หากกล่าวถึงโรงเรียนนานาชาติในประเทศไทยที่มีประวัติความเป็นมาอันยาวนาน โรงเรียนร่วมฤดีวิเทศศึกษา หรือโรงเรียนนานาชาติร่วมฤดี (RIS – Ruamrudee International School) ถือเป็นหนึ่งในสถาบันการศึกษาอันเก่าแก่ที่มอบความรู้ทางวิชาการ บ่มเพาะแนวคิดและประสบการณ์อันเปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจให้กับนักเรียนมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2500 ซึ่งในปีหน้าที่จะถึงนี้ โรงเรียนจะมีอายุครบ 65 ปี นอกเหนือจากการเฉลิมฉลองความสำเร็จกว่า 6 ทศวรรษที่ผ่านมาด้วยความภาคภูมิใจ สถาบันแห่งนี้ยังเดินหน้าพัฒนาการศึกษาให้ทันสมัยและมีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง ตามคติพจน์โรงเรียนที่ว่า Ad Astra ในภาษาละตินซึ่งแปลว่า To The Stars การมุ่งไปสู่ดวงดาว “โรงเรียนมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างเยาวชนไปสู่ความเป็นเลิศ ซึ่งไม่ใช่เพียงด้านวิชาการเท่านั้น แต่เราใส่ใจทุกมิติของชีวิต โดยเฉพาะด้านคุณธรรมและสังคมซึ่งเป็นสิ่งที่โรงเรียนร่วมฤดีวิเทศศึกษาเน้นมาตลอด” คุณพ่อจิตตพล ปลั่งกลาง ผู้อำนวยการโรงเรียนกล่าว

ต้นแบบของโรงเรียนนานาชาติคาทอลิก
เมื่อ 70 กว่าปีก่อน มิชชันนารีคณะพระมหาไถ่ ซึ่งเป็นนักบวชคาทอลิกจากสหรัฐอเมริกาได้เข้ามาทำงานในประเทศไทย และได้เล็งเห็นความสำคัญเรื่องการศึกษาของลูกหลานชาวต่างชาติที่พำนักอาศัยอยู่เมืองไทย ซึ่งในยุคนั้นยังไม่มีโรงเรียนที่จะดูแลเด็กๆ เหล่านี้ได้เต็มรูปแบบ คณะนักบวชพระมหาไถ่จึงได้ก่อตั้งโรงเรียนขึ้นบริเวณด้านหลังของโบสถ์พระมหาไถ่ในซอยร่วมฤดี โดยมีกระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้แทนผู้รับใบอนุญาต RIS เน้นความรู้คู่คุณธรรมเสมอมา อันเป็นหัวใจของการศึกษาคาทอลิก และเนื่องจากความแออัดในตัวเมือง จึงได้ย้ายโรงเรียนมาตั้งอยู่ที่มีนบุรี ในปี พ.ศ. 2535

“ในปีหน้านอกจากจะเป็นการครบรอบ 65 ปีของโรงเรียนแล้ว ยังเป็นการครบรอบ 30 ปีแคมปัสมีนบุรีด้วย เราจะเฉลิมฉลองโอกาสพิเศษนี้ในเดือนพฤษภาคม เป็นการเฉลิมฉลองประวัติศาตร์ของบ้านหลังนี้ เป็นโอกาสที่ทั้งศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบัน ครู ผู้ปกครอง จะได้พบปะและมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ตลอดทั้งปี เช่น เสวนาเชิงวิชาการ RIS Talks โครงการช่วยเหลือองค์กรสังคมสงเคราะห์ และกิจกรรมจิตอาสา เป็นต้น และถือเป็นโอกาสพิเศษที่จะได้นำวิสัยทัศน์และพันธกิจของ RIS ขยายไปสู่ภาคใต้กับแคมปัสใหม่ที่จังหวัดภูเก็ต เช่นเดียวกับ RIS Early Years รามอินทรา และ RIS ราชพฤกษ์” คุณพ่อจิตตพลกล่าว
การศึกษาที่ได้มาตรฐาน
