ในยุคที่การเชื่อมต่อข้ามซีกโลกสามารถทำได้อย่างง่ายดาย ทำให้ดูเหมือนว่าโลกจะเล็กลงอย่างมาก และคาดว่าในอนาคตข้างหน้า โลกจะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และทุกคนจะกลายเป็นพลเมืองโลกในที่สุด จึงถือเป็นภารกิจของ Shrewsbury ซิตี้แคมปัส ที่จะปลูกฝังทักษะพื้นฐานที่ดีแก่เด็กเล็ก เพื่อเป็นก้าวสำคัญสำหรับการศึกษาในชั้นต่อๆไปในอนาคต
HELLO! Education ได้พูดคุยกับ ‘อแมนด้า เดนนิสัน’ ครูใหญ่ของ Shrewsbury ซิตี้แคมปัส ซึ่งเคยเป็น Head of Junior School ของ Shrewsbury ที่ริเวอร์ไซด์แคมปัสมานานถึงเจ็ดปี ก่อนจะย้ายมาเป็นครูใหญ่ของ Shrewsbury ซิตี้แคมปัส ซึ่งใช้แนวทาง Value-led Education ในการสอนชั้น Early Years เรื่อยไปจนถึงชั้น Key Stage 1-2

“Value-led Education มีความสำคัญสำหรับฉันมาตลอดเวลาสามสิบกว่าปีที่อยู่ในแวดวงการศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันนี้ที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เป็นความท้าทายครั้งใหญ่ ทำให้เราต้องช่วยให้เด็กรู้จักปรับตัวกับความท้าทาย เพื่อรับมือกับสิ่งต่างๆที่พวกเขาจะพบเจอในอนาคต และมีแพชชั่นในการเรียน
เด็กๆจึงต้องมีพัฒนาการทางวิชาการและทางอารมณ์ควบคู่กัน เพราะจะมีประโยชน์อะไรที่จะสอบ A Level ได้ A* ทั้ง 4 วิชา ถ้าไม่มีความฉลาดทางอารมณ์ เพราะถ้าเด็กมีความสุขและเข้าใจอารมณ์ของตนเองและคนอื่น พร้อมกับมีทักษะสำคัญอื่นๆ พวกเขาจะสามารถทะยานไปได้ไกลเอง ฉันคิดว่า Value หรือพัฒนาการทางอารมณ์สำคัญพอๆกับวิชาการ”
คัดสรรนักเรียน ส่วนสำคัญของแนวคิด Value-led Education
“เราคัดเลือกเด็กจากทุกมิติค่ะ” ครูอแมนด้าบอกกับเรา เมื่อถามว่าในแนวคิด Value-led Education นั้น การคัดเลือกเด็กนับเป็นก้าวแรกของการศึกษาในแนวทางนี้

“เราพบทั้งครอบครัวของเด็ก ผู้ปกครอง และตัวเด็กเอง ดูว่าเขามีความรู้มากขนาดไหน เราอ่านรายงานจากโรงเรียนเก่าเกี่ยวกับเด็กทุกอย่าง แต่เราไม่ได้ตัดสินแค่ภายนอก แต่ดูไปถึงศักยภาพความฉลาดทางด้านอารมณ์ภายใน และสิ่งสำคัญอีกอย่างก็คือ ผู้ปกครองต้องเข้าใจปรัชญาการศึกษาและแนวทางการเรียนการสอนของ Shrewsbury”
คัดสรรครู และทีมงานคุณภาพ เบื้องหลังแนวคิด Value-led Education
องค์ประกอบสำคัญอีกอย่างที่จะขาดไปไม่ได้ ในแนวคิด Value-led Education นี้ นั่นก็คือการคัดเลือกครูและทีมงานที่จะมาดูแลนักเรียนอย่างใกล้ชิด เพราะถือเป็นจิกซอว์สำคัญที่จะทำให้แผนการสอนสมบูรณ์
“ครูประจำชั้นและครูวิชาเฉพาะที่ Shrewsbury ซิตี้แคมปัส นอกจากจะมีประวัติการสอนที่ดีเยี่ยมแล้ว ยังต้องเป็นผู้ที่มีกรอบความคิดแบบเติบโต (growth mindset) มีความคิดสร้างสรรค์ในการสอน และมีใจที่เปิดกว้าง

