แทนไท ประเสริฐกุล Witcast เป็นลูกชายคนโตของรศ. ดร.เสกสรรค์ ประเสริฐกุล แห่งคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และจิระนันท์ พิตรปรีชา กวีซีไรต์และนักเขียนชื่อดัง และเป็นพี่ชายของวรรณสิงห์ ประเสริฐกุล แห่งรายการสารคดี ‘เถื่อน Travel’
เขาเป็นเจ้าของเหรียญทองแดงจากการแข่งขันโอลิมปิกวิชาการ ในยุคที่การแข่งขันนี้ยังไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลายอย่างเช่นทุกวันนี้ และเป็นนักเรียนทุนพสวท. ที่เพิ่งสำเร็จการศึกษาปริญญาเอกโดยใช้เวลาเรียนนานกว่าเพื่อนร่วมทุนถึง 10 ปี
นอกจากนี้เขายังเป็นเจ้าของมุกตลกแบบเนิร์ดๆ ในพอดคาสต์เนิร์ดๆอย่าง Witcast ที่มีคนฟังขาประจำมากมาย โดยนำเสนอเรื่องที่คนเนิร์ดๆสนใจ และเขาเป็นคนเขียนหนังสือและคอลัมนิสต์สายเนิร์ดที่มีคนติดตามข้อเขียนของเขามากมายเช่นกัน
แทนไท ประเสริฐกุล หรือแทน ได้เปิดโลกการอ่านที่บ้านของคุณยายซึ่งเขาและน้องชายไปใช้ชีวิตวัยเยาว์ที่นั่น ระหว่างที่คุณพ่อคุณแม่ไปเรียนต่อที่อเมริกา ทำให้เขาหลงใหลธรรมชาติ มีของเล่นเป็นด้วงกว่าง และปลากัด ตามสไตล์เด็กต่างจังหวัดยุคนั้น
“เรียนดีเป็นบางวิชา อย่างสปช. (สร้างเสริมประสบการณ์ชีวิต) แต่กพอ.(การงานพื้นฐานอาชีพ) ไม่ค่อยดี จำได้ว่าครูชอบส่งผมไปเป็นตัวแทนโรงเรียนตอบปัญหาวิทยาศาสตร์ เพราะมักจะชนะกลับมา แต่ว่าเลขไม่ค่อยเก่ง พละก็ห่วยมาก”
จนกระทั่งป. 5 เขาจึงย้ายเข้ากรุงเทพฯ เพื่อใช้ชีวิตกับคุณพ่อคุณแม่ และเนื่องจากคุณแม่เห็นว่าเขาชอบเรียนวิทยาศาสตร์ จึงพาไปสอบโครงการพสวท. (โครงการพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี)

“เขาเปิดรับเด็กตั้งแต่ม.ต้น ต้องสอบข้อเขียนและสัมภาษณ์ ปรากฏว่าผมสอบได้ แล้วพอม.4 ปุ๊บก็เข้าโครงการนี้เลย หลังเลิกเรียนก็ติวพิเศษ ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ เลข และเข้าค่ายประจำปีที่เด็กในโครงการทั่วประเทศมารวมตัวกันเพื่อทำความรู้จัก และรุ่นพี่ที่เป็นนักวิทยาศาสตร์ก็มาพูดให้ฟังว่า สาขานี้เรียนแบบนี้นะ น่าสนใจอย่างนี้ๆ บางทีก็พาไปดูดาว ไปเก็บแพลงก์ตอน พอขึ้นม.5 ก็เริ่มถูกดันให้ไปโอลิมปิกวิชาการ ผมเลยได้คลุกคลีในโครงการโอลิมปิกชีวะด้วย”
เขาได้เข้าแข่งขันโอลิมปิกเมื่อตอนม.6 และได้เหรียญทองแดงกลับมา ซึ่งถือเป็นใบเบิกทางให้เขาได้เป็นนักเรียนทุนรัฐบาลไทย ไปเข้าเรียนในสาขา Neuro Science and Animal Behavior ที่ Cornell University สหรัฐอเมริกา การเรียนที่นั่นช่วยเปิดโลกให้แก่เขา
“ตอนเรียนมัธยมเราเรียนไปเพื่อทำข้อสอบปลายภาค แต่มหาวิทยาลัยดึงเราให้ลงลึกสู่โลกวิชาการมากกว่าเดิม เหมือนว่าเราเรียนเพราะอยากไขปริศนาของสิ่งมีชีวิตทั้งมวล ทำให้ผมตื่นตาตื่นใจมาก”
ชีวิตการเรียนที่นั่นทำให้เขามองโลกธรรมชาติในมุมใหม่ เป็นโลกธรรมชาติที่มีแง่มุมแปลกซึ่งพบในสัตว์หลายชนิด “ทำให้อดรู้สึกทึ่งไม่ได้ว่า…มีแบบนี้ด้วยหรือ ไม่ว่จะเป็นสิงโตตัวผู้ที่ฆ่าจ่าฝูงเสร็จก็จะไล่ฆ่าลูกของจ่าฝูงตัวเก่าตายหมด ไม่กินด้วย เพื่อให้ตัวเมียในฮาเร็มพร้อมที่จะมีลูกกับมัน หรือหมึกกระดองตัวผู้ที่หน้าตาเหมือนตัวเมีย เรียกว่า satellite male เมื่อตัวผู้ตัวใหญ่ที่เป็นเจ้าของฮาเร็มเผลอ เจ้า satellite male จะแอบเข้าไปผสมพันธุ์กับตัวเมียแล้วหนีไปอย่างรวดเร็ว ทำให้รู้สึกตื่นตาตื่นใจมาก และอยากหาคำอธิบายต่อไปว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง”

