เด็กสาวผู้หลงใหลตัวเลขและวิทยาศาสตร์ นำพาให้เธอเลือกเรียนดับเบิ้ลเมเจอร์ทางด้าน Economics และ Geographical Data Science
คุณเจส-กิรณา ธีรวรชัย ทายาทรุ่นที่ 2 แห่ง Gems Pavillion และขณะนี้เป็นนักเรียนชั้นปี 3 ที่เลือกเรียนดับเบิ้ลเมเจอร์ทางด้าน Economics และ Geographical Data Science ที่ University of Washington หรือ UW
คุณเจสบอกเราว่า “ที่เลือกเรียนทางด้าน Data Science เพราะเป็นหลักสูตรที่สอนเกี่ยวกับ Computer Science, Coding และซอฟท์แวร์ต่างๆ ที่ใช้ในการจัดการและวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งเจสมองว่ามีความน่าสนใจ และจะเป็นทักษะที่จำเป็นอย่างมากสำหรับการทำงานในอนาคต”
“ยิ่งไปกว่านั้นเจสยังมองว่าการเรียนรู้เกี่ยวกับ Data Analysis จะช่วยส่งเสริมความรู้ด้าน Economics ที่ตัวเองสนใจและกำลงศึกษาอยู่ ยกตัวอย่างเช่น การเรียนเกี่ยวกับแพลตฟอร์ม ArcGIS online mapping ที่สอนโดยมืออาชีพจากบริษัทชั้นนำอย่าง Amazon หรือ Google นั้น ช่วยให้เจสเข้าใจถึงการนำความรู้ทั้งเชิง Data และ Economics มาประยุกต์ใช้เข้าด้วยกันในการวิเคราะห์ข้อมูลของผู้บริโภค ซึ่งงานในห้องเรียนนั้นเน้นการฝึกฝนทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ เพื่อให้ผู้เรียนสามารถนำความรู้ไปใช้ได้จริง”

นอกจากนี้เธอยังเลือกเรียนไมเนอร์ทางด้าน Business Administration อีกด้วย คุณเจสอธิบายว่าเหตุผลที่เลือกไมเนอร์ทางนี้ ก็เพื่อจะได้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับความรู้พื้นฐานทางด้านการประกอบธุรกิจซึ่งจะช่วยเสริมทักษะในการเป็นผู้ประกอบการ อีกทั้งยังช่วยเสริมทักษะการบริหารจัดการการเงินในชีวิตประจำวัน
นอกเหนือจากการเรียน คุณเจสชอบและสนุกกับการทำกิจกรรม ตอนนี้เลยรับหน้าที่เป็น ประธานของนักศึกษาไทยใน University of Washington คอยดูแลช่วยเหลือเพื่อนๆ รุ่นพี่รุ่นน้อง สร้างความสัมพันธ์ที่ดีในกลุ่ม โดยติดต่อกับทาง Alumni และมหาวิทยาลัยอื่นๆในอเมริกา
และขณะนี้คุณเจสก็กำลังจะก่อตั้ง Personal Finance Club ขึ้นมาใหม่กับเพื่อนร่วมห้องเรียน เพื่อช่วยเหลือนักเรียนในมหาวิทยาลัยเรื่องการเงินส่วนตัว โดยช่วยสนับสนุนให้นักเรียนออมเงิน หรือช่วยให้มีอิสรภาพทางการเงิน ซึ่งทั้งนี้สามารถทำให้คุณเจสมีโอกาสร่วมก่อตั้งสมาคมนี้กับเด็กอเมริกันและเด็กชาติอื่นๆ แต่เนื่องจากจุดเริ่มต้นของสมาคมนี้มาจากคลาสเรียนเล็กๆ คลาสเรียนหนึ่งในมหาวิทยาลัย “ตอนนี้ยังไม่มีเด็กไทยคนอื่นเข้ามาร่วมในการก่อตั้งนี้ค่ะ” คุณเจสบอกกับเรา
จากหลักสูตรอังกฤษสู่หลักสูตรอเมริกา
หากย้อนกลับไปสมัยคุณเจสเรียนที่เมืองไทย คุณเจสเรียนที่ Shrewsbury International School Bangkok ซึ่งเป็นหลักสูตรอังกฤษมาโดยตลอดจนถึง Year 8 ใน Year 9 จึงตัดสินใจไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ และลองสิ่งใหม่ๆด้วยการเข้าเรียนที่ St. Swithun’s School ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำหญิงล้วนอันดับต้นๆ ของสหราชอาณาจักร

หลังจากไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่ต่างแดนได้ 1-2 ปี คุณเจสก็ตัดสินใจกลับมาที่ Shrewsbury International School Bangkok เพื่อมุ่งมั่นศึกษาด้าน STEM ที่ตัวเองสนใจต่อ
หลังจากคุณเจสจบมัธยมปลายแล้ว เธอเลือกที่จะเรียนต่อมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา ไม่ใช่อังกฤษที่ตนเองคุ้นเคย นั่นเพราะเธอเห็นว่า “หลักสูตรอังกฤษมีคอร์สตายตัว ไม่เหมือนหลักสูตรอเมริกาที่มีให้เลือกทั้งเมเจอร์ ดับเบิ้ลเมเจอร์ ไมเนอร์ค่ะ” ซึ่งเปิดโอกาสให้คุณเจสได้ลองเรียนวิชาที่หลากหลายเพื่อค้นหาในสิ่งที่ตัวเองสนใจและคิดว่าอยากเดินหน้าต่อไปในอนาคต
คุณเจสเลือกที่จะเรียนที่ UW เพราะเป็นมหาลัยที่มีชื่อเสีบงทางด้านหลักสูตรวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์อีกทั้งยังขึ้นชื่อด้านงานค้นคว้าและงานวิจัยต่างๆ ในส่วนของที่ตั้งในเมืองซีแอทเทิลเองนั้นก็ถือว่าเป็นเมืองที่ทันสมัย และมีความสำคัญเชิงเศรษฐกิจ ทำให้บริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่งต่างมาเปิดสาขาในซีแอทเทิล และเปิดโอกาสรับนักศึกษาฝึกงานจากทาง UW
ฝึกงานเพิ่มพูนความรู้
ซัมเมอร์ที่ผ่านมา คุณเจสได้มีโอกาสไปฝึกงานด้าน Finance และ Economics กับ Finansa Securities ในส่วนของ Investment Banking

“การฝึกงานครั้งนี้ เจสได้รับโอกาสในการเรียนรู้และวิเคราะห์ข้อมูลของบริษัทต่างๆ ที่กำลังจะทำการ IPO เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ โดยงานของเจสนั้น คือการวิเคราะห์รายละเอียด และข้อมูลงบทางการเงินของบริษัทแต่ละแห่ง เพื่อดูว่าบริษัทมีจุดแข็งตรงไหน และเมื่อเปรียบเทียบกับบริษัทอื่นๆในตลาดแล้วมีสถานะเป็นยังไง ในงานสายนี้ถ้าเรามีความรู้ทางด้าน IT ด้วยก็จะมีประโยชน์มาก เพราะจะสามารถเขียนโปรแกรมเพื่อใช้ในการเรียบเรียงและวิเคราะห์ data ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้นค่ะ”
อนาคตที่ทอดรออยู่
ปี 2024 คุณเจสจะสำเร็จการศึกษาจาก University of Washington ซึ่งน่าจะเป็นปีที่ต้องทำวิทยานิพนธ์ สำหรับเมเจอร์ทั้ง 2 สาขานี้ ซึ่งเจ้าตัวบอกกับเราว่า
“สำหรับ Geographical Data Science กำลังตัดสินใจอยู่ค่ะ เพราะรู้สึกว่ามีหลายหัวข้อที่น่าสนใจ และอยากลองค้นคว้าอย่างละเอียดก่อน ส่วนของ Economics นั้น เจสคิดอยู่แล้วว่าอยากทำเทางด้าน Behavioral Economics เพราะเป็นเรื่องที่เจสสนใจอย่างมาก ซึ่งหนึ่งในแรงบัดาลใจในการเลือกหัวข้อนี้ก็มาจากการที่ได้อ่านหนังสือ Thinking Fast and Slow ซึงเจสรู้สึกว่าเป็นเรื่องน่าตื่นตาตื่นใจและชวนให้ขวนขวายหาความรู้ต่อ”

ส่วนเรื่องของการเรียนต่อปริญญาโทนั้น คุณเจสกล่าวเพิ่มเติมว่า “เจสเองก็ยังไม่ได้ตัดสินใจชัดเจนเพราะมองว่าอย่างน้อยก็อยากทำงานเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ก่อน เพราะเจสมองว่าความรู้และประสบการณ์จากการทำงานต่างๆ จะช่วยส่งเสริมในการนำมาประยุกต์ใช้ตอนเรียนโทอย่างมาก”
กับชีวิตภายหลังจบการศึกษาของคุณเจสจะเป็นอย่างไรนั้น เธอบอกเราว่า “คงต้องดูว่างานแต่ละอย่างพัฒนาไปถึงไหนแล้ว เพราะในปัจจุบันทุกอย่างเปลี่ยนแปลงเร็วมากตามความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ส่วนตัวเจสคิดว่าถ้าหลังจากเรียนจบแล้ว อยากหางานทำที่อเมริกาให้ได้ เพราะเจสมองว่าการเริ่มทำงานที่นี่จะช่วยให้เจสเรียนรู้สิ่งใหม่ๆอยู่ตลอด และช่วยเปิดโอกาสให้เราเติบโตอย่างรวดเร็ว หลังจากสั่งสมความรู้จากการทำงานที่อเมริกาสักพักแล้ว เจสจึงอาจจะตัดสินใจนำประสบการณ์เหล่านั้นกลับไปประยุกต์ใช้กับการทำงานที่ไทย”
“ส่วนเรื่องงาน ถ้าเป็นไปได้ก็อยากทำงานเกี่ยวข้องกับทุกสาขาที่เรียนมา เพราะมีบางธุรกิจที่สามารถนำความรู้ด้าน Data, Economics, และ Business มาประยุกต์เข้าด้วยกันได้ แต่ก็มีหลายคนเข้าใจผิดคิดว่า Big Data คือทุกอย่าง เจสเลยอยากบอกว่า Big Data ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ทุกอย่าง อาจจะต้องมีส่วนประกอบอื่นๆเป็นตัวช่วยด้วยค่ะ”