รูปแบบการเรียนการสอนของ RIS เป็นแบบอเมริกัน เปิดสอนตั้งแต่ชั้น Pre-School ไปจนถึงเกรด 12 นับเป็นการศึกษาที่ได้มาตรฐานและได้รับการรับรองคุณภาพการศึกษาจาก WASC – Western Association of Schools and Colleges มาตั้งแต่ยุคเริ่มต้น เพื่อการันตีว่าเป็นสถาบันการศึกษาที่มีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาอเมริกัน “ในปีนี้ WASC ได้ต่อการรับรองคุณภาพการศึกษาให้เราออกไปอีก 6 ปี ซึ่งการรับรองดังกล่าวมีประโยชน์อย่างมากทั้งในด้านการรักษาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนและการสมัครเรียนต่อต่างประเทศของนักเรียน” คุณพ่อจิตตพลกล่าว
ไม่เพียงแต่ความรู้เชิงวิชาการที่แข็งแกร่ง กิจกรรม Service Learning ยังเปิดโอกาสให้เด็กได้เรียนรู้ผ่านกิจกรรมเพื่อสังคมด้วย นับว่าเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของ RIS “การเรียนรู้นอกห้องเรียนทำให้เด็กๆ ได้สัมผัสประสบการณ์จากชีวิตจริง และได้ช่วยเหลือคนด้อยโอกาสทางสังคมผ่านงานต่างๆ ของมูลนิธิคณะสงฆ์พระมหาไถ่แห่งประเทศไทย เช่น โรงเรียนเพื่อผู้พิการ โรงเรียนสอนคนตาบอด และบ้านเด็กเร่ร่อนที่พัทยา งานช่วยเหลือดูแลเด็กชาวเขาในเขตอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ งานในชุมชนแออัดคลองเตย งานดูแลเด็กด้อยโอกาสที่หนองคาย ฯลฯ แต่ละปีเรามีโครงการและกิจกรรมที่หลากหลาย เพื่อให้นักเรียนได้มีส่วมร่วม ได้สัมผัสและเกิดการเรียนรู้จากชีวิตจริง”

องค์ประกอบที่สำคัญอีกด้านหนึ่งของการศึกษาคือการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดี ที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของเด็กๆ “เราทำบรรยากาศของที่นี่ให้เป็นบ้านอีกหลังที่ทุกคนเข้ามาแล้วมีความสุขและปลอดภัย” คุณพ่อจิตตพลกล่าวก่อนอธิบายว่า “เราเน้นเรื่องการสื่อสารเป็นพิเศษ เพราะการสื่อสารที่ชัดเจนและสร้างสรรค์จะทำให้เราพัฒนาการเรียนการสอนและการใช้ชีวิตร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ นักเรียนทุกคนที่สมัครมาเรียนที่นี่ ผมสัมภาษณ์เองทุกคน รวมถึงคุณพ่อคุณแม่ด้วย เพราะอยากฟังทัศนคติและความคาดหวังของพวกเขา เพื่อให้แน่ใจว่าทั้งตัวเด็ก ผู้ปกครอง และโรงเรียนเหมาะสมลงตัวกันดี มีเป้าหมายมีทิศทางเดียวกัน เพราะผมมุ่งมั่นที่จะสร้าง RIS ให้เป็นครอบครัวที่มีความสุข พร้อมที่จะเติบโตและพัฒนาไปด้วยกัน”
เส้นทางสู่ความสำเร็จของทุกคน
สิ่งหนึ่งที่นับเป็นความแข็งแกร่งของ RIS คือความชัดเจนของวิสัยทัศน์และพันธกิจ ที่มุ่งมั่นจะพาเด็กทุกคนไปสู่ความสำเร็จ “แม้นักเรียน ครูและบุคลากรของที่นี่จะมีความหลากหลายทั้งความเชื่อ ศาสนา และวัฒนธรรมมีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งไม่ว่าจะแตกต่างกันอย่างไร เรามีหัวใจเดียวกันเพื่อการเรียนรู้ของเด็กๆ ทุกคน” ดร.จิม โอมอลลี Head of School ของโรงเรียนกล่าว “ในขณะเดียวกันพื้นฐานของการเรียนรู้ต้องสร้างบนความสมดุลของความสำเร็จและการเป็นคนดีมีคุณธรรมด้วย”
