ChatGPT เปิดตัวเครื่องมือใหม่ ที่จะช่วยบรรเทาความกังวลว่าจะมีการใช้ AI ในการโกงข้อสอบที่โรงเรียน เครื่องมือนี้ชื่อว่า AI Text Classifier ที่ถูกออกแบบมาให้สามารถแยกแยะข้อเขียนที่เขียนโดย AI ไม่ใช่ตัวนักเรียนเอง
AI Text Classifier ผลิตโดย OpenAI ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยี AI ที่ตั้งอยู่ในซานฟรานซิสโก ซึ่งเป็นบริษัทเดียวกับที่สร้าง ChatGPT ซึ่งเป็นระบบ AI ที่สามารถสั่งให้ทำงานเขียนได้ตามต้องการ
ทำให้เจ้าหน้าที่ในแวดวงการศึกษาจำนวนมาก เป็นห่วงว่าจะทำให้เกิดการโกงข้อสอบการเขียน และเป็นอันตรายต่อการเรียนรู้เป็นอย่างมาก
แต่ OpenAI ก็ได้ออกโรงเตือนว่า ขณะนี้เครื่องมือใหม่ล่าสุดอย่าง AI Text Classifier นี้ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ เช่นเดียวกับเครื่องมือตรวจจับ AI อื่นๆ ที่ออกสู่ท้องตลาด กรรมวิธีการตรวจจับการเขียนด้วย AI จึงยังผิดพลาดอยู่บ้าง
“ด้วยเหตุนี้ครูจึงไม่สามารถเชื่อถือเครื่องมือดังกล่าว ในการตัดสินใจให้คะแนน” แจน ไลเก้ แห่ง OpenAI บอก
สถานะในสหรัฐฯ
วัยรุ่นและนักศึกษามหาวิทยาลัยเป็นส่วนหนึ่งของคนอีกพันล้าน ที่เริ่มทดลองใช้ หลังจากเว็บไซต์ OpenAI เปิดให้ใช้งานฟรีเมื่อ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา

มีคนมากมายท่ีพบวิธีใช้ AI Text Classifier ได้อย่างสร้างสรรค์และไม่เป็นพิษภัย ทว่าก็ยังมีนักการศึกษาบางคนที่กังวลถึงความง่ายในการใช้มันในการตอบแบบฝึกหัด หรืองานอื่นๆ ที่ครูสั่งเป็นการบ้าน
โรงเรียนต่างๆในสหรัฐฯ รายงานว่า พวกเขามีวิวาทะเกี่ยวกับ ChatGPT ที่ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ก่อนที่โรงเรียนรัฐบาลต่างๆ ในนิวยอร์ก แอลเอ และเมืองใหญ่ต่างๆของสหรัฐฯ จะเปิดสอนปีการศึกษาใหม่ ล้วนแต่ปิดกั้นการใช้ AI ในห้องเรียนและในอุปกรณ์ต่างๆของโรงเรียน
เขตการศึกษาซีแอทเทิลปิดกั้นการใช้ AI ในอุปกรณ์ต่างๆของโรงเรียนเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา แต่แล้วก็หันกลับมาเปิดให้นักการศึกษาสามารถใช้ได้อีกครั้ง
โฆษกของเขตการศึกษาซีแอทเทิล ทิม โรบินสัน กล่าวว่าที่เปิดใช้ก็เพราะกลุ่มครูต้องการใช้เป็นเครื่องมือในการสอน “เราไม่สามารถมองข้ามข้อเสียได้” โรบินสันบอก
ทางเขตการศึกษาซีแอทเทิล ยังมีการถกกันเกี่ยวกับการใช้ AI ในห้องเรียน เพื่อให้ครูสามารถใช้สอนนักเรียนเรื่องการคิดวิเคราะห์ นอกจากนี้นักเรียนยังสามารถใช้เป็น ‘ติวเตอร์ส่วนตัว’ หรือเอาไว้ช่วยหาความคิดสร้างสรรค์ในการทำการบ้าน
OpenAI ได้เขียนข้อจำกัดของการใช้เครื่องมือตรวจจับ AI ไว้ในบล็อก แต่ก็เสริมว่าเครื่องมือนี้สามารถช่วยค้นหาข้อมูลเท็จ และการใช้ในทางที่ผิด เช่นการเลียนแบบมนุษย์ และการตรวจจับการคัดลอกผลงานโดยไม่ให้เครดิต

ยิ่งเป็นงานเขียนที่ยาวมากเท่าไร เครื่องมือก็ยิ่งตรวจจับการใช้ AI ในงานได้มากขึ้นเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นฝีมือของ AI หรือเป็นฝีมือมนุษย์ AI Text Classifier สามารถจำแนกชนิดของงานเขียนว่า เป็นความเรียงที่ใช้สมัครเข้ามหาวิทยาลัย หรืองานวิจัยวรรณกรรมเรื่อง Invisible Man ของ ราล์ฟ เอลลิมัน เครื่องมือนี้จะให้ความเห็นว่า ‘ไม่น่าเป็นไปได้ ไม่ชัดเจนว่า หรือเป็นไปได้ว่า’
ChatGPT ก็ไม่ต่างจาก AI Text Classifier ตรงที่ไม่สามารถพูดได้ว่า พร้อมใช้ได้เลย เพราะยังมีบางอย่างที่ไม่เป็นที่เข้าใจ “ตอนนี้เรายังไม่สามารถพูดได้ว่า เครื่องมือนี้มีประสิทธิภาพมากขนาดไหน” ไลเก้บอก
ความเห็นจากนานาชาติ
มหาวิทยาลัยทั่วโลกเริ่มมีการถกกัน เรื่องการใช้เทคโนโลยี AI ได้อย่างมีความรับผิดชอบ Paris Institute of Political Studies หรือ Sciences Po หนึ่งในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงที่สุดในฝรั่งเศส

เพิ่งประกาศห้ามใช้ ChatGPT และเครื่องมือ AI อื่นๆ ในการทำงานเขียน หรือการร่ายคำพูด ถ้าพบว่าใช้จะถูกโรงเรียนและสถาบันการศึกษาในฝรั่งเศสแบน
OpenAI โต้ตอบคำวิจารณ์ดังกล่าวว่า เครื่องมือนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อช่วยเหลือนักการศึกษา
รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจดิจิทัลของฝรั่งเศศ ฌอม-โนเอล บาร์โรต์ เพิ่งพบผู้นำและซีอีโอของ OpenAI แซม อัลท์แมนที่แคลิฟอร์เนีย ให้หลังจากนั้นบาร์โรต์ก็กล่าวกับสาธารณชนที่มาร่วมงาน World Economic Forum เมืองดาวอส สวิตเซอร์แลนด์ ว่า
ถึงแม้เขาจะมีความหวังเกี่ยวกับเรื่องเทคโนโลยี แต่ก็ยังมีคำถามที่เกี่ยวกับศีลธรรมที่ต้องการคำตอบอีกเป็นจำนวนมาก
“ถ้าคุณสอนนิติศาสตร์ ก็ยังต้องกังวลอยู่ว่า AI หรือเครื่องมืออื่นๆ จะสามารถเขียนคำตอบที่น่าประทับใจออกมาได้ ถ้าคุณสอนเศรษฐศาสตร์ คุณก็จะสบาย เพราะ AI จะรับหน้าที่ค้นหาหรือเขียนอะไรบางอย่างที่คาดว่า นักศึกษาวิชาเศรษฐศาสตร์จะสามารถเขียนได้”
ที่มา : voanews.com