เพราะช่วงปฐมวัยถือเป็นวัยที่มีความสำคัญ เนื่องจากวัยนี้จะเป็นพื้นฐานในการหยั่งรากทางการเรียนรู้ และปูทางสำหรับการศึกษาในวัยเติบใหญ่
โรงเรียนอนุบาลในธรรมชาติจึงถือกำเนิดขึ้นที่เดนมาร์ก ในยุค 50 และต่อมาได้กลายเป็นต้นแบบของโรงเรียนอนุบาลท่ามกลางธรรมชาติตามประเทศต่างๆในยุโรป โดยมุ่งหมายที่จะสร้างความท้าทายให้นักเรียนมีสุขภาพกาย สุขภาพใจ ในแบบองค์รวมได้อย่างรู้เท่าทันมากขึ้นอย่างอิสระเสรี ท่ามกลางสภาพแแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติ

โดยที่เด็กๆ จะได้รับการส่งเสริมให้เด็กๆ รู้จักที่จะริเริ่มและออกสำรวจโลก พวกเขาจะเฝ้าสังเกต ตั้งคำถาม และตั้งสมมติฐานของพวกเขาเอง ด้วยวิธีการเช่นนี้ เด็กๆจะเรียนรู้จากประสบการณ์ แทนที่จะถูกป้อนข้อมูลอันกลวงเปล่าใส่สมองไม่ต่างจากการป้อนข้อมูลใส่คอมพิวเตอร์
แนวคิดการเรียนรู้ผ่านการเล่นในธรรมชาติ จะก้าวหน้าไปอีกขั้นหนึ่ง ด้วยการพาพวกเขาออกสำรวจและสร้างบทสนทนาที่ลื่นไหลขึ้นมา การที่เด็กๆออกไปเจอแมลงสักตัวก็อาจเป็นการจุดประกาย ให้เด็กๆ อยากเรียนรู้ด้วยตัวเองเพิ่มมากขึ้นอีก พวกเขาอยากทำความรู้จักอาณาจักรแมลงและพืชที่มากไปกว่าด้วงกว่างเพียงหนึ่งตัว

เพียงแค่การเรียนรู้ในสวนหลังบ้านเล็กๆ เด็กๆ จะมีโอกาสฟัง สังเกต สัมผัสและลิ้มรส พวกเขาจะสามารถเรียนรู้ที่จะเชื่อในประสาทสัมผัสทั้งห้า ไม่ว่าจะเป็นรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส และพัฒนาสัญชาตญาณของตัวเอง พวกเขาจะเก็บลูกไม้และใบไม้จากต้นนำมาทำอาหารหรือไม่ก็ชงชา
ไม่ว่าพวกเขาจะเจอสัตว์ที่น่าขยะแขยงหรือน่ากลัว อย่างเช่น ตัวบุ้ง หนอน หอยทาก หรือแมงมุม พวกเขาจะเลิกกลัวและหันมาทำความรู้จักสัตว์ต่างๆ เหล่านี้แทน พวกเขาจะหันมารักสัคว์ และเข้าใจวัฏจักรของฤดูกาลที่หมุนเวียนเปลี่ยนไปในแต่ละช่วงเวลา เป็นการเปิดโลกอีกโลกให้แก่พวกเขา พวกเขาจะรู้จักการอยู่อย่างกลมกลืนกับธรรมชาติว่าเป็นเช่นไร
ระยะหลังมานี้มีโรงเรียนในไทยหลายแห่งที่ใช้หลักการเรียนรู้ผ่านธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็น Panyaden International School ที่เชียงใหม่ หรือในกรุงเทพฯ อาทิเช่น โรงเรียนรุ่งอรุณ โรงเรียนทอสี ฯลฯ ซึ่งปลูกฝังเด็กให้เรียนรู้จากธรรมชาติรอบตัวตั้งแต่ยังอยู่ในวัยอนุบาล

แต่นอกเหนือจากการเรียนรู้ในโรงเรียนแล้ว HELLO! ยังอยากแนะนำหนังสือสองเล่ม ที่เขียนโดยครูปิ๋ม-ศิริลักษณ์ ริ้วบำรุง ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ‘เล่นกับดอกไม้ใบหญ้า’ (Play with Flowers and Leaves) หรือ ‘ห้องเรียนธรรมชาติ’ (Nature Learn) เพื่อให้เข้าใจแนวคิดโดยรวมของการเรียนรู้ผ่านธรรมชาติที่ผู้เขียนจะนำพาผู้อ่านไปรู้จัก เพราะ
”การเลี้ยงลูกแบบธรรมชาติ ปล่อยให้เด็กเติบโตตามวัย โดยมีพ่อและแม่เป็นคนสำคัญที่ช่วยบ่มเพาะให้เมล็ดพันธุ์น้อยๆ เหล่านี้เติบใหญ่กลายเป็นต้นไม้ที่แข็งแกร่ง ให้ร่มเงา ผลิดอกออกผลเป็นประโยชน์ต่อโลกใบนี้”
จะเป็นการดีไหม หากพ่อแม่จะหยุดพาลูกๆไปตากแอร์อยู่แต่ในบ้าน แต่ไปเที่ยวชมสวนสาธารณะใกล้ๆ แทน
ที่มา : Konfekt Spring 2021