หลังจบจาก Cornell University แทนไทกลับมาเรียนปริญญาโทด้าน Marine Science ที่คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ ตามด้วยปริญญาเอกทางชีววิทยา ที่คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ด้วยความหลงใหลโลกธรรมชาติเหมือนเคย เขาเริ่มสนใจที่จะเขียนหนังสือเกี่ยวกับโลกที่เขาหลงใหลนี้ โดยได้แรงบันดาลใจจากหนังสือในร้านหนังสือที่เขาชอบไปเดินดูระหว่างเรียนอยู่ต่างประเทศ
“ตอนเรียนเมืองนอกผมไปเห็นหนังสือแผนกที่เรียกว่า Popular Science ซึ่งเป็นหนังสือวิทยาศาสตร์ที่มีสาระอ่านสนุก เขียนโดยนักวิทยาศาสตร์ บางเล่มเป็นเบสต์เซลเลอร์ด้วย ทำให้ผมอยากเป็นนักสื่อสารวิทยาศาสตร์ เรามาเติมช่องว่างนี้ก็แล้วกัน”
เขาเขียนหนังสือที่เกี่ยวกับโลกธรรมชาติออกมาหลายเล่ม โดยใช้วิธีการเล่าเรื่องที่ไม่วิชาการจนเกินไป และจากนั้นเขาเจอสิ่งที่เรียกว่า podcast ซึ่งเริ่มมีในโลกนี้เมื่อปี 2005 และจุดประกายให้เขาอยากเป็นผู้จัดบ้าง หลังจากเป็นผู้ฟังมานาน
“เทปแรกมีช่วงเคอะเขินเยอะครับ หน้าที่ผมคือมาเล่าเรื่องวิทยาศาสตร์สายชีวภาพ ก็จะเป็นแนวตลกบ้าๆบอๆ ติงต๊อง เพราะคำขวัญของรายการคือ ‘รายการคุยวิทย์ติดตลก พกไว้ฟังยามเปลี่ยวสมอง’ คีย์หลักของผมคือฮาไว้ก่อน แต่ไม่หยาบคายหรือเกรี้ยวกราด บางทีสุภาพเกินไปเสียด้วยซ้ำ แล้วตอนหลังก็อยากคุยเรื่องหนังด้วย เพราะความเนิร์ดในห้องเรียนมาคู่กับความเนิร์ดในโลกไซไฟด้วย คุยเรื่อง Game of Throne เรื่องจักรวาลมาร์เวล”

เราถามเขาว่ารู้สึกภูมิใจกับrพอดคาสต์ตอนไหนมากที่สุด “มีอยู่ตอนหนึ่งที่ผมรู้สึกว่าเป็นประโยชน์ต่อสังคม คือเราไปสัมภาษณ์ชาวเลที่หาดราไวย์ซึ่งโดนนายทุนไล่ที่ แล้วจากนั้นเขาได้นักวิจัยมาช่วยขุดกระดูกบรรพบุรุษไปตรวจดีเอ็นเอว่าเขาอยู่ที่นี่มา 700 กว่าปีแล้ว ทำให้ชนะคดีในชั้นศาล”
แล้วคิดว่าจะจัดพอดคาสต์ไปถึงเมื่อไร เราถามก่อนจากกัน แทนไทบอกเราด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “ผมคงจะคุยเรื่องที่สนใจอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะแก่ เพราะยังมีความรู้ที่สนุกๆ นอกห้องเรียนอีกเยอะมากที่รอให้เราค้นหา”
ติดตามอ่านบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มได้ใน HELLO! Education 2019 สั่งซื้อได้ที่โทร.084-079-5678,089-921-1174 หรือ shop.burdathailand.com จัดส่งฟรีทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 เมษายน 2563