ฉันคัดเลือกทีมครูที่มีวัยและประสบการณ์แตกต่างกัน เพราะฉันไม่ต้องการครูที่คิดเหมือนกันหมด แต่แน่นอนว่าพวกเขาจะต้องจบการศึกษาขั้นต่ำปริญญาตรีทางด้านครุศาสตร์หรือศึกษาศาสตร์จากสหราชอาณาจักร เป็นเจ้าของภาษา และมีประสบการณ์สอนในหลักสูตรอังกฤษไม่ต่ำกว่า 3 ปี และเรายังตรวจสอบไปยังบุคคลที่ผู้สมัครอ้างถึงด้วย เพื่อความปลอดภัยของเด็ก
โดยผู้บริหารระดับสูงของโรงเรียน SMT (Senior Management Team) จะเป็นผู้คัดเลือก จากใบสมัครหลายร้อยใบในแต่ละปี และฉันก็เป็นผู้สัมภาษณ์ผู้สมัครทุกคนด้วยตัวเองที่ Shrewsbury ในสหราชอาณาจักร เพื่อดูว่าพวกเขามีแพชชั่นการสอนในแววตาหรือไม่”
ทุ่มทุนสร้างสิ่งอำนวยความสะดวก (Facility)
สิ่งที่ Shrewsbury ให้ความสำคัญไม่น้อยไปกว่าคุณภาพของบุคลากร นั้นก็คือสิ่งสถานที่ สิ่งแวดล้อมและอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือในการเรียนการสอน “ช่วงที่ฉันเป็น Head of Junior School ที่ริเวอร์ไซด์แคมปัส เรามี Waiting List ยาวเหยียด นักเรียนอยากเรียนแต่ไม่สามารถเข้าได้ เพราะที่เรียนไม่มากพอ เราก็เลยคิดว่าแคมปัสที่สองจะเปิดเฉพาะชั้นเนิร์สเซอรีส์จนถึงประถม เราจึงออกแบบสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อรองรับเด็กอายุ 2-11 ขวบ โดยเฉพาะ และแน่นอนว่าเมื่อจบจากซิตี้แคมปัสแล้ว เด็กๆ ก็สามารถเข้าเรียนมัธยมที่ริเวอร์ไซด์แคมปัสต่อได้ทุกคน


“ตลอดระยะเวลากว่า 4 ปีที่ Shrewsbury ซิตี้แคมปัส ได้เปิดทำการมา เราได้มุ่งพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆภายในโรงเรียนอย่างไม่ลดละ เราสร้างพื้นที่ธรรมชาติเพื่อให้เด็กได้เรียนรู้ในธรรมชาติตามแนวทาง Forest School และสนามเด็กเล่นสำหรับเด็ก Early Years โดยเฉพาะ รวมทั้งลงทุนในแผนก Design & Technology ของเด็กประถม เรามีเครื่องพิมพ์สามมิติ เครื่องตัดเลเซอร์ และซอฟท์แวร์ CAD/CAM
Shrewsbury ซิตี้แคมปัส ภูมิใจที่เป็นโรงเรียนแห่งแรกในโลกและในประเทศไทยที่นำหลักสูตร DEC (Design, Engineer and Construct) จากอังกฤษมาใช้ในการเรียนการสอนเด็กประถม นอกจากนี้เรายังมีหุ่นยนต์สำหรับเด็กเล็กด้วย เพราะการศึกษาเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เราจึงกล้าลงทุนเพื่อประโยชน์สำหรับตัวเด็กเอง เราเป็นผู้นำทางการศึกษาเสมอค่ะ”