หลักการเรียนการสอนของที่นี่มุ่งเน้น 3 ด้านตามหลัก Principles of Phoenix ของโรงเรียน ได้แก่ Head (knowledge) ส่งเสริมให้มีความคิดสร้างสรรค์ มีวิธีการเรียนรู้ที่หลากหลาย Hands (skills) มีทักษะ เรียนรู้ที่จะทำงานเป็นทีม และ Heart (values) ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและไม่ลืมที่จะช่วยเหลือผู้อื่น เป็นการสร้างสมดุลในชีวิตนอกเหนือจากวิชาการ ผ่านทางกิจกรรมกีฬา ชมรมต่าง ๆ เช่น Soi Dog, Habitat for Humanity, Red Cross, Amnesty รวมทั้งกิจกรรม Service Learning

การเรียนรู้ในโรงเรียนเป็นพื้นฐานสำคัญของเส้นทางสู่มหาวิทยาลัย ที่ผ่านมาเด็กนักเรียนของ RIS มีสถิติอันดีเยี่ยมจากการตอบรับให้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศ RIS เปิดทั้งหลักสูตร Advanced Program (AP) และระบบ IB Diploma Program เพื่อเป็นทางเลือกให้กับนักเรียน High School ที่สนใจหลักสูตรเหล่านี้
“เราเป็นหนึ่งในไม่กี่โรงเรียนที่เปิดทั้งโปรแกรม AP และ IB ปัจจุบันเรามีนักเรียน High School 400 กว่าคน มีวิชาให้เลือกมากกว่า 200 วิชา เรียกว่าเรามีเส้นทางสู่ความสำเร็จที่หลากหลายสำหรับเด็กทุกคนที่นี่ เรามีนักเรียนที่เก่งในด้านวิชาการและได้ไปเรียนต่อในมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก เรามีเด็กที่มุ่งมั่นช่วยเหลือสังคม สานต่อสิ่งที่ตนเองรักและสนใจ เรียกได้ว่าไม่ว่า
เป้าหมายของเด็กจะเป็นแบบไหน เรามีทางให้เขาได้เลือกเดินและพร้อมสนับสนุนเต็มที่ทุกทาง” ดร.จิมกล่าว
คุณพ่อจิตตพลกล่าวเสริมว่า “เป็นความภูมิใจที่ Newsweek.com ได้เลือกให้ RIS เป็นหนึ่งในโรงเรียน IB ที่โดดเด่นของโลกปี 2021 และค่าเฉลี่ยคะแนน IB ของนักเรียน RIS ปีนี้คือ 37 คะแนนซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยโลกโดยมี 3 คนที่ได้คะแนนสูงสุดถึง 43 คะแนน คุณภาพของหลักสูตรที่นี่ ความพากเพียรของนักเรียน และการสนับสนุนของผู้ปกครอง คือปัจจัยที่สำคัญต่อความสำเร็จเหล่านี้”
“เราให้ความสำคัญมากกับการแนะแนวการศึกษา โดยจะมีที่ปรึกษาเรื่องนี้โดยเฉพาะ เมื่อนักเรียนขึ้นเกรด 9 อาจารย์ที่ปรึกษาจะเริ่มพูดคุยกับนักเรียนเรื่องการสร้างโปรไฟล์ การเตรียมสมัครเข้ามหาวิทยาลัย รวมถึงเป้าหมายในชีวิต และแต่ละปีจะมี University Fair 2 ครั้ง ซึ่งมีประโยชน์มากในการวางแผนการเรียนต่อของนักเรียน” ดร.จิมกล่าว
กว่า 65 ปีที่ผ่านมา RIS ได้ดูแลเอาใจใส่นักเรียนแต่ละคนให้เติบโตอย่างมั่นใจ มีความรู้คู่คุณธรรมในชีวิต “สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนและเป็นเรื่องที่น่าประทับใจก็คือการมีความภาคภูมิใจในการเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว RIS ทั้งศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันต่างมีประสบการณ์และความทรงจำที่ดีกับโรงเรียน การมาเรียนที่ RIS จึงไม่ใช่เพียงแค่การมาโรงเรียน แต่คือการมาใช้ชีวิตเรียนรู้ร่วมกันในบ้านหลังใหญ่ที่มีเอกลักษณ์และประวัติศาสตร์อันน่าภาคภูมิใจ” ดร.จิมกล่าว