการเรียนที่นี่นั้น วิชาโปรดของเธอก็คือ Business Psychology ที่เธอสามารถนำไปต่อยอดเพื่อช่วยธุรกิจครอบครัวได้ แต่นอกจากในมุมวิชาการ เธอได้รู้จักตนเองมากขึ้นจากการเรียนด้วย และรู้ที่จัดการกับอารมณ์ของตนมากขึ้น นับว่าเป็นอีกทางเลือกที่ดี สำหรับคนที่สนใจ ในการศึกษาเรื่อง Health and Wellness

อ่านเรื่องราวของ ‘ น้ำ กัญจิกา ลักษณกาญจน์ ‘ เพิ่มเติมได้ที่ HELLO! Digital Cover เล่มที่ 12


อ่านเรื่องราวดี ๆ เกี่ยวกับราชวงศ์ ทั้งไทย และ ต่างประเทศ เซเลบริตี้ ข่าวสารใหม่ ๆ และ เรื่องราวเกี่ยวกับ แฟชั่น สุขภาพ และความงามได้ที่ HELLO!

เปิด ลุคบุ๊ค มาร์ค ต้วน, เตนล์ ชิตพล, เติร์ด ลภัส, คิทตี้ ชิชา และ ณิชา ณัฏฐนิชา จากงาน Saint Laurent pop up store

Get the Look! แกะเมคอัพสุดแกลมของ ‘จีจี้ ฮาดิด’ ตั้งแต่ลุคบนพรมแดงคานส์จนถึงอาฟเตอร์ปาร์ตี้

‘ราชินีฯ’ ทรง ทอ ผ้า ไหม ยก ทอง ในงาน ‘อัตลักษณ์ แห่งสยาม’ 

Never miss an update

Subscribe to our newsletter to get the latest updates.

No Thanks
You’re all set

Thank you for your subscription.