ปีที่ผ่านมาทางริเวอร์ไซด์แคมปัสใช้เงิน 1.1 พันล้านบาทสร้างศูนย์การเรียนรู้ระดับอุดมศึกษา ที่มีทั้งห้องแล็บหุ่นยนต์และนวัตกรรมไฮเทค ห้องแล็บวิทยาศาสตร์อันทันสมัย 18 ห้อง ห้องคณิตศาสตร์ 16 ห้อง รวมทั้งพื้นที่ co-studying และ Sixth Form Centre

สังคมภาษาอังกฤษ
สังคมภายใน Shrewsbury ซิตี้แคมปัสใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักในการสื่อสารภายในโรงเรียน ครูอแมนด้ากล่าวอย่างภูมิใจมากว่า

“นักเรียนเราจะพูดอังกฤษในโรงเรียน เพราะนี่คือภาษาหลักของโรงเรียน ซึ่งทุกคนต้องใช้ภาษาเดียวกัน นี่คือวิธีการปลูกฝังของเรา ว่าการพูดภาษาอังกฤษได้เป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นชั้น Nursery หรือ Early Years ความท้าทายอยู่ที่ช่วงแรกๆ ที่เด็กจะต้องปรับตัว เราให้ความสำคัญกับการเรียนภาษา เด็กๆตั้งแต่ชั้น Early Years ขึ้นไปจะเรียนทั้งภาษาอังกฤษ จีน และไทย
การดูแลอภิบาลเด็ก
หน้าที่สำคัญของโรงเรียน นอกจากจะสอนเด็กให้อ่านออกเขียนได้แล้ว ยังจะต้องสอนนักเรียนในเรื่องสุขภาพใจและความฉลาดทางอารมณ์ของเด็กด้วย ซึ่งครูที่จบการศึกษาจากสหราชอาณาจักรจะได้รับการฝึกด้านการอภิบาลเด็ก (Pastoral Care) มาเป็นอย่างดี

“ที่ Shrewsbury ซิตี้แคมปัสเรามีครูที่น่ารักประจำห้อง Welbeing ที่คอยช่วยเหลือเด็ก ให้ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากหรือความเดือดร้อนทั้งหลาย พวกเขาอาจมาด้วยเรื่องเพื่อน เรื่องทางบ้าน เรื่องโรคภัยไข้เจ็บ เด็กอาจจะอารมณ์ขึ้นๆลงๆ เรารู้ว่าเป็นธรรมดาที่เด็กโกรธ แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือ พวกเขาจัดการความโกรธนี้อย่างไร เราจะไม่บอกว่าห้ามโกรธนะ พวกเขาโกรธได้ แต่เราจะช่วยให้เขาจัดการความโกรธอย่างมีกลยุทธ พวกเขาไม่สามารถทำลายข้าวของหรือทำร้ายคนอื่น”
พัฒนา Value ของเด็กอย่างมีความหมาย และยั่งยืน
ครูอแมนด้ายังบอกเราอีกด้วยว่า ทางโรงเรียนฝึกให้เด็กได้เจอกับความท้าทาย ในสภาพแวดล้อมที่พวกเขารู้สึกปลอดภัยเมื่อทำผิดพลาด เมื่อเด็กเจอความขัดแย้ง พวกเขาควรตระหนักได้ว่าหากเลือกเส้นทางนี้ก็จะพบเจอผลลัพธ์เช่นใด ที่สำคัญคือการเรียนรู้จากความผิดพลาด และรู้จักขอโทษอย่างจริงใจ ไม่ใช่แค่ขอโทษเฉยๆ
“เราจะมี Value ประจำเดือนค่ะ ที่จะช่วยให้เด็กคิด และลงมือปฏิบัติ ในรูปแบบของความสัมพันธ์กับตัวเอง หรือระหว่างตัวเองกับคนในชุมชน เราให้แรงบันดาลใจแก่พวกเขาในการเลือก Value ทางบวกด้วยตัวเอง และเมื่อเด็กเล็กโตขึ้นและเข้าใจอะไรมากขึ้น บางทีเราก็หยิบ Value ที่เคยพูดถึงแล้วมาสอนซ้ำอีกเพื่อต่อยอดความรู้ความเข้าใจเดิม เช่น ความเห็นอกความเห็นใจ ทักษะการล้มแล้วลุกไว (resilience) ฯลฯ ซึ่งไม่ได้หมายความว่าพวกเขาถูกบังคับให้ยืดถือ Value เหล่านี้ แต่เราเปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้แสดงความคิดเห็นและถกกันเรื่อง Value เหล่านี้เพื่อพัฒนาตัวเอง”



การที่ทางโรงเรียนเลือกที่จะปลูกฝังเรื่อง Value ในเด็ก ก็เพราะมีบทพิสูจน์แล้วว่า เด็กที่มีความฉลาดทางอารมณ์ในทางบวก มีความมั่นใจในตัวเอง และมีจิตใจดี จะมีโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่า
“เรามี Value แตกต่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจินตนาการ ความกล้าหาญ การล้มแล้วลุกไว (resilience) การให้เกียรติซึ่งกันและกัน มิตรภาพ การคิดไตร่ตรอง และสันติภาพ เรานำเสนอ Value แตกต่างกันไปในแต่ละเดือน พร้อมกับเปิดโอกาสให้มีการถกและตีความหมายของ Value เหล่านี้ และจากนั้นเด็กๆจะสร้างสรรค์ Value ประจำตัวเขาเอง ซึ่งจะสะท้อนสิ่งที่พวกเขาเรียนรู้จากที่นี่”
‘If The Heart Is Right, All Will Be Well’
คือคำขวัญที่ Shrewsbury ใช้เป็นแนวทาง ขอเพียงเข้าใจหัวใจตัวเอง (Self Aware) มีความรู้ตัวทั่วพร้อม มีเข็มทิศศีลธรรม (Moral Compass) ในตัวเอง มีความสามารถในการเข้าใจคนอื่นและเป็นคนดี เมื่อออกไปเผชิญโลกภายนอก ไม่ว่าจะเจอเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ ทุกอย่างก็จะเป็นไปด้วยดี
ครูอแมนด้าได้เล่าเรื่องราวที่เป็นตัวอย่างของเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดีว่า “ตัวแทนนักเรียนชั้น Year 5 เขียนจดหมายมาวางไว้ที่โต๊ะทำงานฉัน ใจความว่า เขาสังเกตเห็นว่าโรงเรียนใช้มีดส้อมพลาสติก ซึ่งจะกลายเป็นขยะที่ไม่สามารถย่อยสลาย จึงขอให้เราใช้มีดส้อมธรรมดาจะได้ไหม เพื่อจะได้ไม่สร้างปัญหาสิ่งแวดล้อม ฉันจึงเสนอเรื่องนี้ใน SMT และทุกคนเห็นตรงกันว่าควรเปลี่ยน
“เราต้องให้เด็กรู้ว่าพวกเขามีสิทธิ์มีเสียง ดังนั้นเราจึงมีตัวแทนนักเรียน Student Council จากทุกห้อง มี House Captain ซึ่งเป็นตัวแทนของนักเรียนทุกชั้น และปีนี้เป็นครั้งแรกที่เรามี Head of School 2 คน เพราะเราต้องการสอนเด็กเล็กให้มีทักษะความเป็นผู้นำ และความมั่นใจว่าพวกเขาสามารถเปลี่ยนแปลงโลก เราอยากให้นักเรียนของเราเป็นแบบอย่างที่ดี เป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่เด็กเล็กจะเลียนแบบเด็กที่โตกว่า เด็กเล็กของเราจึงได้แรงบันดาลใจอยากเป็นเหมือนพี่ๆต้นแบบ เราจึงควรปลูกฝังสิ่งต่างๆให้แก่พวกเขาตั้งแต่ยังเป็นไม้อ่อน และเตรียมความพร้อมให้พวกเขาเป็นพลเมืองโลกที่ดีต่อไป”